icon
giftClose
profile
frame

สอนภาษาอังกฤษด้วย INGS Model สำหรับครูประถมแบบสุดปัง

8852
ภาพประกอบไอเดีย สอนภาษาอังกฤษด้วย INGS Model สำหรับครูประถมแบบสุดปัง

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยรูปแบบ INGS Model เป็นการนำแนวคิด 2W3P มาพัฒนาต่อยอดให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น พร้อมยังเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยเสริมสร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนอีกด้วย โดยครูผู้สอนมีบทบาทในการสร้างแรงบันดาลใจให้นักเรียนเกิดความสนใจในเนื้อหาการเรียนรู้ ออกแบบกิจกรรมที่มีความหลากหลาย (Active learning) เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์ รวมทั้งสังเกตการณ์เรียนรู้ของผู้เรียน และคอยกระตุ้นโดยใช้คำถาม รับฟังความคิดเห็นและสนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียนในทุกด้าน ซึ่งกระบวนการสอนด้วยรูปแบบ INGS model มีกระบวนการ 4 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นที่ 1 ขั้นสร้างแรงบันดาลใจ ( I : Inspiration) เป็นขั้นตอนที่ครูสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักเรียน ผ่านการพูดคุย ถามคำถามที่กระตุ้นให้นักเรียนได้คิด โดยครูผู้สอนอาจยกสถานการณ์เกี่ยวกับบทเรียนโดยใช้ภาพ หรือวิดีโอ เพื่อให้นักเรียนรู้สึกสนใจและเชื่อมโยงกับความรู้เดิมหรือประสบการณ์เดิมของนักเรียน ทั้งยังชี้ให้นักเรียนเห็นถึงความสำคัญของการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อนำต่อยอดในอนาคตในด้านต่างๆ


ตัวอย่างกิจกรรม

 

ขั้นที่ 2 ขั้นสร้างความรู้ ( N : kNowledge) เป็นขั้นตอนที่ครูกระตุ้นให้ผู้เรียนได้ศึกษาค้นคว้าและทำความเข้าใจเนื้อหาด้วยตนเอง ผ่านการถามคำถามจากครู หรือครูเป็นผู้ชี้นำแนวทางการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม active learning ผ่านการถามคำถามหรือกิจกรรมการคิดวิเคราะห์ที่ส่งเสริมให้นักเรียนสามารถสรุปเป็นองค์ความรู้ด้วยตนเอง โดยในขั้นนี้นักเรียนจะมีโอกาสในการทำกิจกรรมกลุ่มร่วมกับเพื่อนในชั้นเรียน

จากที่เคยสอนไวยากรณ์แบบเป็นโครงสร้างท่องจำ ลองให้นักเรียนฝึกสังเกตความแตกต่างของประโยคด้วยตัวเอง ผ่านการกระตุ้นโดยการถามคำถามของครู นักเรียนจะสามารถคิดและวิเคราะห์ จนเกิดเป็นความเข้าใจได้โดยไม่ต้องท่องจำเลยครับ


หรือจะลองเปลี่ยนบรรรยากาศให้นักเรียนเปลี่ยนบทบาทมาสอนกันเองแทน โดยมีครูคอยช่วยเพิ่มเติมเนื้อหาก็ถือเป็นการสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจให้แก่ห้องเรียนอีกเช่นกัน


ขั้นที่ 3 ขั้นตรวจสอบผลการเรียนรู้ โดยใช้เกม ( G: Games) เป็นขั้นตอนที่จะตรวจสอบความรู้ว่านักเรียนเข้าใจบทเรียนหรือไม่ ผ่านกิจกรรมเกมโดยสามารถใช้ทั้งเกมออนไลน์หรือออฟไลน์เพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนหรือในแต่ละเนื้อหาของบทเรียนนั้นๆ โดยกิจกรรมออนไลน์ที่มักใช้ในการจัดกิจกรรม ได้แก่ Quizizz, Kahoot, Quiz whizzer, Blooket, Gimkit หรือ Word wall เป็นต้น และกิจกรรมออฟไลน์ที่ใช้ในชั้นเรียนได้แก่ Bingo, Word search, Unscramble words, Rip and run เป็นต้น โดยแต่ละกิจกรรมจะเน้นให้ผู้เรียนทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมเดี่ยว คู่ หรือกลุ่ม เพื่อให้นักเรียนได้ทบทวนและฝึกการใช้ไวยากรณ์หรือคำศัพท์ รวมถึงประโยคสนทนาที่ได้เรียนมาในคาบเรียนนั้นๆ

ตัวอย่างกิจกรรมเกมออนไลน์ ที่ครูเตรียมง่ายๆแค่ปริ้น QR code นั่นคือกิจกรรมจากเว็บ Quizizz: Paper Mode

หรือจะเป็นเกม Paper Based ที่สามารถสร้างสีสันให้ห้องเรียนได้ดีเช่นเดียวกัน นั่นคือเกม Rip and Run โดยในกิจกรรมนี้เหมาะสำหรับเนื้อหาที่เป็นคำศัพท์ รูปภาพ และไวยากรณ์ 


หรือจะเป็นเกมสายพร็อพ เกม Bite me if you can ที่สามารถสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับนักเรียนได้เช่นกัน โดยมีเพียงแค่ของเล่นน้องหมา หรือน้องไดโนเสาร์ที่พร้อมจะงับๆมือนักเรียนของเรา กิจกรรมนี้พัฒนาต่อยอดมาจากกิจกรรม Mystery box โดยนักเรียนแต่ละกลุ่มจะต้องตอบคำถาม เพื่อลุ้นรับคะแนน ซึ่งคะแนนนั้นจะมีทั้งเป็นบวกและเป็นลบ ไม่เพียงเท่านั้นนักเรียนยังจะต้องคอยลุ้นอีกว่าจะเปิดเจอคำสั่งกดฟันน้องหมาหรือไม่ โดยในกิจกรรมนี้นักเรียนแต่ละกลุ่มสามารถเลือกได้ว่าจะเก็บคะแนนไว้เอง หรือจะมอบคะแนนในข้อนั้นให้กลุ่มอื่น (เลือกก่อนเปิดคะแนน) หากนักเรียนได้คำสั่งกดฟันน้องหมา แล้วฟันน้องหมางงับมือพอดี คะแนนที่สะสมมาทั้งหมดจะกลายเป็น 0 ทันที

ขั้นที่ 4 ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ( S: Share) ในขั้นตอนนี้ครูจะให้นักเรียนแลกเปลี่ยนความรู้กับเพื่อนๆในชั้นเรียนและคุณครู โดยครูใช้แอพพลิเคชั่น Mentimeter หรือ Padlet โดยนักเรียนสามารถกดถูกใจและแสดงความคิดเห็นให้กับเพื่อนได้อย่างอิสระ ทั้งนี้ครูผู้สอนยังสามารถนำผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อติดตามนักเรียนที่ยังไม่เข้าใจบทเรียนได้ และครูผู้สอนยังสามารถให้นักเรียนออกมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้หรือความคิดเห็นผ่านกิจกรรม Free activity ได้ เพื่อให้เกิดอิสระทางความคิด

แท็กที่เกี่ยวข้อง

รีวิว
(0)
ดาวน์โหลด
(0)
เก็บไว้อ่าน
(2)