แนวทางการจัดการเรียนรู้นี้เป็นการพัฒนาทักษะการคิดและการสื่อสารในรายวิชาสังคมศึกษา เรื่องการละเมิดสิทธิเด็กในสังคม โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนผังความคิด ในระดับชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5 ผ่านกิจกรรมทั้งหมด 6 ขั้นตอน ที่ผู้สอนได้ทำการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้เรียนในชั้นเรียน ซึ่งแผนผังความคิดนี้เป็นแนวความคิดของ โทนี บูซาน (Buzan) นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ ถือเป็นวิธีการที่ช่วยพัฒนากระบวนการคิดและการสื่อสารที่ต้องอาศัยการทำงานของสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวาในการช่วยพัฒนาการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนให้ดีมากยิ่งขึ้น สำหรับขั้นตอนการทำกิจกรรมจะมี 6 ขั้นตอนที่ผู้สอนได้ทำการศึกษาและสรุปออกมาเป็นแนวทางการสอน ได้แก่

1) กำหนดประเด็นปัญหา 2) เข้ากลุ่มระดมสมอง 3) รวบรวมข้อมูล/กำหนดประเด็นหลักและรอง 4) เขียนแผนผังความคิด 5) ตรวจสอบปรับปรุงข้อมูล 6) นำเสนอผลงานในชั้นเรียน 

ผู้สอนได้ทำการแบ่งขั้นตอนให้ง่ายต่อการเขียนแผนการสอนโดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน

1) ขั้นนำ

โดยเริ่มด้วยการใช้ภาพ 4 ภาพเกี่ยวกับเด็กแบ่งเป็นภาพที่ให้ความรู้สึกดีและเป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กควรได้รับ 2 ภาพ กับ ภาพที่ให้ความรู้สึกไม่ดีและเป็นการละเมิดสิทธิเด็กจำนวน 2 ภาพ พร้อมตั้งคำถามเด็กว่า นักเรียนรู้สึกชอบภาพใดมากที่สุดและภาพใดที่ให้ความรู้สึกแย่ที่สุดจากจำนวน 4 ภาพนี้ จากนั้นผู้สอนลองให้ผู้เรียนบอกถึงการละเมิดสิทธิเด็กที่ตนเองเคยพบเห็นหรือรับฟังข่าวมานอกเหนือจากภาพที่ผู้สอนนำเสนอ โดยที่ผู้สอนเขียนสิ่งที่ผู้เรียนตอบไว้บนกระดาน (เป็นขั้นที่ให้ผู้เรียนได้กำหนดประเด็นปัญหาก่อนทำกิจกรรม)

2) ขั้นสอน/ขั้นกิจกรรม

• ผู้สอนดำเนินการซักถามต่อไปอีกว่า แล้วสิทธิเด็กพื้นฐานที่ควรได้รับมีอะไรบ้าง (ผู้เรียนตอบตามความเข้าใจ/ใช้ความรู้เดิม) พร้อมอธิบายถึงสิทธิเด็กพื้นฐานสำคัญ 4 ประการ จากนั้นให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มกันแบบคละความสามารถ พร้อมทั้งให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเลือกประเด็นปัญหาจากบนกระดานที่ตนเองได้ตอบไว้ (เป็นขั้นเข้ากลุ่มระดมสมอง) ซึ่งผู้สอนจะทำการแจกกระดาษ 2 แผ่น เป็นใบงานกล่องความคิดกำหนดประเด็นปัญหาให้แต่ละกลุ่มพร้อมอุปกรณ์การทำแผนผังความคิด เช่น กระดาษปรู๊ฟ สีเมจิก
• ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันสืบค้นหาข้อมูลจากสื่อออนไลน์ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรือจากการซักถามครูผู้สอน แล้วทำการบันทึกข้อมูล แหล่งข้อมูลสิ่งที่สืบค้นลงในกล่องข้อความแต่ละช่องเพื่อให้ได้ข้อมูลที่นำมาสู่ประเด็นสำคัญที่จะสรุปเป็นผังความคิด ขณะทำกิจกรรมผู้สอนคอยซักถาม ให้ความช่วยเหลือ (ขั้นรวบรวมข้อมูล/กำหนดประเด็นหลักและรอง )
• ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มลงมือทำแผนผังความคิดด้วยการเขียนหัวข้อและแตกประเด็นหลักและประเด็นรอง โดยการนำข้อมูลจากสิ่งที่ได้สืบค้นแล้วบันทึกไว้ในกระดาษกล่องข้อความมาเขียนลงในแผนผัง ซึ่งผู้สอนจะคอยติดตามความก้าวหน้าของแต่ละกลุ่ม (ขั้นเขียนแผนผังความคิด)
• ผู้สอนตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องของแผนผังความคิด พร้อมให้ผู้เรียนร่วมตรวจสอบและทำการปรับปรุงแผนผังของตนเองเพื่อความถูกต้องก่อนนำเสนอหน้าชั้นเรียน (ขั้น ตรวจสอบปรับปรุงข้อมูล)
• ผู้เรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันนำแผนผังความคิดออกมานำเสนอสรุปความรู้ให้เพื่อนในชั้นเรียนฟังในแต่ละหัวข้อที่ตนเองสนใจและได้ทำการศึกษามา พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้สอนและเพื่อนในชั้นเรียน (ขั้น นำเสนอผลงานในชั้นเรียน) ซึ่งในช่วงนี้ผู้สอนอาจให้เพื่อนแต่ละกลุ่มร่วมกันให้คะแนนเพื่อนไปพร้อมกันด้วยก็ได้

3) ขั้นสรุป

ผู้สอนและผู้เรียนสรุปความรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิเด็กในสังคม พร้อมแนวทางวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหา รวมถึงความรู้เกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานที่เด็กควรได้รับตามที่บทกฎหมายกำหนด (ท้ายคาบเรียนผู้สอนมอบหมายงานให้ผู้เรียนสรุปผังความคิดสิ่งที่ได้เรียนส่งเป็นรายบุคคลนำมาส่งคาบเรียนถัดไป)

จากการใช้กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยการใช้แผนผังความคิดนี้ ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการจัดลำดับความคิด ได้แสดงความคิดเห็น เสนอความคิดสร้างสรรค์เกิดการสื่อสารกับเพื่อนสมาชิกในกลุ่มและมีความกล้าในการแสดงออกด้วยการนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนมากขึ้น ซึ่งถือเป็นทักษะสำคัญในการคิดและการสื่อสาร ที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ในรูปแบบนี้