ทำเรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ ที่มีเนื้อหาจำนวนมาก ยากต่อการจดจำ ให้น่าเรียนและสนุกมากขึ้น ภายใต้แนวคิด“Play-Based Learning Activities” จึงเป็นที่มาของการสร้างนวัตกรรมเกมจิ๊กซอว์สามัคคี ที่ช่วยให้ทั้งผู้เรียนและผู้สอนรู้สึกสนุกกับกิจกรรมการตอบคำถาม และการลุ้นคะแนน ซึ่งต้องใช้ความสามัคคีของสมาชิกในกลุ่มที่ต้องช่วยกันจดจำเนื้อหาและวิเคราะห์คำถามเพื่อหาคำตอบ

เริ่มต้นจากผู้เรียนต้องสร้างองค์ความรู้ด้วยการสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ และสรุปความรู้ออกมาเป็น Mindmap ตามความเข้าใจของตนเอง รวมถึงการทำความเข้าใจเนื้อหามาแล้ว จึงจะเข้าสู่กระบวนการเล่นเกมนี้ได้ ซึ่งจะช่วยสรุปความคิดรวบยอดและสร้างการจดจำเนื้อหาให้กับผู้เรียน

กระบวนการเกมเริ่มจาก

1. แบ่งสมาชิกในห้องเรียนออกเป็นจำนวน 3 ทีม (อาจใช้การแบ่งกลุ่มสุ่มจากออนไลน์)
2. สมาชิกแต่ละทีมจะได้รับแจกบัตรคำเกี่ยวกับ เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อซึ่งมีทั้งหมด 43 ใบ โดยบัตรคำแบ่งเป็น ชื่อต่อมไร้ท่อหรืออว้ยวะที่สร้างฮอร์โมน และ ชื่อฮอร์โมน
3. แต่ละทีมจะต้องบริหารจัดการแบ่งหน้าที่สมาชิกในทีมเพื่อรับผิดชอบและทำความเข้าใจบ้ตรคำของตนเองโดยจำนวนบัตรคำต่อสมาชิก 1 คน จะมีประมาณ 3-4 ใบหรือมากกว่านั้นแล้วแต่จำนวนสมาชิก หรือการบริหารจัดการภายในทีม (ขั้นตอนนี้ครูอาจให้เวลานักเรียน 10-20 นาที)
4. เมื่อพร้อมแล้วก็ไปเริ่มเล่นเกมกันได้เลย
5. โดยเมื่อเปิดคำถามจาก ppt ของครูบนกระดานแล้ว สมาชิกในทีมจะต้องช่วยกันหาบัตรคำที่เป็นคำตอบ โดยให้ตัวแทนกลุ่มถือบัตรคำตอบออกมากดกริ่ง หรือรับสัณญาณ ซึ่งจากกิจกรรม ผู้สร้างใช้ ไก่โอ๊ค เป็นสัญญาณลำดับที่ 1 และ กริ่ง เป็นลำดับที่ 2 และ 3 เพื่อให้สิทธิ์กลุ่มที่ออกมากตามลำดับ ส่วนการตัดสินจะเน้นจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้องมาก่อน แล้วจึงพิจารณาตามลำดับการออกมาตอบ ซึ่งคำถามแต่ละข้อมีจำนวนแตกต่างกัน
6. กลุ่มที่ตอบคำถามได้ถูกต้องมากที่สุดและเร็วที่สุด 2 อันดับแรก จะมีสิทธิในการออกมาหมุนวงล้อคะแนนที่ครูสร้างขึ้นจาก wordwall
7. ไปร่วมสนุกและลุ้นคะแนนกันได้เลย

ช่วยให้การจัดการเรียนรู้ในห้องเรียน เรื่อง ระบบต่อมไร้ท่อ มีความน่าสนใจ สนุกสนาน ทั้งผู้เรียนและผู้สอน สร้างการจดจำเนื้อหาและสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับ การทำงานของระบบต่อมไร้ท่อและหน้าที่ของฮอร์โมนที่ส่งผลต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็นการฝึกทักษะการทำงานเป็นทีมได้เป็นอย่างดี

อาจปรับข้อคำถามให้ง่ายขึ้น หรือลดจำนวนของบัตรคำให้น้อยลง สำหรับห้องเรียนที่มีจำนวนผู้เรียนไม่ถึง 30 คน