ค้นพบเพศที่แท้จริงของตนเอง ภายใน 3 วินาที

ค้นพบเพศที่แท้จริงของตนเอง ภายใน 3 วินาที

แนวคิดเรื่องเพศประกอบไปด้วย 3 มิติที่ต้องพิจารณาร่วมกัน ได้แก่ เพศทางร่างกายสรีระ (Sex) เพศที่เป็นบทบาททางสังคม (Gender) และเพศในทางกามารมณ์ เพศสัมพันธ์ และอารมณ์ความรู้สึก (Sexuality,Sexual Orientation)

1. เพศสรีระ (Sex) หรือมักใช้คำว่าเพศโดยกำเนิด หมายถึง อวัยวะเพศ ลักษณะเพศทางกายภาพที่ มองเห็นจากภายนอก และเพศที่ถูกระบุทางพันธุกรรมหรือโครโมโซม (ชาย XY หญิง XX ) แต่ก็ยังมีบุคคลที่เกิดมามีอวัยวะเพศ หรือมีลักษณะทางกายภาพ หรือ พันธุกรรมที่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเพศใดเพศหนึ่ง หรือที่เรียกว่า Intersex

2. เพศภาวะหรือเพศสภาพ (Gender) หมายถึง บทบาทความเป็นเพศที่ถูกกำหนดและประกอบสร้าง ขี้นจากขนบธรรมเนียม ประเพณี โครงสร้างอำนาจ และกลไกทางสังคมต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อการนิยามตนเอง หรืออัตลักษณ์ทางเพศ (Gender Identity) และการแสดงบทบาททางเพศ หรือตัวตนทางเพศของบุคคลในสังคม เช่น การแสดงบทบาทความเป็นหญิง หรือความเป็นชาย 

3.เพศวิถี(Sexuality) หมายถึง วิถีชีวิตทางเพศในทางกามารมณ์ และในด้านตวามรักความรู้สึก ซึ่ง หมายรวมถึงรสนิยมทางเพศ ความรู้สึกดึงดูด ความปรารถนาทางเพศ ความรู้สึกรักใคร่ชอบพอ หรือพฤติกรรม ในความสัมพันธ์ทางเพศของบุคคล เช่น การรักเพศเดียวกัน (Homosexuality) การรักสองเพศ (Bisexuality) บุคคลที่ระบุว่าตนเองไม่ได้ รัก ไม่ได้ชอบเพศใดๆ หรือไม่ได้ชอบบุคคลแบบหนึ่งแบบใดเลย (Asexual) และบุคคล ระบุว่าตนเองรักและพึงพอใจบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเพศ ทั้งเพศสรีระ เพศสภาพ และ เพศวิถี (Pansexual)

ให้นักเรียนลองค้นพบเพศที่แท้จริงของตนเองดูกันค่ะ

ฉันคิดว่าตนเองเป็นเพศใด?

เราสามารถทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศให้ง่ายขึ้นโดยดูจากรูป Gender Bear ซึ่งแบ่ง เพศของบุคคลออกเป็น 4 ด้านได้แก่ เพศกำเนิด (อยู่ที่อวัยวะเพศและโครโมโซม) ชาย intersex หญิง

อัตลักษณ์ทางเพศ (อยู่ที่สมอง - ฉันคิดว่าตนเองเป็นเพศใด) ชาย Gender queer/others หญิง

เพศวิถีหรือวิถีทางเพศ (อยู่ที่หัวใจ - ฉันรู้สึกดึงดูดต่อเพศใด) ชาย Both/all None หญิง

การแสดงออก ทางเพศ (อยู่ที่ร่างกาย - บทบาทที่ฉันแสดงออกเป็นเพศใด) ชาย Androgynous/others หญิง

ซึ่งเพศทั้ง 4 ด้านไม่จำเป็นต้องเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน เช่น เกิดมามีอวัยวะเพศหญิง แต่อาจจะนิยามตนเองเป็นผู้ชาย และแสดงออกผ่านท่าทาง กริยา และ การแต่งกายแบบผู้ชาย (เป็นผู้ชายข้ามเพศ) และมีความรักใคร่ชอบพอกับคนที่เป็นผู้ชายเหมือนกัน (และเป็น ชายรักชาย) หรือเกิดมาเป็น Intersex และนิยามตัวเองเป็นผู้หญิง แสดงออกแบบ Androgynous หรือกึ่งหญิงกึ่ง ชาย (ไม่แสดงออกชัดเจนในความเป็นหญิงหรือเป็นชาย เช่น แต่งตัวแบบ Unisex) มีรสนิยมชอบทั้งหญิงและ ชาย เป็นต้น ถ้าเราเข้าใจความหลากหลายที่เกิดขึ้นได้ของทั้ง 4 มิติ เราก็จะเข้าใจว่าความหลากหลายทางเพศมี มากมายไม่สิ้นสุด

ที่มา : ดร.ชีวา ทองกระจาย stou.ac.th/Schoolnew/polsci/UploadedFile/82427-8.pdf

ความสามารถอยู่เหนือเพศสภาพ ความเท่าเทียมทางเพศ