ก่อนจะเข้าเรียนวิชาภาษาไทยในคาบสุดท้าย
เด็กในที่ปรึกษารีบมาบอกว่า “ครูครับๆท่อน้ำแตกครับครู น้ำท่วมพื้นห้องเลยครับ”
เด็กๆช่วยกันหาอะไรมาอุดท่อเพราะหัวก๊อกที่หลุดใส่คืนไม่อยู่ แรงดันน้ำจากท่อค่อนข้างแรง
“มาผมเอง สารวัตรมาช่วยแล้ว” นักเรียนชายคนนึงในห้องถอดถุงเท้าขดเป็นวงกลมจะเอาไปอุดรูน้ำไว้ เราตกใจก็ตกใจ แต่ก็ขำจะขิต จึงห้ามไว้ก่อนและบอกให้พากันไปบอกภารโรงมาช่วยดู โชคดีที่น้าภารโรงอยู่ห้องพอดีจึงระงับเหตุโดยการปิดวาล์วน้ำไว้ทัน พอน้ำที่พวยพุ่งสงบลงสนิทแล้ว เด็กๆพากันเอาไม้กวาดมากวาดน้ำออกจากห้องพร้อมสภาพที่เนื้อตัวที่เปียกปอนปนสนุกที่ได้เล่นน้ำ หากสงสัยว่าทำไมถึงมีก๊อกในห้อง เพราะห้องนี้เดิมทีเป็นห้องแล็บแต่ปิดใช้งานไว้ เด็กๆย้ายมาเรียนที่ห้องนี้เพราะห้องเก่ากำลังปรับปรุงซ่อมแซม พอซ่อมเสร็จจึงย้ายกลับห้องเดิมได้เพียงหนึ่งวัน พวกเราจึงพากันมาเก็บกวาดห้องนี้ให้อยู่สภาพเดิมแต่ก๊อกดันมาหลุดเสียก่อนจึงได้ทำความสะอาดในแบบที่ธรรมดาโลกไม่จำ
.
หลังจากเก็บกวาดกันเรียบร้อย แต่เราเหลือเวลาสอนอีก30นาที เนื้อหาวันนี้เป็นการอ่านบทอ่านเรื่องสัตว์สี่ทิศ เพื่อรู้จักตนเองและเข้าใจผู้อื่น เราใช้สถานการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นมาเชื่อมโยงและยกตัวอย่างให้นักเรียนเข้าใจตัวเองและเพื่อนมากขึ้น
.
เริ่มจากอธิบายนิสัยของสัตว์แต่ละตัวประกอบใบความรู้เรื่องสัตว์สี่ทิศและชวนนักเรียนคิดใคร่ครวญว่าเรามีนิสัยคล้ายสัตว์ตัวไหนในสี่ตัวนี้ (กระทิง อินทรี หมี หนู) และชวนให้นึกถึงการแสดงออกของเราที่ช่วยกันปิดก๊อกน้ำเมื่อกี้ เช่น สังเกตไหม ใครที่พุ่งตัวไปที่ท่อน้ำคนแรก หรือวิ่งเอาหัวก๊อกไปปิดท่อคนแรกอาจจะมีนิสัยกระทิง เพราะกระทิงจะลุย ตัดสินใจเร็ว คิดเร็ว ทำเลย สโลแกนของชาวกระทิงคือเป้าหมายมีไว้พุ่งชน ส่วนใครที่คิดก่อนจะลงมือทำ หรือคอยสังเกตการณ์อยู่ห่างๆวางแผนว่าจะทำไงดีให้น้ำหยุด แต่ยังไม่ลงมือทำเลยทันที มีความเป็นไปได้ที่จะมีนิสัยคล้ายหมี เพราะหมีมักจะวางแผนก่อนที่จะทำ ใครที่มีไอเดียตอนเพื่อนๆชุลมุนว่าต้องหานั่นหานี่มาปิดเพิ่มอาจจะมีความเป็นอินทรี เพราะอินทรีไอเดียเยอะ และใครที่มองอยู่แบบห่วงๆคอยให้กำลังใจเพื่อน ห่วงใยกลัวเพื่อนเปียก หรือคอยอำนวยความสะดวกรอบนอกก็อาจจะมีความเป็นหนู เพราะหนูใจดี อ่อนโยน ชอบช่วยเหลือ ทำให้คนอื่นสบายใจ
.
หลังจากที่เด็กๆทำความเข้าใจนิสัยของสัตว์แต่ละตัวแล้ว เราให้นักเรียนเขียนว่ามีนิสัยคล้ายสัตว์แต่ละตัวกี่% เช่น กระทิง 50% อินทรี 30% หมี 10% หนู 10% และสำรวจพลังงานมวลรวมว่าส่วนใหญ่มีนิสัยคล้ายสัตว์ตัวใดโดยการถามทีละตัวและให้ยกมือ ซึ่งเด็กในห้องนี้ส่วนใหญ่นี้จะเป็นอินทรีและหนู (การศึกษาธรรมชาตินิสัยทั้งโดยรวมและรายบุคคลจะทำให้เราวางแผนกิจกรรมคาบต่อไปให้เหมาะกับบริบทเด็กห้องนั้นๆได้ดีมากขึ้นด้วย)
.
จากนั้นเด็กๆทำใบงานเรื่องสัตว์สี่ทิศ ส่งครูท้ายคาบ จบด้วยการแนะนำเพิ่มเติมว่า เรามีคุณสมบัติของสัตว์ทั้งสี่ทิศในตัวเราแต่อาจจะมากน้อยแตกต่างกันไป อย่ายึดติดในตัวตน เพราะจะเป็นอุปสรรคในการปรับตัวสู่การเป็นเราที่ดีกว่าเดิม และไม่ควรแปะป้ายตัดสินใครว่าไม่ดี ถ้าอยากมีข้อดีของสัตว์ตัวไหนก็ต้องลองปรับ ข้อเสียอะไรที่เราก็ไม่ได้ชอบก็พยายามฝึกควบคุมพฤติกรรมให้ลดน้อยลงเพื่อให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้และชอบตัวเองมากขึ้น
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!