ถ้าเป็นเนื้อหาวรรณคดีในภาษาไทย เด็ก ๆ ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าไม่น่าสนใจเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องจะให้ข้อคิดแค่ไหนก็ปิดใจกันแล้ว

แต่ถ้าได้ยินว่าจะได้เล่นเกม ..รับรองว่าอดใจไม่ไหว เพราะครูก็ชอบบบ

ในระดับชั้นม. 5 วิชาภาษาไทย มีวรรณคดีเรื่อง "มัทนะพาธา" เป็นบทละครพูดคำฉันท์

(แต่งโดยใช้กาพย์สลับกับฉันท์) พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 ว่าด้วยเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์

ความเจ็บปวดเพราะความลุ่มหลงในความรัก

ซึ่งเนื้อหาโดยรวมก็ให้แง่คิดเข้ากับช่วงวัยรุ่นที่บางคนก็เริ่มหัดมีความรักพอดี

เหมือนอย่างคู่ชัยเสนกับมัทนา ตอนต้นหวานมากแต่ตอนจบเจ็บขมปี๋...

ดังนั้นเราเลยออกแบบบอร์ดเกม “มนตรา มายา ความรัก”

โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกิจกรรมในชุมนุมบอร์ดเกม

ดัดแปลงเรื่องราวมาให้อยู่ในรูปแบบเกมแนว dice and play

มีเป้าหมายเพื่อให้นักเรียนได้ร่วมกันแปลความ ตีความคำประพันธ์ผ่านเรื่องราว

ความรักของตัวละครในเรื่องมัทนะพาธาทั้ง 3 คู่ ประกอบด้วยสุเทษณ์และมัทนา

ชัยเสนและมัทนา ชัยเสนและจัณฑี โดยดึงเนื้อหาวรรณคดีเพิ่มเติมจากในตัวเล่ม

นอกเหนือจากในหนังสือเรียนที่กล่าวเน้นเพียงเรื่องราวของสุเทษณ์และมัทนาเพียงเท่านั้น

จะทำให้นักเรียนได้เห็นเรื่องราวความรักความสัมพันธ์ในหลากหลายแง่มุมมากขึ้น

แล้วนำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันได้

เพราะถ้าให้เรียนรู้แบบอ่านเฉย ๆ ก็จะดูไม่น่าสนใจแล้วไม่อินเท่าไหร่

ดังนั้นการนำเกมมาใช้จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนรู้

และอยากที่จะเรียนรู้ภายใต้บรรยากาศที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมท้าทาย

ทำให้นักเรียนไม่เบื่อหน่าย เกิดการเรียนรู้อย่างสนุกสนาน

พร้อมกับการเรียนรู้เนื้อหาที่สอดแทรกไว้ในเกม

ในตัวเกมนี้เราได้ออกแบบให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกเรื่องราวของตัวละคร 1 คู่

แล้วใช้ลูกเต๋าและกระดานเพื่อทอยสุ่มเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในความรักความสัมพันธ์

ทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดีซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้จะส่งผลต่อแต้มหัวใจ

หากเผชิญกับเรื่องราวที่ดีก็จะทำให้ได้แต้มหัวใจเพิ่มขึ้น

และหากเผชิญกับเรื่องราวที่ไม่ดีทำให้ผิดหวังเจ็บปวดก็จะเสียแต้มหัวใจไป

จนค่าความสัมพันธ์อาจจะติดลบ

*ยิ่งเป็นเรื่องที่ทำให้อีกฝ่ายเจ็บมากยิ่งเสียแต้มหัวใจมาก

กิจกรรมจากบอร์ดเกมนี้จะทำให้นักเรียนได้มีส่วนร่วม อินไปกับเรื่องราว ได้อ่านแปลความ ตีความคำประพันธ์

ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวรรณคดีตามเรื่องราวนั้นดีหรือร้ายอย่างไร

พร้อมทั้งลุ้นเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

โดยนักเรียนจะสลับกันรับบทเป็นกามเทพเพื่อพยายามรักษาประคับประคอง

ความสัมพันธ์ไว้ให้ได้มากที่สุดเพื่อแข่งขันกันกับกลุ่มอื่น

 ตัวเกมจะกระตุ้นให้นักเรียนได้ฉุกคิดเห็นมุมมองที่ว่าถึงแม้ว่าเรื่องราวในวรรณคดีจะเลวร้ายอย่างไร

แต่ถ้าหากปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างให้เกียรติ เคารพรับฟัง เชื่อใจซึ่งกันและกัน

ดำเนินความสัมพันธ์ไปอย่างเหมาะสมก็จะเพิ่มความสัมพันธ์ที่ดีได้มากขึ้น

แต่ยิ่งทำร้ายจิตใจหรือทำไม่ดีกับอีกฝ่ายเท่าไร

ท้ายที่สุดความสัมพันธ์นั้นก็ไปต่อไม่ได้และจบลงด้วยความผิดหวัง

นอกจากนี้หลังจบเกมนักเรียนจะได้สะท้อนคิดโดยเลือกเพลงที่เข้ากับตัวละคร

แล้วนำมาเขียนให้คำแนะนำเรื่องความสัมพันธ์ ตามมุมมองนักเรียน

พร้อมเชื่อมโยงไปถึงแนวทางแก้ไขประคับประคองความสัมพันธ์ว่าพฤติกรรม

ในความสัมพันธ์แบบใดไม่เหมาะสมผ่าน Padlet เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองร่วมกันในชั้นเรียน

เวลาที่ใช้ 20-30 นาทีโดยประมาณ

(อธิบายกติกาให้นักเรียนทำความเข้าใจล่วงหน้าก่อนคาบที่จัดกิจกรรม)