เนื้อหาวิชาของศาสนาฯ มักจะเป็นเนื้อหาที่นักเรียนมักจะเบื่อหน่าย หลับ ไม่สนุก ไม่มีแรงจูงใจในการเรียน มากกว่าการสอนบรรยาย ก็เลยพยายามอยากหากิจกรรมมาให้นักเรียนได้ลงมือคิด ลงมือปฏิบัติ ซึ่งจากการส่องไอเดียในเว็บไซต์ Inskru และไอเดียจากการไปอบรม Buddy Kru ก็ได้หยิบเอาเทคนิคการสอนที่เพื่อนครูได้แชร์ ตอนที่อบรมในหัวข้อ Creative Classroom มาปรับใช้กับวิชาตัวเอง อีกทั้งก็ต้องการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองด้วย ซึ่งก็พบว่า ไอเดียการสอนที่หาฆาตรกรคนร้าย หาเบาะแส จากหลักฐานข้อมูลต่าง ๆ เป็นสิ่งที่นำมาประยุกต์ใช้ได้กับหลายวิชาเลย หนึ่งในนั้นก็เป็นวิชาสังคม ในเรื่องของกระบวนการคิดในรูปแบบต่าง ๆ จึงหยิบโยงเข้ากับเนื้อหาของการคิดแบบโยนิโสมนสิการพอดิบพอดี ( มุ่งเน้นในส่วนของการคิดแบบสืบสาวหาเหตุปัจจัย, คิดแบบวิภัชชวาท (รอบด้าน ไม่เหมารวม), คิดแบบแยกแยะส่วนประกอบ, คิดแบบสามัญลักษณะ)
1. เลือกวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการมาประยุกต์แก้ปัญหาในสถานการณ์ที่กำหนดให้ได้อย่างเหมาะสม
2. ยกตัวอย่างการนำวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน
1. ครูแจ้งข้อตกลงในการเรียน หัวข้อในการเรียน และจุดประสงค์การเรียนรู้ (เราบอกตั้งแต่ว่า พื้นที่แห่งการเรียนรู้นี้ ไม่มีผิดถูก ขอให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม)
2. ครูวัดความรู้ก่อนเรียนของนักเรียน โดยการสอบถามเกี่ยวกับความหมายและหลักคิดของวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ
3. นักเรียนทำกิจกรรม Check-in โดยการตอบคำถามฝึกการคิดเพื่อเตรียมความพร้อม เช่น
4. นักเรียนร่วมกันพูดคุยเกี่ยวกับกระบวนการคิดที่ใช้ในการตอบคำถามต่าง ๆ ว่ามีลักษณะการคิดอย่างไรบ้าง
5. ครูนำเข้าสู่บทเรียน เรื่อง การเจริญปัญญาตามหลักโยนิโสมนสิการ โดยเชื่อมโยงกับคำตอบของนักเรียนว่าในชีวิตประจำวันของมนุษย์ทุกคน มีสิ่งที่เราต้องตัดสินใจตลอดเวลา และสมองของเราก็ทำงานด้วยระบบวิธีคิดต่าง ๆ ตลอดเวลา ดังนั้น การมีหลักคิดที่ถูกต้อง เป็นเหตุ ผล จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตประจำวัน
6. นักเรียนเล่นเกมกิจกรรม “สืบสวนคดีการตายของเจ๊กิ๋ม” เพื่อฝึกกระบวนการคิดอย่างสร้างสรรค์ โดยทำเป็นกลุ่ม 4-5 คน
ระหว่างนี้ก็ชวนนักเรียนคุยถึงคุณสมบัตินักสืบที่ดีควรมีอะไรบ้างนะ เพื่อให้นักเรียนเตรียมความพร้อมตัวเองในการคิด
จากนั้นครูให้นักเรียนคาดการณ์ ซึ่งพบว่า นักเรียนบางส่วนก็จะบอกว่า ยังตอบไม่ได้ ต้องใช้ข้อมูลหลักฐานก่อน
ครูก็แจกซองหลักฐานข้อมูลต่าง ๆ ให้ นักเรียนก็ลงมือสืบหาข้อมูลกัน
7. นักเรียนร่วมกันอภิปรายจากกิจกรรมสืบสวนคดี นักเรียนได้เรียนรู้อะไรบ้าง, ลักษณะกระบวนการคิดของนักเรียนเป็นอย่างไร เพื่อเชื่อมโยงถึงการคิดแบบโยนิโสมนสิการ และนักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างให้เชื่อมโยงกับชีวิตจริง
นักเรียนทุกคนดูตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าจะได้สวมบทบาทเป็นนักสืบหา มีการสันนิษฐาน พูดคุยไปต่าง ๆ นานา ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มได้รับหลักฐาน จังหวะนั้นครูก็พยายามกวนน้ำให้ขุ่น ให้คิด แหย่ให้ไปทางสามีบ้าง แหย่ให้ไปทางลูกค้าประจำบ้าง หรือป้าขายแผงปลา ทำหน้าที่เป็นตัวไซโคเหตุผลต่าง ๆ ให้นักเรียนเอนเอียงบ้าง ซึ่งก็มีนักเรียนที่จะเอนเอียงไปยังคำตอบของสามี (ที่มี "ข่าวลือ" ว่าเป็นกิ๊กกับลูกค้าประจำ แถมมีรูปถ่ายคู่กันอีก) นักเรียนบางคนก็วิเคราะห์ต่อไปได้ว่า "แต่ข่าวลือ มันก็คือข่าวลือนะ มันยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง" หรือบางคนก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมเลย เช่น ถามหาผลตรวจลายนิ้วมือ จะชัดกว่านี้นะคะครู หรือคิดเวลาการตายกันยกใหญ่ เรียกได้ว่าสวมบทเป็นนักสืบกันจริง ๆ ชนิดที่ครูก็คิดไม่ถึงในบางมุมเหมือนกัน
แถมบางคนที่ได้ดูข่าวจากแหล่งต่าง ๆ เรื่องของคดีแอมไซยาไนด์ ก็เอามาชวนคิด ชวนคุยกันต่อไปอีก ว่าครูเอามาจากเรื่องนี้หรือเปล่าครู 5555 แสดงว่านักเรียนติดตามข่าวสารรอบตัวอยู่นะเนี่ย
นักเรียนบอกว่าขอคาบแบบนี้อีก หนูไม่หลับเลย อยากเป็นแบบนี้ทุกคาบเลย
สามารถนำไปประยุกต์ หรือบูรณาการได้กับหลายวิชาค่ะ จะปรับเพิ่มเติมหลักฐานตรงไหน ได้เลยค่ะ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย