รักษาโรคการอ่านเขียนด้วยค่ายคลินิกหมอภาษา

หากพื้นฐานการอ่านเขียนไม่ดี จะริเริ่มความรู้ขั้นต่อไปได้อย่างไร

โรคร้ายของเด็กไทยที่เรียกว่า อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จะถูกแก้โดยง่ายด้วยค่ายหมอภาษา

สวัสดีค่ะคุณครูทุกท่านที่สนใจแก้ปัญหาโรคร้ายที่อยู่คู่กับเด็กไทยมาเป็นเวลานานอย่างการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ซึ่งส่งผลอย่างหนักในการสื่อสารหรือแม้แต่จะเพิ่มความรู้ให้ลูกศิษย์ของเราก็ยังทำไม่ได้เนื่องจากมีพื้นฐานไม่แน่นพอ วันนี้ครูสตางค์ขอนำเสนอ ค่ายอ่านคล่องเขียนคล่องเป็นทำนองหมอภาษา โครงการนี้อยู่ภายใต้แนวคิดของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่อาจจะคุ้นเคยคุ้นหูบ้างกับคลินิกหมอภาษา เมื่อประมาณ 6 - 7 ปีที่แล้ว

ค่ายอ่านคล่องเขียนคล่อง เป็นทำนองหมอภาษา จะเน้นการแก้ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้และส่งเสริมทักษะการสื่อสารขั้นพื้นฐานเพื่อให้นักเรียนสามารถไปต่อยอดได้ต่อไป โดยจะใช้ฐานกิจกรรมจำนวนทั้งสิ้น 5 ฐานกิจกรรม (เน้นการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมเกมและพี่สอนน้อง)

ฐานกิจกรรมที่ 1 คลินิกหมอภาษา

1. คลินิกหมอภาษาจะเป็นกิจกรรมที่ให้นักเรียนแกนนำ (นักเรียนที่ได้รับการฝึกฝนการอ่านการเขียนอย่างดี) ช่วยสอนการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องโดยจะเริ่มจากการคัดกรองโรคการอ่านออกเสียงที่มักพบเช่น โรค ร ล ลักปิดลักเปิด , โรค จ เจือจาง , โรค ซ ส ศ ษ อักเสบ , โรคคำควบกล้ำเป็นพิษ จากการที่นักเรียนที่เข้าค่ายอ่านให้ฟัง 1 รอบเพื่อวินิจฉัยโรค จากนั้นพี่แกนนำจะอธิบายวิธีการอ่านพร้อมสาธิตให้ดูเป็นตัวอย่างและให้อ่านใหม่จนกว่าจะสามารถอ่านได้อย่างถูกต้อง (กรณีนักเรียนไม่สามารถอ่านได้ถูกต้องในกิจกรรมจะได้รับใบนัดพบแพทย์เพื่อเข้ารักษาจากรุ่นพี่แกนนำต่อไปในเวลาหลังเลิกเรียน

ฐานกิจกรรมที่ 2 บิงโกเขียนตามคำบอก

บิงโกเขียนตามคำบอกเป็นกิจกรรมที่มุ่งเน้นให้นักเรียนรู้จักคำภาษาไทยที่มักเขียนผิดและใช้ได้อย่างถูกต้อง โดยพี่แกนนำจะบอกคำที่มักเขียนผิดจำนวน 12 คำให้นักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมเขียนลงในช่องใดก็ได้ เมื่อเขียนเสร็จพี่แกนนำจะเฉลยใส่กระดานดำหากถูกต้องจึงจะมีสิทธิ์กาบิงโกในช่องนั้น(จากการทำกิจกรรมแนะนำว่าให้พี่แกนนำใบ้เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ เช่น ใบ้ตัวสะกดที่มีเสียงคล้ายกัน หากไม่ใบ้กิจกรรมนี้จะใช้เวลานานมาก)

ฐานที่ 3 ผู้ประกาศข่าวจูเนียร์

ฐานผู้ประกาศข่าวจูเนียร์เป็นฐานที่ฝึกการอ่านออกเสียงให้ถูกต้อง การแบ่งวรรคตอนผ่านการทำกิจกรรมจำลองตนเองเป็นผู้ประกาศข่าวโดยพี่แกนนำจะเปิดวิดีทัศน์การประกาศข่าวของนักข่าวในรายการโทรทัศน์ให้ดูเป็นแบบอย่าง จากนั้นฝึกอ่านจากบทอ่านที่เตรียมไว้ให้ซึ่งพี่แกนนำจะคอยดูและให้คำแนะนำวิธีการอ่านที่ถูกต้อง (บทที่อ่านแนะนำเป็นข่าวพยากรณ์อากาศนะคะเพราะไม่มีคำยากจนเกินไป และเวลาเลื่อนสไลด์อาจจะต้องไม่เร็วจนเกินไปเนื่องจากพัฒนาเด็กจึงต้องใช้เวลา หากหาบทอ่านที่มีคำอ่านยากจะช่วยเรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี)

