"เราอยากให้นักเรียนรู้สึกว่าการเรียนคณิตฯ ไม่ใช่เรื่องไกลตัว อยากให้เขามีส่วนร่วมในชั้นเรียน เพราะนักเรียนบางคนถ้าเขาไม่ชอบเขาจะปิดกั้นทันทีเลย ไม่เข้าเรียนบ้าง หนีไปอยู่โรงอาหารบ้าง ตามยังไงก็ไม่มา ด้วยภาระงานของเราที่โรงเรียนไม่ได้มีแค่งานสอน ก่อนหน้านี้ห้องเรียนของเราจะหนักไปทางบรรยาย แล้วก็ทำแบบฝึกหัด แต่พอลองมีกิจกรรมให้นักเรียนได้เข้าร่วม เขาก็ตั้งตารอว่าครูจะมีเกมมาให้เล่นอีกไหม แต่บางคาบก็ต้องบรรยายก่อน เพราะถ้าไม่ฟังตรงนี้ไปเล่นเกมยังไงก็ไม่สนุก นักเรียนก็พร้อมที่จะรอ พอเราจัดกิจกรรมในห้องมากขึ้น นักเรียนก็บอกต่อๆ กัน ว่าคาบนี้ครูมีกิจกรรมให้เล่น นักเรียนก็กลับเข้ามาเรียน อาจจะยังไม่ได้กลับมาครบทุกคน จากที่หายไป 5 ก็กลับมา 3 ก็ยังดี

“เราตั้งเป้าหมายว่าเทอมนี้เราจะ “สร้างการมีส่วนร่วมในห้องเรียน” ให้มากขึ้น จึงเพิ่มกิจกรรมเข้ามาในแต่ละคาบ ให้นักเรียนได้ลองลงมือทำโจทย์ด้วยตัวเองไปพร้อมกับเกมสนุกๆ โดยให้จับคู่ทำงานร่วมกัน เพราะถ้าให้ร่วมกิจกรรมแบบที่แต่ละคนต้องทำอะไรคนเดียว เขาจะไม่ทำ เพราะจะมีคนที่ทำไม่ได้ เล่นทีไรก็จะอยู่ลำดับสุดท้ายตลอด เขาก็จะไม่สนุก เด็กชอบการแข่งขันก็จริง แต่ว่าถ้าเขาเล่นรั้งท้ายตลอด ก็ไม่อยากเล่น ต้องหากิจกรรมให้เขาจับคู่ แล้วให้เลือกคู่เอง ว่าเขาอยากคู่กับเพื่อนคนไหน

"ทุกเกมที่เรานำมาเล่นกับเด็ก จุดเริ่มต้นมาจากความชอบของตัวเองทั้งนั้น ตัวเองชอบก็คิดว่าเด็กน่าจะชอบ เราเลือกโดมิโน่มาใช้สอนเรื่องตรีโกณมิติของ ม.3 ซึ่งเป็นเกมที่ตัวเองชอบเล่นมาใช้เหมือนเดิม ด้วยความที่ ม.3 ห้องนี้มีเด็ก LD (Learning Disabilities: ภาวะบกพร่องในการเรียนรู้) หลายคน ตอนแรกเขาไม่เข้าใจ พออธิบายและให้เวลาสังเกตจากเพื่อน ก็พบว่านักเรียน LD ก็ทำได้ โดยปกติแล้วเราใช้เวลาทำกิจกรรมประมาณ 10-15 นาที แล้วเริ่มเข้าสู่บทเรียน นักเรียนก็มาทักเรื่อยๆ ว่าอยากเล่นเกมอีก เราก็ใช้โดมิโน่มาปรับเข้ากับเนื้อหาเรื่องอื่น ถ้าเด็กชอบ ก็ตอบสนองความต้องการของเด็ก ใช้เกมเดิมก็ได้ แค่เปลี่ยนเนื้อหา มีเด็กกลุ่มหนึ่งที่เราสอน เขาเคยมองว่าคณิตศาสตร์คืออะไรไม่รู้ ไม่รู้เรื่อง แต่พอเราปรับมาทำกิจกรรมในห้องเรียน มีเด็กคนหนึ่งทักมาว่า “ครู หลังเลิกเรียนสอนพิเศษให้หน่อย คิดเงินไหม” เราก็ถามว่าทำไมอยากเรียน เขาบอกว่า อยากเข้าใจคณิตศาสตร์ ทำให้เห็นว่าสิ่งที่เราทำมันส่งผลถึงเด็กนะ

