ช่วงนี้เพิ่งเปิดเทอมใหม่แล้วพบว่านักเรียนหลายคนมีปัญหาในการจดจำตัวอักษรภาษาอังกฤษ และการออกเสียงภาษาอังกฤษ จึงนำวิธีการสอนอ่านออกเสียงแบบ Phonics มาใช้ในห้องเรียน ประกอบกับได้เข้าอบรม Growth Mindset กับทาง Inskru ในหัวข้อ Creative Classroom เลยพยายามโยงการสอน Phonics ให้เข้ากับความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน

ก่อนอื่นทบทวนการออกเสียงแบบ Phonics โดยวันนี้เราเลือกใช้เสียง /a/ sound หรือเสียงแอะ เมื่อลองรวมเสียงให้นักเรียนเป็นตัวอย่างได้พอสมควรแล้วก็เริ่มกิจกรรมได้เลย

1. ให้นักเรียนจับกลุ่มลองสร้างคำศัพท์อะไรก็ได้โดยไม่คำนึงความหมาย มีข้อบังคับเดียวคือต้องมีตัวอักษร a อยู่ตรงกลางเพื่อให้มีเสียงแอะ โดยมีเวลาให้ทั้งหมด 2 นาที
2. เมื่อหมดเวลา ครูมอบหมายให้นักเรียนเขียนคำอ่านและพยายามรวมเสียงคำที่ตัวเองเขียนมาให้ได้มากที่สุด หากคำไหนที่รู้สึกติดขัดในการออกเสียงครูจะเข้าไปช่วยรวมเสียงให้ โดยคำอ่านนั้นนักเรียนสามารถเทียบได้จากตารางการอ่าน phonics ที่ครูเคยให้จดลงสมุด (เดี๋ยวมีไฟล์ให้โหลดตอนท้ายค่ะ)
3. เมื่อนักเรียนทดลองเขียนคำอ่านเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มผลัดกันอ่านออกเสียงให้เพื่อนฟัง รวมถึงให้เพื่อนสังเกตการออกเสียง คำ และสระที่อยู่ในคำของเพื่อนเพื่อนำมาสรุปตอนท้าย
4. สอบถามนักเรียนถึงปัญหาและอุปสรรคในการสร้างคำและรวมเสียง จากนั้นเขียนปัญหาที่พบเจอบนกระดาน ตัวอย่างปัญหาที่เด็กๆ ช่วยกันสรุปได้คือ
5. เมื่อนำเสียง /x/ (เอะคะสึ) ไปไว้หน้า นักเรียนจะเกิดปัญหาในการออกเสียง
6. เมื่อนำสระตัวอื่นไปต่อท้าย a เช่น hai นักเรียนจะพบว่าคำนั้นจะไม่ใช่เสียงแอะอีกต่อไป ครูจึงอธิบายว่าการนำสระ 2 ตัวขึ้นไปมารวมกันจะเรียกว่า "สระผสม" ทำให้เสียงสระแตกต่างออกไป
7. นักเรียนบางกลุ่มเจอปัญหาเรื่องตัว y ไปไว้ข้างหลังแล้วเสียงเปลี่ยน

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือ นักเรียนมีความเข้าใจมากขึ้นว่าทำไมตัวอักษรนี้ถึงอยู่หน้าไม่ได้ ทำไมสระ 2 ตัวรวมกันแล้วเสียงเปลี่ยน เพราะเขาได้ลองพยายามออกเสียงด้วยตนเองแล้วแต่แรก แล้วพบว่ามันยาก/มันแตกต่างไปจากตัวอย่างที่ครูสอน ผลคือนักเรียนจดจำได้มากขึ้น รวมถึงสนใจเรื่องของสระผสมต่อไป

คุณครูควรเดินดูนักเรียนให้ทั่วถึงในช่วงที่นักเรียนต้องฝึกออกเสียงด้วยตนเอง นักเรียนบางคนอาจถอดใจไม่ยอมออกเสียงต่อหากเขาทำไม่ได้ ดังนั้นครูต้องรีบเข้าหาและช่วยเหลือเขา มิเช่นนั้นกิจกรรมอาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านไอเดียนี้กันนะคะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย