"เด็กๆหลายคนมักมองว่าประวัติศาสตร์เป็นเรื่องไกลตัว" "เรียนไปทำไม แค่รู้อดีตเฉยๆรึเปล่า?"

ดังนั้น มันเลยเป็นที่มาของการเรียนวิชาประวัติศาสตร์สากลในเทอมนี้ ที่ครูผู้ออกแบบห้องเรียน มุ่งมันที่จะเชื่อมโยงความรู้ประวัติศาสตร์ให้มีหัวใจมากขึ้น จึงนำมาสู่ กิจกรรม การบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ความสุข(ของตนเอง)ในรูปแบบ U shape โดยใช้ความรู้ในเรื่องของเวลา+ศักราช+การแบ่งยุคสมัย เข้ามาเชื่อมโยงในการทำกิจกรรมค้าบ ถ้าพร้อมแล้วไปดูกัน!!!

ประวัติศาสตร์ความสุข แบบ U Shape หน้าตาเป็นอย่างไรกัน???

ในการจัดการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมประวัติศาสตร์ความสุขแบบ U Shape นั้น มีขั้นตอนดังนี้

ขั้นแรก "เชื่อมโยงความรู้เดิม"

ในขั้นนี้เราพานักเรียนไปทบทวนความรู้เรื่องเวลา+ศักราช ที่เด็กๆได้เรียนรู้เมื่อคาบที่แล้วก่อน จากนั้นทบทวนวิธีการนับและเทียบศักราช ให้นักเรียนได้ทบทวนความรู้เดิมอีกครั้ง

ขั้นที่ 2 "เพิ่มเติมสู่สิ่งใกล้ตัว"

• เริ่มจากอธิบายหน้าตาของประวัติศาสตร์ความสุขแบบ U Shape กันก่อน ว่ามันมีข้อมูลอะไรบ้าง (โดยเรากำหนดให้เรื่องราวประวัติศาสตร์ความสุขเริ่มต้นในช่วงวัยอนุบาล-ไปจนถึงเมื่อวานในการใช้ชีวิต โดยกำหนดให้นักเรียนบอกเล่าความสุขของตนเองในแต่ละช่วงวัยมาขั้นต่ำ 3 เรื่อง)
• ชวนนักเรียนย้อนมองภาพตนเองในวัยเด็ก ผ่านการทบทวนตนเอง หรือนึกถึงเรื่องราวที่ตนเองมีความสุข เพื่อนำมาแบ่งปันผ่านประวัติศาสตร์ความสุขของตนเอง (ตรงนี้เราก็จะอธิบายเสริมถึงที่มาของความสุขให้นักเรียนฟังว่า มันมีอะไรบ้าง เพื่อช่วยไกด์ความคิดให้เด็กๆ)
• ลำดับเวลาและเหตุการณ์ เทียบศักราช ในแต่ละช่วงเวลา ตลอดจนนิยามยุคสมัยของตนเองในแต่ละช่วงเวลา (ตรงนี้น่าสนใจมากกกกกกกกกกกกกก มันทำให้ตัวเด็กเองได้จัดลำดับเวลาทางประวัติศาสตร์ และฝึกแปลงศักราชเป็นศักราชในแบบต่าง ๆ แต่เนื่องจากเวลาจำกัด เด็กๆส่วนใหญ่เลยแปลงแค่ ค.ศ. TT นอกจากนี้แล้วสิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ เราได้เห็นเกณฑ์ที่เด็กๆแต่ละคนใช้ในการแบ่งยุค บางคนแบ่งยุคจากเหตุการณ์เด่นๆในชีวิต บางคนแบ่งยุคจากเงินค่าขนมที่ได้ไปโรงเรียน แบ่งคนแบ่งยุคจากรัฐประหาร หลากหลายมากๆ ละน่าสนใจเลยทีเดียว)

ขั้นที่ 3 เดินทางทัวร์กับประวัติศาสตร์โลก

เราให้นักเรียนแต่ละคนนำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ความสุขของตนเองที่โดดเด่นมาคนละ 1 ยุค จากนั้นช่วงเด็กๆเปรียบเทียบประวัติศาสตร์ความสุขของตนเองกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ความสุขโลก จากลิงก์นี้เลยงับ https://www.the101.world/history-of-happiness/

1.เด็กๆได้นำองค์ความรู้เรื่องเวลา ศักราชและการแบ่งยุคสมัย มาเชื่อมโยงกับชีวิตของตนเองในนิยามที่หลากหลาย

2.เด็กๆได้ฝึกคิดใคร่ครวญ สะท้อนภาพของตนเอง ในแต่ละช่วงวัย ผ่านเหตุการณ์ความสุขในรูปแบบไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์

3.ครูผู้สอนได้รู้จักตัวตนของนักเรียนมากขึ้นผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่ตนนำเสนอ

4.เด็กๆได้ฝึกเชื่อมโยงองค์ความรู้ที่ใกล้ตัวผ่านเรื่องราวประวัติศาสตร์ของตนเองกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ความสุขบนโลก

1.คุณครูอาจไม่ต้องจำกัดเหตุการณ์ความสุขในแต่ละช่วงวัยที่ 3 เหตุการณ์ก็ได้ หากมีเวลาเพียงพอแนะนำให้เด็กๆได้เขียนแบบ open ไปเยอะๆได้เลย

2.ในการเทียบศักราช คุณครูอาจชวนนักเรียนแปลงศักราชที่หลากหลายมากขึ้นมากกว่า พ.ศ. หรือ ค.ศ.เท่านั้น (แปลงยาวๆไปเลย ฮ.ศ. ม.ศ. จ.ศ. ร.ศ. มาให้หมดด)