ฐานที่ 4 ไพ่ยิปซีดูดวงชะตาชีวิต

ไพ่ยิปซีดูดวงชะตาชีวิต เป็นฐานกิจกรรมที่มุ่งเน้นการอ่านจับใจความฝึกการอ่านการรับสารซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมากในปัจจุบันโดยจะมีนักเรียนแกนนำอยู่ 4 คนและไพ่ยิปซีอยู่ 4 กอง เมื่อนักเรียนเข้าอบรมมาถึงให้แบ่งกลุ่มตามจำนวนกองไพ่และหยิบไพ่ทำนาย 3 ใบ อ่านคำทำนายและส่งให้พี่แกนนำถามคำถามท้ายใบไพ่ยิปซีเพื่อฝึกการอ่านจับใจความจากสิ่งที่อ่าน

ฐานกิจกรรมที่ 5 แฝดคนละฝา

แฝดคนละฝาเป็นกิจกรรมที่มุ่นเน้นให้รู้จักพยัญชนะไทยที่มีเสียงเหมือนกันแต่ถึงแม้จะเหมือนกันหากใช้ผิดความหมายก็แตกต่าง โดยเริ่มจากแบ่งกลุ่มเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆกัน จากนั้นพี่แกนนำจะมีประโยคแผ่นป้ายมาให้ให้เติมคำที่ถูกต้องลงในกระดาน เกมนี้จะแข่งที่ความเร็วค่ะอาจจะเพิ่มเติมบทลงโทษเช่นเต้น หรือปะแป้งเพื่อความสนุกสนาน

จบไปแล้วค่ะกับ 5 ฐานกิจกรรมที่จะมาช่วยสร้างความรู้แก้ปัญหาโรคอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ผ่านพี่ค่ายอ่านคล่องเขียนคล่องเป็นทำนองหมอภาษา แต่ละฐานกิจกรรมจะใช้การเวียนฐานเรียนรู้และจดบันทึกความรู้ลงในสมุดกิจกรรม

สิ่งที่สังเกตได้ชัดคือเด็กๆเกิดเจตคติทางบวกกับการเรียนรู้ภาษาไทย เห็นความสำคัญของการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง นักเรียนแกนนำที่มีความรู้เป็นพื้นฐานก็ได้รับการพัฒนายิ่งขึ้นส่วนนักเรียนที่เข้าร่วมค่ายมีทั้งรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความรู้ภาษาที่ได้กลับไปเป็นจำนวนมาก

ค่ายนี้เป็นค่ายที่ได้รับการจัดเป็นครั้งแรกจึงได้ทั้งบทเรียนรู้และคำแนะนำที่อยากส่งต่อมากมายเลยค่ะ

1. กิจกรรมนี้เป็นค่ายที่ใช้เวลาจัดแบบวันเดียวจึงอาจต้องควบคุมเวลาเป็นอย่างดีเพื่อให้สามารถเวียนฐานที่เรียนรู้ได้อย่างครบถ้วน
2. กิจกรรมนี้สนุกขึ้นมากเนื่องจากได้นักเรียนแกนนำที่สร้างสีสันผ่านการเล่นกิจกรรมสันทนาการ วางแผนตามธรรมชาติของนักเรียนเลยค่ะ เด็กไม่มีใครอยากจะเรียนธรรมชาติของเขาคืออยากเล่น/ดังนั้นจึงควรมีช่วงเวลาพักเบรกให้เล่นกิจกรรมและละลายพฤติกรรมก่อนเข้าฐานค่ะ

3.ข้อแนะนำอีกหนึ่งอย่างคือก่อนจัดทำค่ายต้องมีนักเรียนแกนนำจำนวนหนึ่งที่ได้รับการฝึกฝนพอสมควรเพื่อเป็นฐานในการถ่ายทอดความรู้ ในส่วนนี้ครูอาจเป็นแกนนำเองได้หากเป็นวัยเล็กไม่ใช่มัธยม แต่ข้อดีของการมีนักเรียนแกนนำคือ เป็นการฝึกพัฒนาเด็กเก่ง เด็กกลางและเด็กอ่อนเรียนรู้แบบพัฒนาพวกเขาไปพร้อมกัน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจมาเยี่ยมชมไอเดียความคิดนี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับการศึกษาไทยแก้ปัญหาขจัดโรคร้ายการอ่านอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ให้หมดไปในที่สุด