icon
giftClose
profile

❤️‍🔥ทำยังไงดี เมื่อการรับมือกับพฤติกรรมนักเรียนไม่เคยง่าย

2970
ภาพประกอบไอเดีย ❤️‍🔥ทำยังไงดี เมื่อการรับมือกับพฤติกรรมนักเรียนไม่เคยง่าย

❤️‍🔥เมื่อการรับมือกับพฤติกรรมนักเรียนไม่เคยง่าย

จะทำยังไงดี ให้ความสัมพันธ์ในห้องเรียน

ที่สร้างกันมา ไม่หล่นหายไป


มาเรียนรู้วิธี “ปรับใจ” เพื่อร่วมสื่อสาร

และหาทางออกเชิงบวกร่วมกัน

กับนักเรียน ในช่วงเวลาอันท้าทายแบบนี้


โพสต์นี้มีเนื้อหาจาก “FamSkool Kitchen

แกะสูตรความสัมพันธ์ในห้องเรียน”

ตอน ชิมไปมิกซ์ไป ปรับใจให้ลงตัว'


😰คุณครูทุกคนน่าจะต้องเคยเผชิญหน้า

หรือรับมือกับปัญหาของนักเรียน

ไม่ว่าจะเป็นการโดดเรียน ไม่ส่งการบ้าน

หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะไม่ควร


ปัญหาเหล่านี้…

บางทีเราก็ไม่รู้เลยว่าเกิดจากอะไร


💨จริง ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ อาจเกิดจากระหว่าง

ผู้ปกครองกับนักเรียน หรือนักเรียนกับเพื่อนนักเรียนเอง

จึงเห็นได้ว่าปัญหาที่เราต้องรับมือ บางครั้งนั้น

ไม่ได้มีสาเหตุตรงตัวขนาดนั้น คิด ๆ ไปก็เหมือนกับ

ภูเขาน้ำแข็งที่เราไม่เข้าใจข้างล่างยังไงยังงั้น


ตัวอย่างจาก ”ครูหม่อน” ที่ร่วมเเบ่งปันในวงพูดคุย

คุณครูได้เจอเหตุการณ์ที่นักเรียนในห้องหนีเรียน

ซึ่งไม่ได้เกิดจากการขี้เกียจ หรือไม่อยากเรียน

พอได้พูดคุย ถามไถ่ให้ลึกลงไป จึงได้เข้าใจว่า

ปัญหานี้เกิดจากการที่นักเรียนทะเลาะกับเพื่อน

พอเข้ามาเรียนในห้องก็ไม่คุยกัน อึดอัด จึงหนีเรียน


🤔จะเห็นได้ว่า การจะเข้าใจปัญหาจนถึงต้นเหตุได้

บางครั้งต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

ยิ่งเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ครูกับนักเรียนก็อาจจะมีความตึง ๆ

เหมือนกับมีกำแพงอันหนาทึบกั้นซึ่งกันและกัน

ความสัมพันธ์ก่อนหน้าที่เปิดใจหรือเชื่อมใจไว้

เลยไม่เป็นไปได้ดีเหมือนเดิม


🧱“การปรับใจ” คือการพยายามทำให้กำเเพงสลายลง

เห็นทางออกที่เชิงบวกร่วมกัน และเกิดความเข้าใจกันขึ้น


โดยการจะเกิดสิ่งนี้ได้ต้องใช้ทั้งวิธีการสื่อสาร

และ mindset ที่ทำให้เรารับมือกับปัญหาเปลี่ยนไป


⛱️”การปรับใจ” คือแนวคิดที่ “ครูเพ็ญ” และ “ครูหม่อน”

จาก รร.ปล้องวิทยาคม นำมาใช้จัดงานใหญ่ที่มีชื่อว่า

“กาดกองฮัก” แปลเป็นภาษากลางคือ “ตลาดคอยรัก”

เปลี่ยนการประชุมผู้ปกครองทั่วไป เป็นการพูดคุย

เเละสร้างโมเมนต์ให้ปรับใจกัน



💞โดยแก่นของกิจกรรมนี้ คือการที่ผู้ปกครองได้มาพบกับครู

ครูเองก็ได้สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง และ

นักเรียนตามสภาพจริง ก่อนที่จะเน้นการปรับใจ

ร่วมมือกันคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นของนักเรียนต่อไป


ต้องเล่าบริบทก่อนว่า ที่โรงเรียนจะยังมีความเป็นชุมชนอยู่มาก

ครู เด็ก ผู้ปกครอง รู้จักกันหมดเลย ก่อนจะจัด “กาดกองฮัก” นี้ขึ้น

คุณครูก็ได้ไปเยี่ยมบ้าน สังเกตพฤติกรรมตอนอยู่บ้าน

ของนักเรียน เเละพูดคุยกับผู้ปกครองล่วงหน้า

ทำให้ผู้ปกครองเปิดใจ ยอมรับสิ่งที่จะเเนะนำได้มากขึ้น


🚥เมื่อได้เตรียมความพร้อมให้ผู้ปกครองเเล้ว

ตอนเข้างาน “กาดกองฮัก” ครูจะให้ผู้ปกครอง

แปะสติ๊กเกอร์เพื่อสะท้อนถึงพฤติกรรมของลูกตัวเอง

มี 3 สีด้วยกัน คือ เขียว - พฤติกรรมไม่น่าเป็นห่วง

เหลือง - มีกังวล ขับข้องใจบ้าง

แดง - พฤติกรรมรุนเเรง

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ผู้ปกครองยอมรับในพฤติกรรมลูก

