สวัสดีค่ะ ทุกท่าน <3 หลังจากที่ห่างหายไปนาน ดิฉันมีไอเดียมานำเสนอเกี่ยวกับการสอนวรรณคดีไทย
โดยขณะนี้ ดิฉันได้รับมอบหมายให้สอนในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน 6
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในรายวิชานี้ มีวรรณคดีเรื่องหนึ่งที่ค่อนข้างยาก
คือ "สามัคคีเภทคำฉันท์" ซึ่งมีลักษณะวรรณคดีเป็นคำประพันธ์ที่ยากต่อการอ่านและทำความเข้าใจ
จึงได้คิด และพัฒนาเทคนิคการสอน โดยบูรณาการเทคนิค STAD ที่มุ่งเน้นการเรียนแบบร่วมมือ
ให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการกลุ่มในการร่วมกันศึกษาและสร้างองค์ความรู้และนำมาสรุปเป็นผังความคิดเพื่อ
นำเสนอและง่ายต่อการทำความเข้าใจ ดิฉันได้ทำการทดลองและวิจัยกับนักเรียนเรียบร้อย
จึงขออนุญาตเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ ที่สนใจในการนำไปปรับใช้และเป็นแนวทางพัฒนาการจัดการเรียนรู้ต่อไป
ชื่อผลงาน : .... การใช้เทคนิคการสอน STAD บูรณาการผังความคิดในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทาง
การเรียนวรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 .......
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ STAD บูรณาการกับผังความคิดในการจัดการเรียนรู้วรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์
1) ผู้สอนแนะนำวิธีการเรียนรู้ แจ้งให้ศึกษาข้อมูลในหนังสือวรรณคดีและวรรณกรรม
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หน้าที่ 128 เพื่อศึกษาความรู้ทั่วไป ที่มา ประวัติผู้แต่ง และเนื้อเรื่องย่อ
2) แต่ละทีม แบ่งหน้าที่กันศึกษา เพื่อสรุปทำผังความคิด
3) สมาชิกแต่ละกลุ่มศึกษาเนื้อหาสาระและสรุปองค์ความรู้
4) สมาชิกในกลุ่มร่วมกันออกแบบ สร้างผังความคิดเพื่อสรุปเนื้อหาที่เรียนรู้เรื่อง
สามัคคีเภทคำฉันท์ โดยใช้ CANVA
*****กรณีคาบเรียนถอดคำประพันธ์ เลือกใช้วิธีการให้นักเรียนถอดคำประพันธ์ร่วมกัน และสรุปโดยครูตั้งคำถามจากเรื่องตอนที่ถอดคำประพันธ์เพื่อให้นักเรียนตอบคำถาม
และสรุปคำตอบ นำมาจัดทำเป็นผังความคิดเป็นการ สรุปองค์ความรู้และเจาะประเด็นสำคัญเพื่อใช้ในการทบทวนเตรียมทำแบบทดสอบหลังเรียน พัฒนาผลสัมฤทธิ์
ผลการดำเนินงาน
จากแผนภูมิข้างต้น จะเห็นได้ว่า นักเรียนมีผลการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนด้วยเทคนิค การสอน STAD บูรณาการผังความคิด มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 ทั้งนี้สามารถนำผลการจัดการเรียนรู้มาขยายหรือต่อยอดสู่การเรียนเรื่องอื่น ๆ ได้
จากตารางข้างต้น จะเห็นได้ว่า คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.91 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.59 ส่วนคะแนนแบบทดสอบหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยเทคนิค STAD บูรณาการกับผังความคิดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.35 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 1.11 เมื่อตรวจสอบพบว่า คะแนนแบบทดสอบหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จึงสรุปได้ว่า เทคนิคการสอน STAD บูรณาการกับผังความคิดสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีเรื่องสามัคคีเภทคำฉันท์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้
ตัวอย่างผลงานนักเรียน
แท็กที่เกี่ยวข้อง