GIFT ECONOMY มองเศรษฐศาสตร์ผ่านซองขนมจากการแลกของขวัญ [HAPPY NEW YEAR x CHRISTMAS DAY]
.
ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมกับอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 20 องศา โรงเรียนมีการจัดกิจกรรมวันคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไปพร้อม ๆ กัน มีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแข่งขันการ์ดคริสต์มาส การแข่งขันโปสเตอร์คริสต์มาส การตอบปัญหาวันคริสต์มาส การประกวด Cover Dance นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมกินเลี้ยง แต่ละห้องก็จะมีการเตรียมอาหารมาทานร่วมกัน เช่น หมูกระทะ ส้มตำไก่ย่าง ขนมจีน ฯลฯ รวมทั้งมีการแลกของขวัญในชั้นเรียนร่วมกับครูที่ปรึกษาหรือแลกทั้งโรงเรียน และส่วนใหญ่ของขวัญที่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมักจะนำมาคือ ตุ๊กตา ขนมต่าง ๆ ที่ห่ออยู่ในกล่องปริศนา
.
การเลือกของขวัญว่าเราจะให้อะไรใคร ราคาเท่าไหร่ ห่อยังไง ทุกอย่างดูมีนัยสำคัญไปหมด เพราะถึงมันจะเป็นของที่เราซื้อให้คนอื่น แต่ก็ดูเหมือนจะมีบางส่วนของผู้ให้ติดอยู่ในของขวัญนั้นด้วย ในช่วงเวลาแห่งความสุข แต่หลายคนอาจมองข้ามไปว่า เทศกาลแห่งการมอบของขวัญนี้ ยังข้องเกี่ยวกับ “ระบบเศรษฐกิจ”
.
Gift Economy หรือระบบเศรษฐกิจของขวัญ คือรูปแบบการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ที่แตกต่างจากระบบการแลกเปลี่ยนซื้อขายทั่วไป เพราะ Gift Economy มีเรื่องความสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ ระหว่างผู้ให้และผู้รับ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยจึงเกิดพันธสัญญา มีนัยบางอย่างที่จะทำให้เกิดการตอบแทนในภายหลัง พูดง่าย ๆ ว่า เวลาที่มีใครมาให้ของขวัญแก่เรา เราก็คงอยากจะไปซื้อสิ่งของให้กลับคืน เพื่อตอบแทนน้ำใจต่อกัน
.
และมูลค่าที่เกิดจากการแลกเปลี่ยนสิ่งของ หรือของขวัญกันไปมานี้ จึงเกิดเป็นตลาดในระบบเศรษฐกิจของขวัญ ที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น
.
นำเข้าสู่บทเรียน ครูเสนอสถานการณ์สมมติให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย ดังนี้
“ช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ครูได้เปิดเพลงเพลงหนึ่งที่น่าสนใจ ครูเลยนำเนื้อร้องบางตอนมาให้นักเรียนร่วมกันพิจารณา เพลง หนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือ (ผู้ชาย) บ้านของพี่ทำนาทำนา ปลูกข้าวทุกเมื่อ (ผู้หญิง) น้องก็ทำนาเกลือ ขายเกลือนั้นซื้อข้าวกิน (ผู้ชาย) บ้านของพี่อยู่ที่กาฬสินธุ์ (ผู้หญิง) ส่วนตัวยุพินอยู่สมุทรสาคร”
นักเรียนตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังนี้
จากนั้นครูเชื่อมโยงเข้าสู่เนื้อหาที่จะเรียนว่าสิ่งที่นักเรียนตอบมาล้วนเกี่ยวข้องกับปัจจัยในการผลิตสินค้าและบริการไม่ว่าจะเป็นคนงาน หรือเครื่องจักรต่าง ๆ ซึ่งกิจกรรมในวันนี้จะเป็นการนำซองขนมที่นักเรียนทานไปแล้วมาจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในเรื่อง ปัจจัยในการผลิตสินค้าและบริการ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และแน่นอนว่ากว่าจะมาเป็นขนม (Product) จะต้องมีการนำเอาปัจจัยการผลิตหลาย ๆ ชนิดมารวมกันโดยผ่านกระบวนการผลิต (Production Process) ซึ่งปัจจัยการผลิต (Inputs or Factors) หมายถึง ทรัพยากร (Resources) ต่าง ๆ อันเป็นส่วนประกอบในการผลิตทางเศรษฐศาสตร์ ได้แก่ ที่ดิน แรงงาน ทุน การประกอบการ
1. ให้นักเรียนเลือกซองขนมมา 1 ซอง หากซองขนมมีขนาดใหญ่ให้ตัดมาเฉพาะฉลากสินค้าก็ได้
2. นักเรียนนำซองขนมมาติดลงในกระดาษ A4 (ครูอาจเตรียมกาวและกรรไกรมาให้นักเรียนด้วย)
3. นักเรียนเขียนข้อมูลปัจจัยในการผลิตสินค้าและบริการ 4 องค์ประกอบลงในกระดาษ ดังนี้
4. สุ่มนักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน และอภิปรายร่วมกันว่า ในการที่ผู้ผลิตจะผลิตสินค้าหรือบริการประเภทใด ปัจจัยที่มีผลต่อการผลิตและการบริการ ได้แก่ ความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งผู้ผลิตจะต้องตอบปัญหาเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคให้ได้ว่า
ซึ่งผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการเป็นผู้ที่นำเอาปัจจัยการผลิตทั้ง 3 สิ่ง (ที่ดิน ทุน แรงงาน) มาทำการผลิตสินค้า และบริการ ในการทำงานทั้งการผลิตและการให้บริการ ผู้ผลิตจะประสบผลสำเร็จในการทำงานได้ ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น คุณภาพของสินค้าและบริการ ราคาที่เหมาะสม คุณธรรม ความต้องการและความพึงพอใจของผู้บริโภค เทคโนโลยีการผลิต ต้นทุนการผลิต ฯลฯ ในปัจจุบันเราจะเห็นสินค้าและบริการมีรูปแบบต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากผู้ประกอบการส่วนใหญ่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตสินค้าและบริการ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีปริมาณสูง มีคุณภาพดี มีรูปแบบต่าง ๆ ลดแรงงานคน เพิ่มผลผลิตได้เร็วขึ้นส่งผลให้ต้นทุนการผลิตลดลง มีกำไรมากขึ้น