“วันนี้เหลือกี่คน”
“9 คนค่ะ”
“เรียนอะไรดีวันนี้”
ครูมายถามนักเรียน
เหตุผลที่ต้องถามคือ
“เล่นเกมค่ะครู”
จริงๆแล้ววันนี้ชั้นเดียวกันอีกห้องที่สอนไปแล้วเป็นกิจกรรม listening ห้องนั้นคือออกแบบกิจกรรมอะไรนักเรียนค่อนข้างให้ความสนใจ ร่วมกิจกรรมทุกอย่าง
แต่พอมาห้องเนี้ยยยจะสอนเหมือนกันแบบนั้นมันไม่ได้อะ
แต่ครูมายยังเชื่อเสมอ
นักเรียนที่เข้ามานั่งอยู่ในห้องเรียน
“ไม่มีนักเรียนคนใดที่สอนไม่ได้ มีแต่ครูที่สอนไม่เป็น”, อาจารย์ตอนเรียนปอตรีเคยบอกไว้
อะโอเค สมองประมวลผลคิดกิจกรรมให้ถูกจริตเด็กแต่ไม่ออกนอกแผนของครู เดี๋ยวนั้น
เล่นเกมก็ได้ เล่นจากเนื้อหาที่สอนห้องแรกไปนี่แหละ
แต่เปลี่ยนจากฟังแล้วเติมคำในเรื่องเป็นแข่งกันหาคำศัพท์จาก dictionary ในเรื่อง แทน
วันนี้เรียนคำศัพท์ 6 คำพอ
desk job, lightning strike, government, courage, require, horror
สอนศัพท์จากบริบทของเรื่องที่อ่าน แทนที่จะให้อ่านเป็นเรื่องๆ
ก็ย่อยมาเป็นประโยคๆ เช่น
~~require a lot of courage~~
~~the horrors of war~~
ให้นักเรียนช่วยกันอ่าน ช่วยกันแปล ทำความเข้าใจคำศัพท์ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ
เล่นเกมเสร็จ ให้อ่าน ให้จดคำศัพท์ที่หาลงสมุด
ก่อนหมดคาบ จำมา 3 คำพอ แล้วมาออกเสียงพร้อมบอกความหมายให้ครูฟัง
สอนให้ยาก แล้วเด็กไม่เข้าใจ ไม่ได้อะไรเลย
ก็เท่านั้นแหละ
สู้สอนตามศักยภาพ แล้วเด็กได้ตามศักยภาพ
อย่างน้อยเด็กก็มีความสุข มีเจตคติที่ดีต่อตัววิชา
อยากเรียน อยากเข้ามานั่งในห้อง
ดีกว่าเด็กมันโดดไปไหนต่อไหน
เรียนเหมือนกัน
แต่เรียนไม่เหมือนกัน
เด็กมีความสุข ครูก็มีความสุข
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย