จากที่ต้องสอนเนื้อหาแบบปกติ ลองเปลี่ยนให้คาบเรียนเริ่มต้นด้วยกติกา "จับผิดครู"

บอกนักเรียนว่า ทุกๆ เรื่องที่ครูจะเล่า ให้ลองทายว่าเรื่องไหนจริง เรื่องไหนไม่จริง แล้วเรื่องจริง คืออะไร?

• จริงๆ แล้วอ่ะ ปลาโลมาไม่ใช่ปลานะ (อาจจะอยู่ในบทเรียนเรื่องอาณาจักรของสิ่งมีชีวิต)
• ก๋วยเตี๋ยวที่กินที่โรงอาหารเมื่อตอนกลางวันครบ 5 หมู่เลย (เด็กๆ อาจจะเถียงกันได้ว่า เอ้ย ไม่ครบนะ หรือครบ? เพราะอะไร? เช่น เพราะหนูเติมผักเพิ่มเองค่ะครู)
• แมงมีหกขา แมลงมีแปดขา (ใช่มั้ยน้า)
• ทฤษฎี xxxx ถูกใช้มาเพื่อแก้ไขปัญหา xxxxx

ครูสามารถต่อยอดออกแบบคาบเรียนนั้นๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

• จัดกลุ่มนักเรียน เพื่อให้ในกลุ่มได้ถกเถียงกันก่อนจะตัดสินใจ โดยที่ครูยังไม่เฉลยอะไร หรืออาจจะเนียนได้ว่าคำตอบอาจจะมีอยู่ในหนังสือที่เป็นการบ้านให้อ่านมาก่อน
• ชวนนักเรียนออกจากโต๊ะเลย คาบนี้ไม่ต้องจด ใช้แต่สมองล้วนๆ ให้เลือกฝั่งว่าคิดว่าจริง หรือไม่จริง และเพราะอะไรด้วย
• อาจจะมีการเก็บคะแนนเล็กๆ น้อยๆ หรือของรางวัล เช่น ขนมลูกอม โดยที่ครูอาจจะไม่ใช่ผู้ตัดสิน แต่เป็นนักเรียนเองที่ร่วมกันโหวตว่าเหตุผลใครน่าสนใจกว่ากัน ย้ายฝั่งได้หลังได้รับข้อมูลเพิ่ม

สิ่งที่น่าสนใจและอยากชวนลองทำ คือการนำเนื้อหาที่จะถ่ายทอดนั้นเชื่อมโยงกับชีวิตของนักเรียนมากขึ้น ให้เขารู้สึกว่าเขาสามารถคิดวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบได้ ไม่ไกลตัว ไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่รู้หรือต้องอ่านเนื้อหาก่อนถึงจะรู้ถึงจะตอบได้ เพื่อโอบรับความหลากหลายและความสนใจของนักเรียนในห้อง เช่น

• ถ้าเรียนเรื่องระยะทางกระจัด อาจจะเชื่อมโยงกับวิธีการกลับบ้านของแต่ละคนในห้องที่บ้านอยู่ใกล้กัน กลับด้วยวิธีแบบไหนใกล้กว่า ครูอาจจะโกหกได้ว่าวิธีนี้ใกล้กว่านะ ชวนนักเรียนแย้งด้วยอีกชุดข้อมูลหนึ่ง เนื้อหานั้นก็จะถูกโยงเข้ากับเรื่องระยะทางกระจัดในภายหลัง หรือบอกว่าจริงๆ มันใช้ระยะทางกระจัดได้ไหม เพราะในความจริงเราต้องเดินผ่านสิ่งกีดขวางอะไรบ้าง หรือจะเป็นตัวอย่างของเครื่องบินที่มันเร็วเพราะเราบินด้วยระยะทางกระจัดรึเปล่า? (แค่ยกตัวอย่างนะคะ อาจจะไม่ได้ถูกต้องในเชิงเนื้อหามากนัก ลองอ่านแล้วเดาดูก็ได้ค่ะว่ามีคำโกหกซ่อนอยู่ในนี้รึเปล่า รู้สึกว่าสมอง active ขึ้นแล้วใช่ม้าาา 👀)

สิ่งนี้นอกจากจะเป็นการสอนแล้วคุณครูยังสามารถนำไปประยุกต์กับการทำแบบฝึกหัด หรือแม้แต่การออกข้อสอบได้ แต่ไม่ใช่แค่บอกว่าอะไรถูกอะไรผิด แต่ต้องบอกให้ได้ด้วยว่า ถ้ามันผิด แล้วเรื่องจริงเป็นยังไง หรือท้าทายขึ้นไปอีกขั้นด้วยการที่ให้เรื่องที่ชวนพูดคุยนั้นไม่ได้มีถูกหรือผิดอย่างชัดเจน แต่ชวนให้นักเรียนอธิบายให้ได้ว่าเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