เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในประเทศตุรเคียและซีเรีย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นภัยพิบัติธรรมชาติที่มีความรุนแรงเป็นอันดับ 6 ของโลกเท่าที่มีการบันทึกมา คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 30,000 คนรวมถึงโครงสร้างพื้นฐานของเมือง และด้วยประเทศไทยของเรามีจุดที่ตั้งอยู่ในรอยเลื่อนที่มีพลังอย่างเช่น รอยเลื่อนแม่จัน รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ที่ยังมีโอกาสเกิดเหตุแผ่นดินไหวได้ ถึงจังหวัดอุบลราชธานีที่เราอยู่จะไม่อยู่ในตำแหน่งรอยเลื่อนแต่ว่าก็เคยมีเหตุการณ์ได้รับแรงสั่นสะเทือนจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นครั้งนี้จึงเป็นการเตรียมพร้อมหากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขึ้น
เริ่มต้นที่ฟังข่าวอัปเดตเหตุการณ์ปัจจุบันของเหตุการณ์แผ่นดินไหวในตุรเคีย โดยให้เด็กๆจับใจความสำคัญว่า
เมื่อทราบว่าเกิดเหตุแผ่นดินไหว แล้วแผ่นดินไหวเป็นแบบไหน? รู้สึกอย่าง? เลยให้เด็กลองจำลองเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น โดยใช้ลูกโป่งและแผ่นกระดาน โดยให้เด็กๆขึ้นไปยืนบนกระดานที่วางบนลูกโป่ง และมีเพื่อนคอยเขย่าๆแผ่นกระดาน ให้ความรู้สึกไม่มั่นคง โคลงเคลงเหมือนแผ่นไหว
และเมื่อรู้แล้วว่าแผ่นไหวรู้สึกอย่างไร ที่นี่ถ้าเกิดเหตุแผ่นดินไหวแล้วต้องทำอย่างไร
ก่อนจะจบวันไปด้วยการทำศิลปะโดยใช้ ลูกแก้ว ลูกบอลไม้และก้อนหิน กลิ้งสีบนจานกระดาษ
ก่อนจะทำศิลปะ ลองให้เด็กๆสังเกตลูกแก้ว ลูกบอลไม้ และก้อนหิน
เส้นเล็กจะเป็นลูกแก้ว เส้นใหญ่ขึ้นมาก็จะเป็นลูกบอลไม้ และเส้นสั้นๆจะเป็นก้อนหิน
วันที่ 2 เมื่อรู้แล้วว่าแผ่นดินไหวรู้สึกอย่างไร แล้วถ้าเกิดแผ่นไหวต้องทำอย่างไร วันนี้เลยมาลงลึกกันว่าแผ่นดินไหวเกิดจากอะไร?
เริ่มด้วยสารคดี Raging planet - Earthquake youtu.be/rK2NrHBo7_o สารคดีทำขึ้นปี 1997 ข้อมูลบางอย่างต้องอัพเดตเพิ่มเติม แต่โดยรวมเนื้อหาครบถ้วนมาก
เนื้อหาในสารคดี บอกสาเหตุการเกิดแผ่นดินไหวไว้คร่าวๆ เด็กๆยังไม่ค่อยเห็นภาพเลยต้องมีการสาธิต โดยใช้ผ้า 2 ผืน ทราย และบล็อกรูปคน ต้นไม้ อาคารต่างๆ
โดยจะยกตัวอย่างรอยเลื่อนแค่ 2 แบบ คือ รอยเลื่อนปกติ และรอยเลื่อนตามแนวระดับ
รอยเลื่อนปกติ ก็อธิบายตามหลักธรณีวิทยา คือรอยเลื่อนจะมีการเคลื่อนที่ขึ้นและลง แผ่นดินที่มีมวลมากกว่าจะดันแผ่นดินที่มวลน้อยกว่าลงข้างล่าง (ถ้าผิดตรงไหนแก้ได้นะคะ) แต่ว่าเด็กไม่น่าเข้าใจ ก็แบบเนี่ย มันจะเป็นแบบเนี่ย เอาแค่นี้พอ
รอยเลื่อนตามแนวระดับ คือ รอยเลื่อนจะเคลื่อนที่ในทิศทางตรงกันข้าม
และรอยเลื่อนก็ไม่ได้มีแค่บนบก แต่รอยเลื่อนที่มีในน้ำและมหาสมุทรด้วย
และสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเกิดแผ่นดินไหวในน้ำก็ สึนามิ เด็กๆเคยเห็นในการ์ตูที่ดูมาบ้าง แต่วันนี้พึ่งรู้ว่าเกิดได้อย่างไร
แล้ว จะรู้ได้ยังไงว่าเกิดแผ่นดินไหว ในสารคดีบอกว่ายังไม่สามารถทำนายการเกิดแผ่นดินไหวได้ แต่เทคโนโลยีปัจจุบันสามารถตรวจจับได้แล้ว เลยลองให้เด็กๆทำ Seismometer
ถ้าไม่มีแผ่นดินไหวจะลากเส้นเป็นเส้นตรง
แต่ถ้าเส้นหยึกหยักก็เดาได้ว่า เกิดแผ่นดินไหว โดยครูใช้วิธีเขย่าโต๊ะ
และสุดท้ายทำศิลปะโดยใช้แม่เหล็ก
ใช้แม่เหล็กเลื่อนไปให้เกิดภาพตามที่เด็กต้องการ
วันที 3 แล้วถ้าเกิดเหตุแผ่นดินไหวแล้ว ต้องทำยังไงต่อ
วันนี้เลยเป็นการจำลองเหตุการณ์แผ่นดินไหว ให้เด็กๆสวมบทบาทเจ้าหน้าที่กู้ภัย ช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง
โดยเด็กๆแต่งกายพร้อมเครื่องป้องกันต่างๆก่อนจะเข้าไไปช่วย
โดยก่อนจะเข้าไปก็ต้องเช็กสัญญาณชีพคนที่ติดก่อน ก็ไม่คิดว่าเด็กจะถามคำถามว่า "มีชีวิตอยู่ไหมค้าบบบบ" 5555555 โอเค
เนื่องจากโรงเรียนพึ่งมีการซ่อมบำรุงห้องน้ำเลยมีอุปกรณ์ที่ถอดออกมา เอามาใช้ได้
เมื่อช่วยออกมาแล้วก็ต้องส่งโรงพยาบาล
และพอเป็นกู้ภัยแล้ว ก็มาเป็นคุณหมอกันต่อ ทำแผล ปั๊มหัวใจ ตามแต่คุณหมอจะวินิจฉัย
และคอนเซ็ปของห้องคือ ครูทำรก นักเรียนตามเก็บ วะหะฮ่าาาาา
วันสุดท้าย ลองทดลองสร้างตึกที่ทนต่อแผ่นดินไหวดูสิ
อุปกรณ์มี
เมื่อได้ตึกแล้วก็มาลองทดสอบกันบ้าง
วางตึกไว้บนแผ่นดิน 2 แบบ คือ แผ่นดินเก่าแทนด้วย เวเฟอร์ และแผ่นดินใหม่คือ เฉาก๊วย
เขย่าๆ แล้วดูการเปลี่ยนแปลง (ดูคลิปวิดีโอได้ข้างล่างนะคะ) โดย เด็กๆได้เห็นความต่างของแผ่นดิน แผ่นดินเก่าคือแผ่นดินที่แข็งแกร่งไม่มีรอยเลื่อนที่มีพลังแล้วแรงสั่นสะเทือนน้อยกว่า แผ่นดินใหม่คือแผ่นดินที่อ่อนกว่ายังมีรอยเลื่อนที่มีพลังแรงสั่นสะเทือนเยอะกว่า ถ้าจะสร้างก็ต้องสร้างตึกที่แข็งแรงกว่า
พอทดลองเสร็จก็ ง่ำ ง่ำ ง่ำ ตึกลงท้องไปเรียบร้อย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
และขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!