เคยเจอเรื่องฝังใจแต่ไม่สามารถดึงตัวเองออกจากฝันร้ายได้มั้ยคะ?
สวัสดีค่ะคุณครูที่สนใจไอเดียนี้ทุกท่าน หลายๆครั้งการเป็นครูนอกจากจะสอนให้นักเรียนมีความรู้แล้วเรายังต้องสอนให้นักเรียนเป็นคนดี เป็นที่พึ่งทางใจและที่ปรึกษาเวลาเขาไม่สบายใจ...แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเขาคลายปมในใจตนเองด้วยตัวเขาและส่งมอบความรู้สึกที่ดีไปถึงผู้อื่น
ขอต้อนรับทุกท่านสู่วิชา ภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ตามโจทย์ชื่อวิชาเลยค่ะ คำว่าสร้างสรรค์หมายถึงอะไรนะ? คงเป็นการใช้ภาษาที่ทำให้เกิดสิ่งที่ดี ภาษาที่สร้างสรรค์ขึ้นจากการเรียบเรียงถูกถ่ายทอดเป็นความรู้สึกที่ดีต่อไป และด้วยเป็นพี่ปีสุดท้ายที่กำลังจะเรียนจบคงไม่มีอะไรดีไปกว่าการปลดล็อคความรู้สึกในใจของพวกเขา ให้เขาพร้อมเติบโตไปอีกหนึ่งขั้นของการเดินทางในชีวิต โปรเจคสุดท้ายกับ...ไลฟ์โค้ชชีวิต
ไลฟ์โค้ชชีวิต เป็นการนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการเขียนอนุทินออนไลน์(การเขียนเล่าเรื่องในลักษณะไดอารี่ผ่านช่องทางออนไลน์) ผสานการอ่านตีความ การอ่านจับใจความ การใช้ภาษาบรรยายพรรณนา การโน้มน้าวใจ การใช้เทคโนโลยีและความรู้ทางด้านจิตวิทยาถ่ายทอดออกมาเป็นงานเขียนไลฟ์โค้ชชีวิตที่นักเรียนจะเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยจะเริ่มจากขั้นตอนดังนี้
- ให้นักเรียนเขียนข้อคิดในชีวิตที่ได้เรียนรู้ในอายุของพวกเขา/ปัญหาในชีวิตที่พบเจอ
- อธิบายแต่ละขั้นตอนของการเขียนเล่าเรื่องลักษณะอนุทินออนไลน์และองค์ประกอบ 5 ส่วน (1.ส่วนนำ 2.ขยายความปัญหา 3.การเขียนเล่าประสบการณ์ของตน 4.การแก้ปัญหา/ข้อคิด 5.ส่วนสรุป) (แนะนำให้นักเรียนลองศึกษางานเขียนเพจบันทึกของตุ๊ดหรือวรรณกรรมที่เน้นการแสดงความรู้สึกในอินสตาแกรม,พยายามให้นักเรียนเรียนรู้กลวิธีการเขียน การดึงดูดความสนใจด้วยภาษาตามหลักจิตวิทยา)
- ครูให้นักเรียนเขียนแต่ละส่วนและนำมาให้ครูแนะนำแต่ละคาบ คาบละ 1 ส่วน (จุดนี้และค่ะที่เราจะแทรกคำสอนไปได้เพราะสิ่งที่เขาเขียนมันคือปัญหาในใจและถ้าเป็นปัญหาแสดงว่าเขาก็ยังดึงตัวเองออกจากปมในใจไม่ได้ ต้องอาศัยคำสอนของครู แนะนำให้มีการใช้บทเพลงเพื่อเข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกในงานเขียน)
- เมื่องานเขียนครบทั้ง 5 ส่วนให้สอนการใช้โปรแกรม canva เพื่อสร้างโพสต์สตอรี่ (ในส่วนนี้จะต้องใช้ทักษะเทคโนโลยีและสามารถให้ความรู้การใช้รูปภาพเพื่อสื่อความรู้สึกถึงผู้อ่าน และในทางกลับกันก็ต้องเลือกภาพที่เหมาะกับเนื้อหาของงานเขียนจึงต้องใช้ทักษะตีความไปในตัว)
