
ความไว้วางใจ (Trust) นอกจากจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ผู้เรียนอยากเรียนรู้ไปกับผู้สอนแล้ว ยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ไปกับผู้สอนได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ล้มเลิกกลางคันแม้ว่ายังอยากเรียนอยู่ (Brown out) แต่มีความมุ่งมั่นพยายาม อดทนจนประสบความสำเร็จในการเรียนรู้
ดังนั้น การสร้างความไว้วางใจจากผู้เรียน จึงต้องอาศัยการสร้างบรรกาศในห้องเรียนให้เป็น "ห้องเรียนสังคมประชาธิปไตย"
ในคาบแรกของการเรียน ผู้เรียนจะได้เขียนแสดงวามคิดเห็นว่า..."อยากให้ห้องเรียนที่เราจะอยู่ร่วมกันตลอด 1 ปีการศึกษานี้เป็นอย่างไร" จากนั้นผู้สอนจะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาออกแบบการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน และสร้างข้อตกลงร่วมกัน โดยใช้..."คำมั่นสัญญาในการเรียนรู้ (Learning Contract)" ที่เป็นเจตจำนงการเรียนรู้ และข้อตกลงร่วมกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอน ซึ่งการให้คำมั่นสัญญาในการเรียนรู้จากพื้นฐานของความไว้วางใจในนี้ เป็นการให้คำมั่นสัญญาที่เกิดขึ้นมาจากใจ ไม่ต้องใช้ อำนาจใด ๆ มาบังคับ เพราะเป็นคำมั่นสัญญาที่เกิดมาจากการที่ผู้เรียน ได้มอบความไว้วางใจให้กับผู้สอน (สัญญาใจ)
1. ช่วยสร้างความไว้วางใจให้เกิดกับผู้เรียน เพราะเป็นลักษณะของการมอบความรัก ความเมตตากรุณาให้กับผู้เรียน ผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ
2. จัดการเรียนรู้เต็มความรู้ความสามารถของผู้สอน จึงทำให้ผู้เรียนเห็นว่าผู้สอนมุ่งมั่น ทุ่มเทในการจัดการเรียนรู้
3. ทำให้ผู้เรียนรับรู้และเข้าใจว่ากิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนปฏิบัติอยู่นั้น มีประโยชน์โดยตรงต่อความเจริญก้าวหน้าของผู้เรียน
4. สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้น และเอื้อต่อการใช้กระบวนการเรียนรู้และกระบวนการคิดของผู้เรียน
5. ทำให้ผู้เรียนมองเห็นความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ ของตนเองที่มีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จ
"คำมั่นสัญญาในการเรียนรู้" เป็นผลสืบเนื่องมาจากความไว้วางใจในตัวผู้สอน ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ที่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นพื้นฐานของผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่าง ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้สอนไม่ควรมองข้ามในการจัดการเรียนรู้
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!