ตามความเป็นจริง ยอมติดเองด้วยมือของเขา

โดยครูก็จะบอกผู้ปกครองที่มีสติกเกอร์สีเเดง

ให้อยู่ต่อหลังจบงานอีกนิด พร้อมจัดช่วงสั้น ๆ

ที่ผู้ปกครองจะได้มาคุย และ reflect กับครู เเบบ 1-1 กัน


💡อีกแนวคิดหนึ่งที่คุณครูได้ต่อยอดมาใช้ คือเเนวคิด

“ด้านมืด ด้านสว่าง” ซึ่ง FamSkool นำมาบอกเล่าตอนอบรม

ซึ่งปรับประยุกต์จาก ป้ามล-ทิชา ณ นคร แห่งบ้านกาญจนาฯ อีกทีนึง

เเนวคิดนี้มองว่า เมื่อเด็กมีปัญหา ก็เหมือนกับการเเสดงด้านมืดออกมา

ในฐานะผู้ใหญ่ เราควรหาด้านสว่างของเด็ก พร้อมกับฉายด้านสว่างของเรา

เพิ่มเติมด้วยการให้เวลา เเละวิชาชีวิต ก็จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนกับตัวเด็ก ๆ

หรือ ทำให้เด็กคนนั้นพยายามเอาชีวิตออกจากสิ่งลบได้สำเร็จ


คุณครูได้เเชร์กับเราด้วยว่า…

“เราได้คำพูดดี ๆ จิตวิทยาดี ๆ ทั้งวิธีการปรับใจ

และด้านมืด-ด้านสว่าง จาก FamSkool มาใช้ก็ช่วยได้มากเเล้ว”


🎤 ใน “กาดกองฮัก” จึงมีการจัดเตรียมเวทีให้นักเรียน

เเสดงความสามารถ ไม่ว่าใครก็เเสดงความสามารถได้

ไม่เก่งเลิศเลอก็ไม่เป็นไร นอกจากนี้ยังมีพื้นที่รอบ ๆ

ให้ขายของ สมกับชื่อ ”กาด” จริง ๆ กิจกรรมเหล่านี้

ก็ช่วยให้ผู้ปกครองได้เห็นด้านสว่างของเด็ก ๆ

ได้รับรู้ว่าลูกเรามีดีอยู่จริง ๆ นะ


พอผ่านกิจกรรมเเละบรรยากาศทั้งหมดเเล้ว

ผู้ปกครองเเละนักเรียนก็รู้สึกพร้อม เเละกล้าจะปรับใจกันมากขึ้น

มีผู้ปกครองที่มองย้อนกลับไปด้วยว่าเราเลี้ยงดูลูกมายังไง

มีพฤติกรรมยังไง สุดท้ายจึงจบลงได้ด้วยการยอมรับ

เเละเต็มไปด้วยความเข้าใจ เลยทำให้ร่วมมือเเก้ปัญหาได้สำเร็จ !


คุณครูแอบแนะนำว่า รร. ที่อยู่ในชุมชนเมือง บริบทเเตกต่างกันก็จริง

เเต่สามารถทำกิจกรรมรูปแบบนี้ได้เช่นกัน

อาจเเบ่งเป็นห้อง เป็นระดับชั้น ทีละน้อย แต่อย่าลืม

แก่นหลักของกิจกรรม นั่นก็คือการที่ผู้ปกครองได้มาพบกับครู

และครูได้สังเกตความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครอง

และนักเรียนตามสภาพจริง


💖 “การปรับใจ” จะเกิดขึ้นได้ต้องมีวิธีสื่อสาร เเละ

ทัศนคติ จิตวิทยา ที่ดีก่อน พอได้ทดลองทำทั้งหมดนี้แล้ว

อาจจะต้องใจเย็นสักนิด เพราะการเปลี่ยนเเปลงพฤติกรรม

บางอย่างต้องอาศัยเวลาระยะนึง ต้องค่อย ๆ พัฒนาไป

.

แต่ยืนยันได้เลยว่าคำพูดเเละจิตวิทยาที่อยู่เบื้องหลัง

“การปรับใจ” นั้น ทำให้เกิด impact กับนักเรียนได้จริง ๆ

ทั้งครูและผู้ปกครอง สามารถช่วยตรงนี้ได้เเน่นอน


🌟อ่านถึงตรงนี้เเล้วละก็อยากเรียนรู้เครื่องมือ

หรือวิธีการสานความสัมพันธ์เชิงบวกให้จับต้องได้จริง

เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น พ่อเเม่ ผู้ปกครอง หรือว่าคุณครู

สามารถติดตามได้ที่ Facebook Page : Life Education Thailand เลยน้า

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(0)
เก็บไว้อ่าน
(1)