ปัญหาน่าปวดสมองของครูงานวัดผล คงหนีไม่พ้นปัญหานักเรียนมีผลการเรียน 0 ร มส ซึ่งเป็นปัญหาที่ครูผู้สอนและครูงานวัดผลต้องติดตามแก้ไขกันทุกภาคเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้สำเร็จการศึกษาได้ตามเกณฑ์การวัดผลและประเมินผล โรงเรียนบ่อวิทยาคารจึงพัฒนารูปแบบ BORWIT MODEL เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

โรงเรียนบ่อวิทยาคาร ได้ดำเนินการกำหนดแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวังเด็กนักเรียนออกกลางคันให้สามารถเรียนจบตามหลักสูตร โดยใช้รูปแบบ BORWIT MODEL ดังนี้

1. Base Imformation ข้อมูลพื้นฐาน

         ครูที่ปรึกษาจัดทำรายงานสรุปการมาเรียนของนักเรียนเพื่อสำรวจข้อมูลนักเรียนที่มีแนวโน้ม      มีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 เพื่อติดตามนักเรียนที่อาจมีปัญหาหมดสิทธิ์สอบ และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการเก็บคะแนนรายจุดประสงค์ในแต่ละรายวิชา

2. Obstacle Analysis วิเคราะห์อุปสรรค

         2.1 ครูที่ปรึกษาติดตามนักเรียนเป็นรายบุคคลจากการเก็บข้อมูลเชิกลึก โดยการสัมภาษณ์นักเรียน ผู้ปกครอง รวมถึงการเยี่ยมบ้านเพื่อวิเคราะห์ปัญหาและอุปสรรคที่ส่งผลให้นักเรียนไม่สามารถมาเรียน  ได้ตามปกติ

         2.2 โรงเรียนดูแลนักเรียนกลุ่มเสี่ยงด้วยการให้นักเรียนเลือกครูที่ปรึกษาที่กลุ่มนักเรียนยินดี    ขอคำปรึกษา และให้ครูให้คำปรึกษา ดูแล ติดตามช่วยเหลือนักเรียน และเลือกคู่ Buddy (เพื่อนช่วยเพื่อน) เพื่อคอยให้คำแนะนำในการติดตามภาระงานรายวิชา โดยใช้แบบบันทึกการติดตามช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ และพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ กำกับติดตามผลการดำเนินงานช่วยเหลือนักเรียน

         2.3 โรงเรียนจัดประชุมผู้ปกครองเพื่อทำข้อตกลงความเข้าใจ (Memorandum of Understanding : MOU) ระหว่าง นักเรียน ครูที่ปรึกษากลุ่ม และผู้ปกครอง ในการติดตามดูแลช่วยเหลือนักเรียน

         2.4 เมื่อนักเรียนได้รับการติดตามช่วยเหลือจนมีเวลาเรียนและคะแนนเก็บรายจุดประสงค์       ในแต่ละรายวิชาเพียงพอ นักเรียนก็สามารถสอบวัดผลปลายภาคได้ตามปกติ 

3. Regulation แนวทาง / ระเบียบการแก้ 0 ร มส และ มผ

         หากนักเรียนไม่สามารถดำเนินการตามขั้นตอนการดูแล ติดตามช่วยเหลือ นักเรียนต้องลงทะเบียน / ยื่นคำร้องขอมีสิทธิ์สอบ ตามระเบียบการวัดผลและประเมินผล

4. Worthiness ความคุ้มค่า

         4.1 ครูผู้สอนวิเคราะห์ข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อกำหนดแนวทางการวัดผลการเรียนรู้ ตามสภาพจริง ที่เหมาะสมกับความสามารถของนักเรียน ทั้งนี้ให้คำนึงถึงนักเรียนเป็นสำคัญและความแตกต่าง  ของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อให้นักเรียนได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา เรียนจบหลักสูตรได้วุฒิทางการศึกษา เพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต

         4.2 นักเรียนยื่นคำร้องขอแก้ไขผลการเรียน และดำเนินการแก้ไขผลการเรียน

         4.3 นักเรียนที่ดำเนินการแก้ไขผลการเรียนแล้ว นักเรียนสามารถสอบวัดผลปลายภาคได้ตามปกติ

         4.4 นักเรียนที่ไม่ดำเนินการแก้ไขผลการเรียน ให้ยื่นคำร้องขอแก้ไขผลการเรียนรอบ 2

5. Improve การปรับปรุง แก้ไข

         ครูผู้สอนสอนซ่อมเสริมให้แก่นักเรียนในการแก้ไขผลการเรียนในรอบที่ 2 เพื่อช่วยเหลือ/พัฒนาความรู้ในส่วนที่นักเรียนยังไม่เข้าใจ ให้นักเรียนสามารถบรรลุตามตัวชี้วัดของหลักสูตรได้

6. การปรับปรุง แก้ไข การตรวจสอบย้อนกลับ

         งานวัดผลจัดทำรายงานการดำเนินการตามแนวทางการป้องกัน เฝ้าระวังเด็กนักเรียนออกกลางคันให้สามารถเรียนจบตามหลักสูตร โดยใช้รูปแบบ BORWIT MODEL เพื่อพัฒนาการดำเนินการในครั้งต่อไป

จากการร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ทั้งครูที่ปรึกษารวบรวมข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับรายวิชา วิเคราะห์ปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล ประสานงานกับผู้ปกครองเพื่อร่วมกันดูแล ครูผู้สอนให้ความร่วมมือในการปรับวิธีการสอนซ่อมเสริมและวิธีการแก้ปัญหาผลการเรียนโดยเน้นการประเมินตามสภาพจริง มีการใช้วิธีการแบบเพื่อนช่วยเพื่อน โดยผู้บริหารเป็นผู้สนับสนุนการดำเนินกิจกรรม จึงทำให้การแก้ไขปัญหา 0 ร มส ประสบความสำเร็จ

การแก้ปัญหา 0 ร มส ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ช่วยกันดูแลและผลักดัน โดยพิจารณาช่วยเหลือนักเรียนด้วยความรัก ความเมตตาและความเข้าใจ เพราะนักเรียนแต่ละคนมีปัญหาแตกต่างกัน การผลักดันให้นักเรียนสำเร็จการศึกษาอาจส่งผลถึงโอกาสในการประกอบอาชีพและการมีงานทำ ดังนั้น ครูผู้สอนต้องคำนึงอนาคตของผู้เรียนเป็นสำคัญ