inskru

การใช้ Manifestation ผสาน อิทธิบาท 4 ช่วยพัฒนานักเรียนได้

3
3
ภาพประกอบไอเดีย การใช้ Manifestation ผสาน อิทธิบาท 4 ช่วยพัฒนานักเรียนได้

ต่างกัน หรือ เหมือนกัน ?


Manifestation เป็นแนวคิดที่นิยมในวงการพัฒนาตนเอง เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นจริง ผ่าน พลังความคิด การจินตนาการ และการกระทำอย่างมีเป้าหมาย

อิทธิบาท 4 คือหลักธรรมสำคัญในพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้บรรลุความสำเร็จในกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งด้านการงาน การเรียน และการพัฒนาตนเอง


การนำศาสตร์ใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้กับนักเรียน

Manifestation ในบริบทการศึกษาและพัฒนาตนเอง หมายถึง กระบวนการทำให้สิ่งที่ผู้เรียนต้องการเห็นหรือบรรลุปรากฏชัดในจิตใจ (Visualization) และนำไปสู่การปฏิบัติจริง

พูดง่าย ๆ คือ การใช้ การจินตนาการถึงเป้าหมายหรือความสำเร็จ (Vision) อย่างชัดเจน เพื่อสร้างแรงจูงใจ และทำให้ผู้เรียนมีทิศทางในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น:

  • นักเรียนจินตนาการว่าตนเองสามารถแสดงนาฏศิลป์ไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
  • ผู้เรียนเห็นภาพตัวเองบนเวทีหรือในสถานการณ์ที่ประสบความสำเร็จ
  • จากภาพที่ชัดเจนนี้ ผู้เรียนจะกำหนดขั้นตอน ฝึกฝน และลงมือทำจริงเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น

ในเชิงการจัดการเรียนรู้ Manifestation จึง ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ (Motivation) และความมุ่งมั่น (Discipline) ทำให้ผู้เรียนตั้งเป้าหมายชัดเจน และสามารถพัฒนาทักษะได้อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ

การผสมผสานหลักธรรม อิทธิบาท 4 กับเทคนิค Manifestation ทำให้กระบวนการฝึกซ้อม มีเป้าหมายที่ชัดเจนผู้เรียนเกิดแรงบันดาลใจและสามารถพัฒนาผลงานศิลปวัฒนธรรมไทย ได้อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ พร้อมทั้งการประยุกต์ใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ CIPPA Model ช่วยให้ผู้เรียนฝึกคิด วิเคราะห์ ปฏิบัติ และประเมินตนเองรอบด้าน ทำให้ผลงานมีคุณภาพสูงแม้แนวทางที่ใช้จะมาจากศาสตร์คนละด้าน แต่การผสานเข้าด้วยกัน ช่วยให้ผู้เรียนค่อย ๆ   ซึมซับคุณค่าทางวัฒนธรรมไทย ทั้งด้านศิลปะการแสดงเพลงพื้นบ้าน และการแสดงนาฏศิลป์ไทยอนุรักษ์ ซึ่งกลายเป็น Soft Power ภายในโรงเรียนนอกจากนี้การมีส่วนร่วมของผู้เรียนในทุกขั้นตอนของการฝึกซ้อม และการสร้างสรรค์ผลงานยังเสริมสร้างความผูกพันระหว่างผู้เรียนกับผลงาน และสร้างความรักและความภูมิใจในโรงเรียนอย่างยั่งยืน


ใช้ยังไง ?

อ่านมาถึงตอนนี้บางคนยังคงงง ว่า คืออะไร ยังไง ??? ขอเล่า 4 ขั้นตอน ที่นำไปใช้แล้วได้ผล ทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้แน่นอน (นำไปใช้กับนักเรียนยังไงมาแชร์ให้อ่านในช่องความคิดเห็นด้วยน้าาา)

  1. สร้างแรงบันดาลใจและกำหนดเป้าหมาย (Manifestation)

ครูและนักเรียนร่วมกันกำหนดเป้าหมายและสร้าง Vision Board ซึ่งเป็นภาพแทนความสำเร็จที่คาดหวัง เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมองเห็นเป้าหมายและเกิดแรงจูงใจในการพัฒนาตนเองอย่างชัดเจน

2. นำหลักอิทธิบาท 4 สู่การปฏิบัติ

-  ฉันทะ (ความรักและความตั้งใจ): ปลูกฝังความรักและความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมไทย

-  วิริยะ (ความเพียร): ฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ไม่ย่อท้อต่อความยากของทักษะ

-  จิตตะ (ความเอาใจใส่): ใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งท่ารำ ท่าทาง น้ำเสียง และจังหวะ

-  วิมังสา (การพินิจพิเคราะห์): วิเคราะห์ข้อบกพร่องปรับปรุงและพัฒนาผลงานอย่างต่อเนื่อง

3. ใช้ CIPPA Model ประกอบการเรียนรู้

Construct           → ศึกษาและทำความเข้าใจรากเหง้าของศิลปะและวัฒนธรรมไทย

Interaction          → ฝึกซ้อมร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเรียนรู้จากเพื่อนร่วมทีม

Practice             → ปฏิบัติจริง เพื่อพัฒนาทักษะและความชำนาญ

Participation       → มีส่วนร่วมในเวทีชุมชนแสดงออกต่อสาธารณะ

Application         → นำความรู้และทักษะไปใช้ในการแข่งขันหรือกิจกรรมจริง

4. ประเมินและสะท้อนผล

หลังทำการแสดงทุกครั้งนักเรียนทำ Reflection เพื่อสะท้อนความก้าวหน้าปัญหา และวิธีปรับปรุงต่อไปส่งผลให้เกิดการเรียนรู้แบบต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

#สร้างสรรค์เสาะหาสิ่งใหม่มาพัฒนานักเรียนกัน

ศิลปะดนตรีและนาฏศิลป์ทักษะการฝึกฝนคุณธรรมกระบวนการmodelManifestation อิทธิบาท 4 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม

ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

3
ได้แรงบันดาลใจ
3
ลงไอเดียอีกน้า~
แบ่งปันโดย
บันทึกของครูอุ๊ inskru
"เมื่อคนเรียนจบนาฏศิลป์" ต้องมาสอนสาระอื่น ยาก!! แต่...ทำได้

อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

please login

แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
credit idea

ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

ไอเดียน่าอ่านต่อ