ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่า…ครูผู้สอนถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการก่อร่างสร้างการศึกษาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมของการศึกษาที่ครูเป็น “ผู้นำทางแต่ไม่ชี้นำ“ แต่การเรียนรู้ที่ดีนั้นครูต้องพาไปในทิศทางที่เด็กกล้าที่จะสะท้อนให้คิด ซึ่งการสะท้อนคิด การฟังนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะกับเด็กเปลี่ยนบทบาทครูมาเป็นผู้ฟัง/รับฟังให้มากขึ้น มากกว่าที่จะปล่อยให้สอนบรรยายแบบลากยาวจนหมดคาบ แต่มุ่งส่งเสริมสะท้อนคิด/มุมมองจากกิจกรรม
เรื่องเล่าจากห้องเรียนประวัติศาสตร์byครูชุ เริ่มจากมีกระแสออเจ้าได้ฟีเว่อร์ และอินกันจัดๆ + ทำรายได้ทะลุ 300 กว่าล้าน เราเลยตั้งโจทย์การสอนว่า จะใช้หนัง/ละคร บุพเพสันนิวาส มาสอนอะไรให้เด็กๆ ที่สะท้อนมุมมองการให้ข้อมูลทางวัฒนธรรม และเชื่อมโยงเนื้อหาเกี่ยวกับบุคคลสำคัญชาวไทยและต่างประเทศ และจัดการความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยได้นี่นาาาา…เลยพานักเรียนทำกิจกรรมในหัวข้อ เรียนประวัติศาสตร์ผ่านละคร/หนัง บุพเพสันนิวาส : ภาพสะท้อนด้านการถ่ายทอดข้อมูลทางวัฒนธรรม
จากละคร/หนังเรื่องนี้ทำให้เกิดการสะท้อนทางสังคมของคนไทยได้ดีนัก ซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมและการผสมผสานในปัจจุบัน และเป็นหนังที่สะท้อนความจริงของสังคมเป็นเสมือนกระจกสะท้อนสังคมได้เป็นอย่างดี ออกมาให้เห็นภาพสะท้อนชีวิตมนุษย์ ธรรมชาติ ประเพณี วัฒนธรรมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ บุคคสำคัญที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ เลยหยิบยกเอานวนิยายเรื่องนี้มา
1.เริ่มเลยละกัน วันนี้รับบททหารอยุธยาแล้วท่านหนึ่งใส่เสื้อเสนากุฎมาเลยจ้า 5555 กิจกรรมนี้เน้นกระบวนการกลุ่ม และครูสนทนาร่วมกับนักเรียน เช่น มีประเด็นใดน่าสนใจ/นักเรียนตั้งคำถามข้อสงสัยประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับความจริงทางประวัติศาสตร์ แล้วคิดว่า ละคร/หนัง เรื่อง บุพเพสันนิวาส ผู้เขียนบทต้องการจะสะท้อนเรื่องใด
>>อยากให้ฟิวส์แบบว่า รีวิวหนังยังไงยังงั้น สบายๆ ชอบอะไรในหนังเรื่องนี้บ้าง ซึ่งไม่เถียง เด็กบอกเป็นเสียงเดียวกันพระเอกหล่อ555 เราเองเลยต้องดึงกลับหน่อยๆ
2.จากนั้นให้ Action/Activity ให้แต่ละคนเขียนประเด็นสะท้อนมุมมองทางสังคมจากละคร/หนัง เรื่องบุพเพสันนิวาส ของตนเองลงบน post it จากนั้นให้นักเรียนวิเคราะห์และแยกแยะประเด็นที่นักเรียนเขียนเป็นภาพสะท้อนด้านการถ่ายทอดข้อมูลทางวัฒนธรรมในมิติใด แล้วนำไปติดลงบนกระดานหน้าชั้นเรียนที่เกี่ยวข้อง
>>แนะนำให้เกิดการสะท้อนตนเอง เป็นพื้นที่ที่ทำให้เราได้สำรวจมุมมอง ความเชื่อ ของตนเอง จากนั้นให้แลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนข้างๆ ซึ่งมันอาจค่อยๆ เปลี่ยนไปจากมมุมมองเดิม ในส่วนนี้เองที่จะทำให้เกิดความเข้าใจกันและกันมากขึ้น เข้าใจตัวเองเห็นมุมมองใหม่ของเพื่อน จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางประสบการณ์ใหม่จากการฟัง โดยใช้กระบวนการ Transformative Learning การสะท้อนความคิดในมุมมองของตัวเอง ผ่านการสวมใส่แว่นทางประวัติศาสตร์ โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนเปิดกล่องสุ่มและจับประเด็นที่จะศึกษา เช่น ความเชื่อ / วิถีปฏิบัติคนไทยโบราณ / เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ / ภาษา
>>ในช่วงนี้เราได้รับฟังเสียงสะท้อนจากเด็ก ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลย พูดถึง “ค่านิยม” ในสมัยโบราณที่มีและและค่านิยมที่เปลี่ยนแปลงไป เราเลยถามต่อไปว่า แล้วค่านิยมใดที่ควรถูกปลูกฝังล่ะ ทำไมจึงคิดเช่นนั้น มันดีอย่างไร และค่านิยมใดไม่ควรจะมีแล้วหรือควรยกเลิกไปซะ : ถึงตอนนี้ห้องเรียนเต็มไปด้วยเสียงสะท้อนที่ดังขึ้น แต่ละคนต่างยกมือแย่งกันพูดเชียว (ค่อยๆพู๊ดดด ทีละคน555)
-พูดถึงความเท่าเทียม
-การแต่งกาย
-ความคาดหวังของผู้ปกครอง
-ความเชื่อทางศาสนาที่มีมาตั้งแต่เกิด (มีบางคนบอก เออได้ไง)
ซึ่งเราเลยชวนกลับบทเรียน แล้วบอกว่า หากเราให้เกียรติคนอื่นมากเท่าไหร่ เคารพกันและกันมากขึ้นโลกก็จะน่าอยู่ (กว่าจะหาทางลงได้ 5555)
