หากภาพนี้ทั้งภาพคือสมรรถนะเป้าหมายของเรา การมองแต่ละจุด คือการเห็นองค์ประกอบของสมรรถนะ ความพยายามในการฝึกแต่ละองค์ประกอบของแต่ละสมรรถนะ เป็นสิ่งสำคัญ แต่ถ้าลืมภารกิจหรือ Task สำคัญในการกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ K S A อย่างหลอมรวม อาจทำให้กิจกรรมไม่สามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะตามเป้าหมายได้

การวิเคราะห์ K S A ที่ชัดเจน ทำให้เห็นกิจกรรมการเรียนการสอนในแต่ละขั้นตอน แต่หากขาดความตระหนักถึงกิจกรรมที่จะกระตุ้นให้นักเรียนได้ใช้ K S A อย่างหลอมรวม จะเป็นการผ่านจุดประสงค์แต่ละข้อ แต่ไม่สามารถกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะได้

ในระหว่างการพัฒนาสมรรถนะ ผู้สอนเชื่อมโยง K S A เพื่อออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ จะช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนได้หลอมรวม K S A ในการพิชิตภารกิจ

แบบนี้อาจจะดูระบุตัวแปรให้นักเรียนทราบตั้งแต่ต้นเกินไป แต่ช่วยให้ครูเห็นการออกแบบกิจกรรมที่ชัดเจน

ขอบพระคุณ ดร.นพรัตน์ ศรีเจริญ ที่แนะนำการเขียนจุดประสงค์เชิงสมรรถนะอย่างครอบคลุม

การออกแบบกิจกรรมจะพยายามกระตุ้น A ให้นักเรียนเกิดความสนใจ ฝึกฝน K S เและเมื่อเข้าใจในการทำกิจกรรม จะเกิด A ในระดับการนำไปปฏิบัติ

ลองพิจารณากันอีกทีนะคะ

ประเด็นที่ 1 เราจะเขียนแยกหรือรวมก็ได้ แต่ครูต้องออกแบบภาระงานหรือชิ้นงานที่กระตุ้น K S A ได้ (กรณีเขียนแยก แล้ววัดแต่ละตัว พอทุกตัวผ่านไม่ได้หมายความว่า มีสมรรถนะ ถ้าตัวแต่ละตัวเป็นแค่ความรู้หรือทักษะ) ดังนั้น อย่าลืมว่า Performance หรือ Product สุดท้ายต้องสะท้อนสมรรถนะ

ประเด็นที่ 2 (อ้างอิงจากกิจกรรม) ปกติเขียน แยก เด็กก็จะไปเรียนรู้เรื่องโรค เพื่อสร้างความตระหนัก แต่ถ้าเราออกแบบตั้งแต่เก็บข้อมูลกิจกรรมที่ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจ ของคนปกติและคนป่วย เด็กจะเรียนรู้ด้วยว่า นี่คือการทำงานของหัวใจที่ไม่ปกติ อาจล้มเหลวได้ จะเกิดความตระหนักเพราะความเข้าใจจากการทำกิจกรรม ไม่ใช่แค่อ่านเรื่องโรค ตรงนี้จึงจำเป็นว่า ครูต้องมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์หรือภารกิจที่ทำให้นักเรียนได้ใช้ K S A

ประเด็นที่ 3 การออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมสมรรถนะ จะคำนึงถึงการท้าทายให้นักเรียนใช้ความรู้ ความสามารถ เจตคติในการแก้ปัญหา/สร้างสรรค์ผลงาน ทำให้เกิดการบูรณาการกิจกรรม จึงสามารถก้าวข้ามการจดจำเพียงเนื้อหาได้

หวังว่าคุณครูจะได้ไอเดียในการเขียนจุดประสงค์เชิงสมรรถนะนะคะ

ขอขอบพระคุณวง PLC กองหน้า กลางและหลังบ้านค่ะ