ความเป็นมา

จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1  พบว่า นักเรียนขาดการพัฒนาพฤติกรรมการรับประทานอาหารกลางวัน นักเรียนไม่ชอบรับประทานอาหารกลางวันและมักจะชอบรับประทานขนมขบเคี้ยวแทน ไม่มีความตระหนักและใส่ใจในการดูแลสุขภาพตนเอง ทำให้แนวโน้มปัญหาภาวะโภชนาการเกินในเด็กวัยเรียนเพิ่มมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อสุขภาพและพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็กในวัยเรียน ประกอบกับอิทธิพลของสิ่งแวดล้อม ทัศนคติ และแบบอย่างในครอบครัวจึงทำให้นักเรียนมีสุขปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องด้วยเหตุผลและความสำคัญดังกล่าว ผู้ศึกษาจึงได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก...สุขภาพดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์  สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 1 เพื่อปลูกฝังให้เห็นความสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย สร้างพฤติกรรมที่ดีและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารที่ดีขึ้น รู้คุณค่าของการกินอาหาร รู้คุณประโยชน์ของอาหารแต่ละหมู่เพื่อการกินอาหารแบบถูกสุขลักษณะในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้นยังเป็นแนวทางในการพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มุ่งพัฒนาทักษะชีวิต และคุณภาพชีวิตของผู้เรียนให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ การกินอาหารกลางวัน โดยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

การนำนวัตกรรมไปใช้

     การนำนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนา/แก้ปัญหา ของนวัตกรรมการพัฒนาทักษะ กระบวนการคิด เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “กินถูก....สุขภาพดี” ผู้ศึกษาได้ดำเนินการดังนี้

         1. นำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นจำนวน 20 ข้อไปทดสอบกับนักเรียน บันทึกคะแนนเป็นคะแนนก่อนเรียน

         2. ดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบ Active Learning เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “กินถูก....สุขภาพดี” ตามแผนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้ศึกษาได้สร้างขึ้น จำนวน  4  แผน ใช้เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทั้งหมดจำนวน 4 ชั่วโมง

         3. ในระหว่างการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ของแต่ละแผนให้นักเรียนทำกิจกรรมตามใบงาน และเก็บรวบรวมคะแนน เพื่อหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม                การเรียนรู้ “กินถูก....สุขภาพดี” ในการจัดการเรียนรู้ หลังดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนเสร็จสิ้น นักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น

4. หลังการดำเนินการทดลองครบทั้งหมด 4 แผนการสอนแล้ว ผู้ศึกษาได้ทำการทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดเดิม แล้วบันทึกผลเป็นคะแนนหลังเรียน

ผลการใช้นวัตกรรม

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ 

ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสันกำแพงคันธาอนุสรณ์  พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ ดีขึ้น

     อภิปรายผล

         ผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ปรากฏว่า ผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักเรียนหลังการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี มีคุณภาพและประสิทธิภาพอย่างดียิ่ง ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “กินถูก....สุขภาพดี” มีคุณภาพและประสิทธิภาพตามผลของ

การวิเคราะห์ข้อมูลดังกล่าว 

2. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ “กินถูก....สุขภาพดี” ชุดนี้สร้างขึ้นอย่างถูกวิธี ได้ผ่านขั้นตอน

การสร้างและพัฒนาอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่เอกสารหลักสูตรและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการใช้หลักสูตร และยังได้รับการแนะนำ ข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านเนื้อหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ความเหมาะสมของเนื้อหา          

3. การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ "กินถูก....สุขภาพดี" ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ได้อย่างเหมาะสมกับเนื้อหา

4. การจัดการเรียนรู้เรื่อง การสร้างเสริมสุขภาพ  การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ "กินถูก....สุขภาพดี" ได้เรียงลำดับความยากง่ายสอดคล้องตามธรรมชาติการเรียนรู้  ทำให้รู้สึกว่าตนเองประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ 

จึงสรุปได้ว่า การจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กินถูก....สุขภาพดี มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง สามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ส่งผลให้ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และมีการรับประทานอาหารกลางวันที่ถูกลักษณะขึ้น