3.จากนั้นให้แต่ละกลุ่มศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมตามหัวข้อที่มอบหมายและสนทนากันในกลุ่ม เช่น มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจนอกจากนี้อีกหรือไม่ โดยให้นักเรียนเพิ่มเติมข้อมูลลงบน post it ซึ่งในตอนนี้เด็กจะได้ recheck ตัวเองและมุมมองของเพื่อน จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนำเสนอแลกเปลี่ยนภายในชั้นเรียน
ในตอนนี้ครูอาจกวนตะกอนไปอีก
4.ครูใช้คำถามเชิงรุก เช่น
- การสืบทอดและความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมไทย ส่งผลต่อปัจจุบันอย่างไร
-ประเด็น/มุมมองที่เขียนใน post it สามารถอธิบายและยกตัวอย่างประเด็นการสืบทอดและความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมไทย ส่งผลต่อปัจจุบันอย่างไรในหัวข้อที่มอบหมาย
ซึ่งการเข้ามาของต่างชาตินั้นส่งอิทธิพลกับสยามอย่างไร และสยามปรับตัว/รับมืออย่างไรบ้าง
>>ในตอนนี้มุ่งส่งเสริมการรับฟังอย่างลึกซึ้ง มุมมองที่มีความหมาย เพื่อที่จะให้คำตอบมีลักษณะเปิดกว้าง สิ่งนี้นำไปสู่การเรียนรู้ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่เรามองตัวเอง เห็นมุมมองของเพื่อนในห้อง ลึกๆแล้วอยากให้เกิดการยอมรับและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นไปด้วยน่ะแหละค่ะ หรือเรียกว่าself-reflection จะทำให้ผู้เรียนได้เข้าใจ ความเชื่อชุดเดิมของตัวเองที่มี เป็นการสะท้อนตัวเองผ่านการตรวจสอบโดยการตั้งคำถามและตอบอย่างตรงไปตรงมาซึ่งจะช่วยทำให้เกิดการเรียนรู้ที่เปลี่ยนแปลงมุมมองที่ตนเองมีกับมุมมองของเพื่อน เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะการอยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มและการรับฟังอย่างลึกซึ้ง จะช่วยทำให้เรามองเห็น มีมุมมองใหม่ ได้รับประสบการณ์ และทักท้วงความเชื่อของตัวเองที่มีได้ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน Transformative learning เกิดจากการฟังอย่างลึกซึ้งเป็นพื้นฐานที่ช่วยทำให้กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้แตกต่างจากการถกเถียงที่พบอย่างทั่วไป
5.สุดท้ายครูยกตัวอย่างประเด็นที่น่าสนใจเพิ่มเติม เช่น เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ บุคคลสำคัญจากละคร/หนัง บุพเพสันนิวาส มีบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์กี่คน ใครบ้าง อยู่ในยุคสมัยใดเป็นต้น เพื่อทำการศึกษาต่อไป
6.จากนั้นก็ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกศึกษาประวัติและผลงานของบุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทยที่มีอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์ จำนวน 1 บุคคล
7.นักเรียนสืบค้นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่แสดงการมีตัวตนในหน้าประวัติศาสตร์ เชื่อมเนื้อหาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (ทบทวนความรู้เดิม แยกแยะหลักฐาน/ประเมินคุณค่าหลักฐาน)
8.จากนั้นให้นักเรียนวางแผนและสร้างชิ้นงานโปสเตอร์ในรูปแบบที่สร้างสรรค์น่าสนใจ
9.ให้นักเรียนจัดนิทรรศการ ลงใน Metaverse เพื่อแสดงประวัติและผลงานของบุคคลสำคัญที่มีส่วนสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทย โดยครูและเพื่อนในห้องร่วมกันแสดงความคิดเห็น
10. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์การเป็นแบบอย่างที่ดีที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตอย่างไร
11. ครูและนักเรียนร่วมกันสะท้อนความคิดและแลกเปลี่ยนกันในชั้นเรียนถึงประเด็นสรุปแนวทางการศึกษาที่สามารถยึดถือและนำไปเป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิต ทั้งแง่คิดและการส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยไว้ได้อย่างยั่งยืน
Learning objectives:
1. นักเรียนสามารถอธิบายและยกตัวอย่างลักษณะการสืบทอดและความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมไทยได้ ซึ่งการเข้ามาของ
2. นักเรียนวิเคราะห์ผลงานของบุคคลสำคัญชาวไทยและต่างประเทศที่มีส่วนร่วมสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทยและประวัติศาสตร์ไทยได้
3.นักเรียนมีทักษะสร้างชิ้นงานอย่างสร้างสรรค์และทำงานกลุ่มได้
#เรียนประวัติศาสตร์byครูชุ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!