เมื่อเราต้องสอนเรื่องยากับเด็กม.ต้นที่ไม่เคยจะอยู่นิ่ง จะมานั่งสอนเลคเชอร์ได้ยังไงงงง

เลยชวนมาเป็นเภสัชตัวจี๊งงง!!!!

เราใช้เทคนิคการสอนแบบบทบาทสมมติ (role play) มาใช้สอนเรื่อง ยา ในวิชาวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพ ม.3 ห้องเรียนวิทย์-กีฬา

มีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนอ่านฉลากยาเป็น นำไปสู่การกินยาอย่างถูกวิธีหรือช่วยดูแลผู้ป่วยให้กินยาอย่างถูกต้อง

เราจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือช่วงเติมความรู้กับเอาความรู้มาใช้ผ่านการเล่นบทบาทสมมติค่ะ

ช่วงเติมความรู้ ก่อนเป็นเภสัชก็ต้องรู้เรื่องยา

ในคาบแรกเราสอนความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับยา การกินยา การอ่านฉลากยา มีใบงานประกอบเพื่อดึงให้นักเรียนสนใจเนื้อหา

ช่วงนำความรู้มาใช้ มาแปลงร่างเป็นเภสัชกั๊นนน

• แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 กลุ่ม พอ ๆ กัน กลุ่มแรกรับบทเป็นเภสัช กลุ่มที่ 2 เป็นผู้ป่วยหรือลูกค้า

กลุ่มเภสัชจะได้รับบัตรประจำตัว มีหน้าที่จ่ายยาตามอาการของผู้ป่วย

กลุ่มผู้ป่วยจะได้รับการ์ดผู้ป่วย มีหน้าที่ไปซื้อยาและอธิบายอาการให้เภสัชฟัง

• เริ่มให้นักเรียนแสดงบทบาทอย่างเต็มที่ โดยครูจะทำหน้าที่สังเกตการณ์ ไม่เข้าไปแทรกแซงนักเรียน แต่สามารถบิ้วให้นักเรียนแอคติ้งตามบทบาทเพื่อให้บรรยากาศสนุกสนานมากขึ้นได้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะเป็นดังนี้
• เมื่อผู้ป่วยได้รับการ์ดจะต้องอ่านข้อมูลในการ์ดแล้วไปซื้อยาให้สอดคล้องกับอาการป่วย จะเล่นละครให้สมจริงก็ได้ สอดคล้องกับเนื้อหาเรื่องการซื้อยาที่ต้องอธิบายอาการของตัวเองให้ละเอียด
• ส่วนคุณเภสัชชะเกินของเรา เมื่อผู้ป่วยมาซื้อยาก็ต้องจัดยาให้ตรงกับอาการ (ตอนนี้นักเรียนของเราได้อ่านฉลากยาแล้ว) แล้วจัดใส่ซองยาพร้อมเขียนฉลาก (เราทำเป็นการ์ดธรรมดา แบบฟอร์มเหมือนของร้านยาของจริงเลย)
• เมื่อผู้ป่วยทุกคนได้ยามาแล้วให้สลับบทบาท จากผู้ป่วยเป็นเภสัช จากเภสัชเป็นผู้ป่วย
• ดังนั้น เมื่อจบกิจกรรมสิ่งที่นักเรียนได้รับคือการ์ดผู้ป่วย ฉลากจากร้านยา และกล่องยาจำลอง

• 
  
• จากนั้นครูแจกใบกิจกรรม ให้นักเรียนติดการ์ดผู้ป่วย และฉลากร้านยาลงในใบงานแล้วเขียนรายละเอียดจากฉลากยาให้ถูกต้อง บางทีเภสัชของเราอาจจะเขียนฉลากผิดก็ได้ ให้นักเรียนตรวจสอบฉลากร้านยากับฉลากจริงบนกล่องยาจำลองอีกครั้งด้วย

• เราวัดผลด้วยการทำแบบทดสอบค่ะ มีทั้งแบบปรนัยและอัตนัย

ผลการจัดกิจกรรม นักเรียนกะตือรือร้นดี อ่านฉลากยาเป็น หลาย ๆ คนก็ชอบ ในใบงานเราให้นักเรียนประเมินตัวเองสั้น ๆ ด้วยนะ