“อีกไอเดียที่เราลองเอามาใช้กับนักเรียน ม.1 เรื่องร้อยละ แต่พื้นฐานเรื่องเลขของพวกเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราก็เลยนึกย้อนไปสมัยเรายังเป็นเด็ก เราได้เล่นบอร์ดเกมเยอะเลย เล่นกับเพื่อน เล่นกับญาติที่บ้านแล้วสนุกก็เลยลองเอามาปรับเข้ากับเนื้อหาที่จะสอน ทำเงินปลอมขึ้นมาให้นักเรียนเล่นด้วย คนที่ไม่ค่อยเข้าเรียนก็เข้ามาเล่นกับเพื่อน คนที่ไม่ค่อยเข้าใจก็จะจับคู่กับเพื่อนที่พอทำได้ พอเข้าใจกติกา ก็สนุกกับการเล่นมากขึ้น ข้อไหนเขาเล่นไม่ได้ เขาสงสัยก็จะถามว่าคิดยังไง เราก็จะนำโจทย์ข้อที่เขาคิดไม่ได้ มาใช้เป็นคำถามในคาบเรียนถัดไป อย่างเนื้อหาเรื่องร้อยละเราทำของ ม.1 แต่นักเรียน ป.6 ก็ได้เรียนเหมือนกัน ก็จะแชร์บอร์ดเกมนี้กับครู ป.6 ด้วย อาจจะปรับโจทย์ให้ง่ายลง การ์ดต่างๆ ก็ทำครั้งเดียวใช้ด้วยกันได้ทั้งสองช่วงชั้นเลย

“ไอเดียการสอนที่เล่ามาทั้งหมดมาจากการที่เราได้ลองใช้ Buddy Kru ไลน์แชตบอต ที่ช่วยแนะนำให้เราลองวางเป้าหมายของตัวเอง แล้วก็ได้พยายามชนะใจตัวเองในการทำภารกิจแต่ละครั้ง เหมือนการเล่นเกมที่ค่อยๆ ไต่ไปเรื่อยๆ จนภารกิจที่ตั้งเป้าไว้สำเร็จ มีแรงกระตุ้นที่จะไปทำกิจกรรมกับนักเรียน มีแรงผลักดันที่จะหาไอเดียมาใช้ในห้องเรียน Buddy Kru จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่คอยกระตุ้นเราว่าอย่างน้อยในหนึ่งเดือนที่เราตั้งเป้าหมายไว้ จะต้องมีกิจกรรมบางอย่างไปสู่ห้องเรียน”

“Buddy Kru จะส่งไอเดียมาให้เราทุกสัปดาห์อาจจะนำมาใช้โดยตรงไม่ได้ทุกอย่าง เช่นวิชาที่ส่งมาเป็นของวิชาภาษาไทย จะเอาไปปรับกับวิชาคณิตศาสตร์ที่เราสอนยังไงได้บ้าง ที่ผ่านมาเราจะเอามาปรับให้เข้ากับสภาพห้องเรียนของเรามากกว่า บางอย่างเราประเมินจากสภาพห้องเรียน คิดว่านักเรียนยังไม่น่าจะทำได้ ก็ต้องปรับเพิ่มเติม บางไอเดียเราเห็นว่าเหมาะสมกับครูคนอื่น ก็เอาไปแนะนำต่ออีกที อะไรที่ Buddy Kru ส่งมาแล้วน่าสนใจ เราก็จะนำไปแชร์ให้เพื่อนครูคนอื่นอีกทีหนึ่ง"

🌱ครูปอย-ชลธิชา แก้วโยธา ครูคณิตศาสตร์ โรงเรียนบ้านนาวัวโพนงาม จังหวัดเลย เป็นหนึ่งในครูผู้ใช้งาน Buddy Kru ตลอดภาคเรียนที่ผ่านมา และได้รับรางวัล Friend of Buddy Kru ประจำเดือนมิถุนายน 2566 มาบอกต่อเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คุณครูในคอมมูนิตี้ insKru

🌱ลองใช้งาน Buddy Kru ไลน์แชตบอตแบบครูปอย ออกแบบการสอนให้นักเรียนสนุกและครูมีความสุขไปด้วยกัน https://bit.ly/BuddyKruFB