พญาแถนบันดาลฝน

ประเพณีบุญบั้งไฟ เพื่อขอฝนจากพระยาแถน แล้วนอกจากจุดบั้งไฟแล้ว มีวิธีไหนที่จะบอกพญาแถนได้อีกว่าของฝนหน่อยจ้าาาาาาา

ระดมสมองกันได้มากมาย เลือกที่สามารถทำได้เองมา 4 วิธี คือ พลุ บั้งไฟ จรวด และว่าว

จุดพลุ ครูเป็นคนจุดให้ เพราะค่อนข้างอันตราย เสียงดังสนั่นมาก

จรวดกระดาษ

ว่าว

บั้งไฟคือ จุดยากกว่าที่คิดมาก จุด 2 รอบ ไม่ขึ้นสักรอบ

หัวทิ่มไปเรย พญาแถนอดดูบั้งไฟ

บันทึกผลว่าอะไรที่น่าจะไปถึงพญาแถน ใช้เกณฑ์ว่าไม่ตกลงมา

และเมื่อท่านพญาแถนรับรู้แแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาก็คือฝนนนนนนนนนนนนนนนนนน แล้วฝนมันตกมาได้ยังไงละ?

วัฎจักรฝน ที่ว่า ไอน้ำระเหยเป็นไอแล้วควบแน่นกลายเป็นเมฆ อาจจะซับซ้อนเกินไปเลยอธิบายแค่คร่าวๆพอ

และอธิบายเพิ่มด้วยการทดลองการเกิดฝน ข้างล่างเป็นน้ำร้อนนะคะ ข้างบนเป็นน้ำแข็ง ไม่ต้องหยดน้ำลงไปสักพักไอน้ำจะหยดลงมาเอง แต่ทางเราใจร้อนเลยหยดไปเลยให้มันเห็นฝนเป็นเม็ดๆ

และลองให้เด็กๆสังเกตท้องฟ้าเวลาก่อนฝนตกและขณะฝนตกว่าต่างกันอย่างไร

จะให้สังเกตจากนิทานหรือท้องฟ้าจริงๆเลยก็ได้นะคะ

และเมื่อรู้วิธีการขอฝนและรู้ที่มาของฝนแล้ว ก็ต้องรู้วิธีหลบฝนด้วยยยย

มีอุปกรณ์ต่างๆให้เด็กๆลองเลือกว่าอะไรที่คิดว่าใช้กันฝนได้บ้าง ที่เตรียมไว้ก็คือ กล่องพลาสติก ถุงพลาสติก ใบไม้ หมวก ร่มและกระดานไม้

ก่อนไปทดสอบว่าสิ่งที่เลืกไว้กันฝนได้จริงไหม เด็กๆใส่ชุดกันฝนกันไว้อีกชั้นหนึ่งก่อนแล้ว

ได้เวลาทดสอบ ใช้สปริงเกอร์ กับโครงชิงช้าที่ไม่ได้ใช้แล้ว ค่อนข้างเหมือนฝนจริงเลย

โดยเด็กๆจะเลือกอุปกรณ์ที่ต่างกันไปในแต่ละรอบว่าอะไรที่กันฝนได้ดีที่สุด

เมื่อทดลองเสร็จก็ใช้เขาเล่นน้ำฝนต่อสัก 15 นาที ใส่เสื้อกันฝนแต่ก็เปียกทั้งตัวอยู่ดี

และเมื่อเล่นน้ำเสร็จ เปลี่ยนชุดเสร็จ ก็สรุปร่วมกันว่าอะไรที่ใช้กันฝนได้ดีที่สุด และอะไรที่กันไม่ได้ ที่กันฝนดีที่สุดก็ต้องร่มอยู่แล้ว และที่กันไม่ค่อยได้คือหมวกผ้า แต่อันอื่นก็พอกันได้อยู่เหมือนแต่ดีสุดก็คือร่มอยู่แล้ว

หน่วย ฤดูฝน สิ่งที่มากับฝนก็คือ ฟ้าร้อง ฟ้าแล่บ ฟ้าผ่าไง แล้วช่วงนี้ช่วงทำนา เดินเล่นตามทุ่งนาเวลาฝนตกก็คือสายล่อฟ้าดีๆนี่เอง ไม่ผ่าคนก็เสาไฟ ต้นไม้ บ้านคน เลยคิดว่าเด็กๆคนรู้วิธีเอาตัวรอดจากฟ้าผ่าไปได้ เพราะทุกคนไม่ใช่ แบร์รี่ อัลเลน ที่จะวิ่งหนีฟ้าผ่าได้

อันดับแรกคือ เซ้นส์ก่อนฟ้าผ่า คือตามแหล่งข้อมูล ใช้คำว่าก่อนเกิดฟ้าผ่าจะมี tingling sensation… แปลยังไง ความ tingling เข้าใจแต่แปลไม่ได้ เสียวงี้หรอ เลยบอกขนลุกพอ และท่าหมอบสำหรับหลบฟ้าผ่าคือ ต้องให้เท้าสองข้างชิดกันมากที่สุดพร้อมเขย่งให้ปลายเท้าติดพื้นน้อยที่สุด มือปิดหูทั้งสองข้างและหลับตาให้สนิท ซ้อมกันแล้วก็ต้องลองหลบฟ้าผ่าจริงๆ ข้างๆอาคารมาลานโล่งๆพอดี เลยให้เด็กๆลองเดินเก็บดอกไม้มาทับทำดอกไม้แห้งไว้ใช้ทำศิลปะ และซาวน์ฟ้าผ่าก็คือ ประทัดลูกบอลค่ะ ดังสนั่น ครูคนอื่นด่าสนั่นเหมือนกัน ตู้มแรกคือเด็ก งง ว่าจุดทำไม มานึกได้ทีหลังว่าอ่อนี่คือฟ้าผ่า แต่ตู้มต่อไปก็คือฉลาด นางไปหลบแล้วสมมติว่าเป็นบ้าน เค รอดแน่นอน ฟ้าผ่าทำไรเขาไม่ได้หรอก

และทบทวนการปฐมพยาบาล CPR และเบอร์ฉุกเฉิน 1669 และย้ำว่าห้ามโทรเล่น

สุดท้ายคือสอนดูแอพพยากรณ์อากาศและถ้าอยู่บ้านตอนฟ้าผ่าควรทำอะไร? ถอดสายสัญญาณต่างๆ อยู่ใกล้ผู้ใหญ่ ไม่ออกนอกบ้าน

แถมงานประดิษฐืกันสักนิด

เสนอ ร่มโอริกามิ ค่ะ

วิธีทำไม่ยากค่ะ ตัดกระดาษเป็นรูปวงกลมแล้วพับครึ่ง 2 ทบแล้วเอามาประกบกัน 6-7 อันกำลังสวยค่ะ

วิธีทำตามคลิบนี้ได้เลยค่ะ ---> youtu.be/ooO9p8Q_xAI

หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคนนะคะ ฝนตกแบบนี้รักษาสุขภาพด้วยนะคะ