ยามน้ำฟ้า ตกมาสู่เฮา

ยามน้ำฟ้า ตกมาสู่เฮา เอามาจากชื่อหนังสั้นนิเทศศาสตร์จุฬา ที่เคยไปดูสมัยเรียนค่ะ ชอบชื่อนี้มาก เลยขอเอามาตั้งชื่อไอเดียซะเลย

เขียนไอเดียเกี่ยวกับฤดูฝนเป็นอันที่ 3 แล้ว อาจจะ 4หรือ5 ตัวซ้ำไม่แน่ใจ เป็นหน่วยที่มีเลเวลความสดใส100คะแนนเต็มไปเลย

เริ่มจากให้ลองสังเกตท้องฟ้าของวันนั้นดู

จากการสังเกตท้องฟ้าในวันนั้น และจากการสังเกตท้องฟ้าในนิทาน เรื่อง ก้อนเมฆมีน้ำใจแล้ว

และบันทึกผลความต่างระหว่างท้องฟ้าที่มีฝนตกและไม่มีฝนตก โดยได้คำตอบว่าท้องฟ้าตอนที่ฝนตกจะมีสีดำ หลังจากนั้นถ้ามีเมฆสีดำเด็กๆจะรีบวิ่งหาที่หลบทันที

และก่อนจบวันไปด้วยการให้เด็กๆลองทำศิลปะ เติมเม็ดฝนในรูปภาพด้วยหลอดหยอด

ลองใช้เป็นครั้งแรกแต่เด็กๆก็ควบคุมหลอดหยอดได้ค่อนข้างดีเลย

แต่ถ้าตกหนักขนาดนี้ น่าจะอุทกภัย

เมื่อรู้แล้วว่าสัญญาณการเกิดฝนคืออะไร แล้วฝนเกิดขึ้นได้อย่างไร

การทดลองง่ายๆที่จะอธิบายการเกิดฝนให้เด็กๆเข้าใจได้ง่ายๆ

โดยใช้น้ำแข็งและน้ำร้อนสร้างความต่างของอุณหภูมิ

ทีแรกจะเห็นแค่ไอน้ำที่เกาะตามขวดแต่สักพักจะเห็นหยดน้ำกลั่นตัวลงมา นั้นแหละคือน้ำฝน

เมื่อรู้แล้วว่าฝนตกได้อย่างไร สัญญาณก่อนฝนตกคืออะไร และฝนตกแล้วต้องทำอย่างไร? เป็นการบ้านให้เด็กๆนำสิ่งของที่คิดว่ากันฝนได้มาจากที่บ้าน

โดยให้เด็กๆใส่เสื้อกันฝนเป็นชั้นแรกก่อนจะได้ไม่เปียกจนเกินไป

ทดสอบเสื้อกันฝนเป็นอย่างแรก ก็กันได้อยู่แล้ว ก็เสื้อกันฝนอะ

และต่อด้วยร่ม

และต่อด้วยสิ่งของอื่นๆที่เด็กๆนำมาและที่หาได้จากในโรงเรียน

ผลที่ได้ บางอย่างก็กันฝนได้บางอย่างก็ไม่ได้ แต่กระดาษที่บันทึกผลอะ ไม่รอด

ใส่เสื้อกันฝนก็ยังเปียกเหมือนเดิม จุดนี้ก็งงเหมือนกัน

แล้วถ้าเกิดฝนตกลงมานานๆละจะเกิดอะไรขึ้น คำตอบค่อยตอบหลังจากเห็นเมืองจำลองที่น้ำค่อยๆท่วมหลังจากฝนตก ใช่แล้วแล้วถ้าน้ำท่วมละเราต้องทำอย่างไร

การป้องกันการเกิดน้ำท่วมอาจจะยากแต่เราเตรียมเด็กๆให้รับมือได้

เริ่มจากฝึกลอยตัว ต่อให้ว่ายน้ำไม่เป็นแต่ถ้ารู้หลักการลอยตัวก็สามารถเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้

แต่ว่าต่อให้ว่ายน้ำเป็น แต่ไม่ใส่ชูชีพก็ไม่รอดค่ะ ชูชีพคือสิ่งจำเป็นมากในการเอาชีพรอดในน้ำ

แต่ถ้าไม่มีชูชีพก็มีสิ่งของใกล้ตัวให้เด็กๆได้ลองทดลองว่าจะช่วยให้ลอยตัวได้หรือไม่

ส่วนใหญ่สามารถใช้ลอยตัวได้แต่อาจจะมีขนาดเล็กเกินไปสำหรับเด็กเลยทำให้จมได้เหมือนกัน

และใช้คีย์เวิร์ด "ตะโกน โยน ยื่น" ให้เด็กๆใช้เป็นไกด์ไลน์ในการช่วยชีวิตคนจมน้ำ

1. ตะโกนให้คนมาช่วย ถ้าตะโกนไม่ไหว เสื้อชูชีพมีนกหวีด เป่าดังๆเป่าดังๆไปเลยยยย

2.โยน ห่วงยางหรืออะไรก็ได้ให้เกาะ

3.ยื่นมือช่วยกันดึงขึ้นมาบนบก

เป็นคีย์เวิร์ด 3 คำจำง่าย แต่ใช้ได้จริง ไม่ใช่แค่เด็กที่ควรรู้แต่รวมถึงผู้ใหญ่ก็ด้วย

และฝึก CPR กับน้องเป็ดคนดีคนเดิม โดนเป็นคนป่วยให้เด็กๆ CPR ตลอดไป

นอกจากลอยตัวบนบกแล้ว ลอยตัวในน้ำก็มีเด็กๆที่ทำได้โดยไม่ต้องมีที่ช่วยผยุงตัวเลย แต่บางคนยังกลัวอยู่ฝึกอีกนิดน่าจะทำได้เอง

และไม่ลืมที่จะคุยกันเรื่องโรคระบาดในหน้าฝน อย่าง ไข้หวัด ไข้เลือดออก

เดินดูแหล่งน้ำกันรอบโรงเรียน เจอลูกน้ำในหลายที่ ช่วยกันคว่ำจนถุงเท้าเปียกกันเลย

ขอบคุรแฝ่นพับจาก อบต.โพธิ์ตรุ ด้วยค่ะ เข้าใจง่ายข้อมูลครบ ให้เด็กๆไปผู้ปกครองคอยสังเกตอาการเผื่อใครในบ้านไม่สบายและเข้าค่ายจะได้รักษาทัน

ก่อนจากกันไปขอฝากศิลปะตามแบบ แจ็กสัน พอลล็อก สนุกมากและเปื้อนมาก

ฤดูฝนกำลังจะผ่านไปแล้ว แต่สำหรับเราเป็นหน่วยที่เราชอบมากที่สุดเลย เพราะเป็นหน่วยที่ช่วยละลายพฤติกรรมเราและเด็กเข้าหากันได้จริงๆ เปิดเทอมใหม่ ชั้นเรียนใหม่ อาจจะยังไม่สนิทกันเท่าไหร่แต่พอทำกิจกรรมเล่นน้ำฝนด้วยกันเท่านั้นแหละ กำแพงที่เคยมีก็หายไป ขอให้ทุกคนสนุกกับฤดูฝนนะคะ