ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายๆ คนคงประสบปัญหาฝนตกแทบจะทู๊กกกกกกกกกกกกวัน จนแบบเออ รู้แล้วว่าฤดูฝน ช่วยพักก่อนได้ไหม น้ำจะท่วมโรงเรียนแล้ว แต่สิ่งที่มากับฝนครั้งนี้คือความาสนุกและอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่มากับน้ำ ไม่ว่าจะเป็น อึ่งอ่าง คางคก ปู งู และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือโคลน จะเป็นอย่างไรเมื่อเด็ก ฝน โคลน มาเจอกัน มาชมกันเลย
เราได้ย้อนการมีอยู่ของดินให้เด็กๆ ได้เรียนรู้คือการกำเนิดหินโดยการเปิดโอกาสให้เด็กได้ทดลองการเกิดภูเขาไฟระเบิด ซึ่งก่อนการทำกิจกรรมเด็กๆได้ดูวิดีโอการเกิดภูเขาไฟระเบิด พร้อมทั้งผลที่ตามมาเช่น เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่ปอมเปอี จากนั้นก็เริ่มทดลองกัน สิ่งที่เด็กๆ ได้ความรู้เพิ่มเติมจากที่ว่า ภูเขาไฟระเบิดเป็นหนึ่งในสาเหตุของการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์แล้ว ยังเป็นสาเหตุของการเกิดหิน อีกด้วย
หลังจากทดลองแล้วเด็กๆก็ลงมือบันทึกผลการทดลอง เนื่องจากเราสอนควบชั้นใบงานเด็กๆก็จะต่างกันไป
ต่อด้วยกิจกรรมสำรวจหิน บริเวณกระบะทราย โดยร่อนหินแต่เนื่องด้วยฝนตกทำให้ทรายเปียก เราก็เลยเสนอว่าตักทรายใส่ตะกร้าแล้วไปล้างน้ำดูสิ จากนั้นความบันเทิงก็เกิดขึ้น
ทะแด่มมมม นี่คือหินของแต่ละกลุ่มที่ผ่านการทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว
ขั้นสรุปของกิจกรรมนั่นคือการสังเกตและจำแนกลักษณะของหินตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งเด็กๆ ตื่นเต้นและมีความกระตือรือร้นในการค้นหาอย่างมาก และดีใจที่เด็กได้ทักษะเพิ่มขึ้นในการใช้คำบ่งบอกลักษณะ เช่น มันวาว ขุ่น เป็นต้น เราบอกเด็กว่าเนี่ยหินบางชนิดอาจเป็นพลอยที่เขาเอาไปทำเครื่องประดับได้นะ เด็กบอกว่า "คุณครูถ้าเราเจอพลอยเราจะทำยังไง" เราก็เอาไปขาย แล้วเราก็รวย รวยแล้วเราก็ลาออก 5555 เด็กบอก "เฮ้ๆๆๆๆ"
สุดท้ายด้วยการเรียงลำดับขนาดก้อนหิน
ความบันเทิงกำลังจะเริ่ม ในเมื่อชอบเล่นโคลนนัก คุณครูนี่แหละจะพาเล่น อุปกรณ์พร้อม เราพร้อม ลุย+-+
เราก็เตรียมที่ขุด ช้อน แม่พิมพ์พาเด็กมาเล่นขายของ เปิดร้านขายขนมครก เด็กบางคนเขาไม่เคยเล่น เขาสนุกมากกกก ระหว่างที่กำลังเล่นภารโรงขี่รถผ่านมาเด็กรีบร้องตะโกนบอกไปว่า "พ่อแพรรรรรรรรร คุณครูพาเล่นขี้ตม" กรี๊ดดดดด หักหลังกันได้ลงคอ
ความบังเอิญเด็กได้พบกับไข่สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เรียกคุณครูมาดูด้วยความตื่นเต้น และนี่คือต้นเรื่องของหน่วยถัดไป
ต่อด้วยกิจกรรมสำรวจสิ่งมีชีวิตในดิน เราไม่เคยรู้เลยว่าสนามฟุตบอลโรงเรียนได้ทำร่องน้ำระบาย จนกระทั่งเด็กไปเล่น และเขาได้ทดลองสร้างเขื่อนง่ายๆ จากนั้นก็วิดน้ำจากด้านหลังมาด้านหน้า พร้อมกับบอกว่า ด้านนี้น้ำน้อย ด้านนี้น้ำมาก นี่คือการเล่นที่ได้มากกว่าเล่น
ณ ที่ตรงนี้เราพบรากของพืชที่อยู่ในดิน ไส้เดือน ไอโซพอด ตะขาบที่เสียชีวิตแล้ว
ตะเอ๋ มีใครอยู่ไหม? ไม่คิดเลยว่าลูกสาวผู้น่ารัก เรียบร้อย จะจับลูกคางคกด้วยมือเปล่า 555
ก่อนถึงห้องเด็กบอกคุณครูคราบงู เราก็บอกว่าถ้ามีคราบแสดงว่าต้องมีตัวงูอยู่บริเวณนี้ ดังนั้นต้องระวัง
จากนั้นก็นำเสนอผลงานและร่วมกันสรุปโดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์
ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยการเปรียบเทียบคุณสมบัติของดินแต่ละประเภท โดยการให้เด็กๆ ตามหาดินที่ครูกำหนดให้
เมื่อได้ดินมาแล้วก็ทำการเติมน้ำให้เท่ากับขีดที่กำหนดไว้ เพื่อนๆก็ลุ้นตาโตโอ้วโหวเลยทีเดียว
เมื่อทิ้งไว้ระยะหนึ่งเด็กๆก็จะเห็นความแตกต่างของระดับน้ำ เราจึงให้เด็กๆลองคิดว่าดินแต่ละชนิดดูดซึมน้ำต่างกันอย่างไร? และแต่ละชนิดควรปลูกพืชแบบใด? จริงๆแล้วดินต่างมีคุณสมบัติเฉพาะตัว พืชแต่ละชนิดก็เติบโตได้ดีในดินที่ต่างกัน เช่นเดียวกันกับเด็ก
สุดท้ายแล้วการเลอะที่เปรอะไปด้วยประสบการณ์ สามารถเป็นสะพานให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!