- ผลงานที่เผยแพร่จะต้องมีบทเพลงประกอบขณะโพสต์นักเรียนจะต้องเลือกเพลงที่เหมาะสมกับเนื้อความที่เขียน(ต้องอาศัยทักษะการตีความและจับใจความสาระสำคัญในเนื้อเพลงและข้อความ จากนั้นจึงเผยแพร่ผลงานที่สมบูรณ์ได้)
ผลลัพธ์ที่ชัดเจน...คือพันธนาการที่หายไป
สิ่งที่ชัดเจนที่สุดจากการสร้างชิ้นงานนี้คือนักเรียนบูรณาการทักษะความรู้ทั้งหมดที่เคยได้เรียนมาของภาษาไทย นักเรียนสามารถเขียนชิ้นงานออกมาได้ สามารถสื่อสารได้ตรงตามวัตถุประสงค์ รวมถึงได้ความรู้กลวิธีการใช้ภาษาอย่างมากเป็นหลักฐานประจักษ์ที่ผลงานซึ่งสามารถนำไปต่อยอดการสื่อสารในการเรียนขั้นต่อไป แต่ที่สำคัญสำหรับใจของคนเป็นครู คงหนีไม่พ้นการได้คลายความเศร้าที่อยู่ในใจเขา การได้เป็นยารักษาฝันร้ายของลูกที่เขาเก็บไว้ผ่านคำแนะนำการใช้ชีวิตของเรา...คนเป็นครูคงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการเห็นลูกศิษย์เติบโตอย่างมีความสุข จริงมั้ยคะ?
สิ่งที่อยากแนะนำเพื่อนครูก่อนนำไปใช้...
- คุณครูควรให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดเมื่อนักเรียนเขียนแต่ละส่วน ส่วนตัวของครูสตางค์จะให้นักเรียนมาปรึกษาทีละคนพร้อมงานเขียนที่ร่างแต่ละส่วนเพื่อให้คำแนะนำ เพราะทุกส่วนล้วนเชื่อมโยงให้งานเขียนมีเอกภาพอีกทั้งเราจะได้ให้คำแนะนำข้อคิดได้อย่างใกล้ชิด เด็กก็คือเด็ก บางครั้งประสบการณ์ที่มีอาจทำให้เขาตัดสินใจหรือมองโลกในด้านเดียวได้
- แนะนำงานเขียนตัวอย่างมีเยอะมากทางอินสตาแกรม เช่น moodofthedaee siravanich_ amloserrr write_sky9 pearngpafun
- เนื่องจากงานนี้จะเข้าพื้นที่ส่วนตัวของนักเรียนและของตัวคุณครูเองแนะนำให้สร้างบรรยากาศที่นักเรียนกล้าเข้าหาครูผู้สอน กล้าเปิดใจระบายความรู้สึกมากขึ้น ห้ามตัดสินเขาหรือตำหนิก่อนฟังเรื่องจบและระวังการเข้าพื้นที่ส่วนตัวของกันและกันมากเกินไปนะคะ
- งานนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจ การจะให้เขาเขียนงานเขียนออกมาได้ต้องให้เขาเข้าถึงความรู้สึกและเหตุการณ์ที่ตนเองเขียนในขณะเดียวกันครูก็ต้องเข้าถึงเรื่องราวและความรู้สึก ดังนั้นอย่าลืมเคลียร์ใจของตัวเองและปล่อยวางนะคะ เป็นห่วง:)
บางครั้งเรื่องเลวร้ายในใจคนก็ไม่ต่างจากฝันร้ายที่ทำให้เราไม่สามารถตื่นได้
บางครั้งการตื่นก็อาจทำด้วยตัวเองไม่ได้ ต้องอาศัยคนปลุกให้เจอกับวันใหม่...คนที่เรียกว่าคุณครู