inskru

พูดยังไงให้เด็กสนใจฟัง ฟังยังไงให้เด็กกล้าพูด

1
0
ภาพประกอบไอเดีย พูดยังไงให้เด็กสนใจฟัง ฟังยังไงให้เด็กกล้าพูด

🙅หลายครั้งที่เราเห็นนักเรียนอึดอัด ไม่กล้าเข้ามา

พูดคุยกับเรา หรือเมื่อเราไปพูดคุยกับนักเรียน

เขาก็ถามคำตอบคำ แถมยังเลี่ยงไม่อยากคุยด้วย

เจอสถานการณ์แบบนี้เข้าไป ก็อดนอยด์ไม่ได้เลย

ต้องทำยังไงให้นักเรียนสบายใจที่จะพูดคุย

โต้ตอบกับเรา หรือกล้ามาปรึกษา

เวลาเจออะไรเข้ามาในชีวิตบ้างนะ


insKru ขอแนะนำวิธีสื่อสารอย่างสร้างสรรค์

พูดและฟังซึ่งกันและกัน โดยเริ่มต้นง่าย ๆ

จากตัวของคุณครูอย่างเราเอง


วันนี้เราจะลองมาสังเกตมุมมองของนักเรียน

ที่อาจเกิดขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้อยากเลี่ยง

การพูดคุยกับเราไป พร้อมหาวิธีการสื่อสาร

อย่างสร้างสรรค์ไปด้วยกันได้เลย


🤔“ไม่ชอบคุยกับครูเลย เหนื่อย ครูชอบคิดเอง

เรียบร้อย เราต้องมาอธิบายอีกว่าไม่ใช่อย่างงั้น”

ถ้าคิดว่านักเรียนที่เราเจอ มีมุมมองแบบนี้กับเราอยู่

เราอาจลองพูดคุยกับนักเรียนใหม่ โดยเน้นที่

ความรู้สึกของนักเรียนก่อน พร้อมยอมรับ เปิดกว้าง

ความรู้สึกที่หลากหลาย แม้จะไม่ตรงใจเรานักก็ตาม

การทำอย่างนี้จะช่วยให้นักเรียนเห็นว่าบรรยากาศ

ในการพูดคุยนั้นดีขึ้น รวมถึงเห็นว่าเราไม่มีอคติ

ไม่รีบตัดสินนักเรียนไปก่อน ซึ่งเราสามารถ

เพิ่มเติมการฟังแบบ Active Listening สบตา

แสดงออกว่าสนใจฟังอย่างเต็มที่ได้อีกด้วย


🫵“คุยกับครูแล้วแทนที่จะเป็นการปรึกษากัน

แต่เหมือนสั่งให้ทำแบบนู้นแบบนี้ อึดอัดจัง”

ถ้าคิดว่านักเรียนมีมุมมองแบบนี้กับเราอยู่

เราอาจลองพูดคุยกับนักเรียนใหม่ โดยเน้น

ในการให้นักเรียนลองแก้ปัญหาด้วยตัวของเขาเอง

ผ่านการถามว่า “แล้วจะทำอย่างไรต่อดี”

เพื่อให้ทางเลือกนักเรียนตัดสินใจชีวิตของเขา

ในกรณีที่บางเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ เราอาจร่วมให้

เขาเลือกจากตัวเลือกที่เรากำหนดไว้ก็ได้เหมือนกัน

การสื่อสารแบบนี้จะทำให้นักเรียนได้ฝึก

ความรับผิดชอบ และเกิดความมั่นใจในตนเอง

(Self-Esteem) ขึ้นมากับตัวเองในที่สุด


🤡“ไม่ชอบคุยกับครู หลาย ๆ ครั้งพอคุยแล้ว

ครูเอามาแซวเป็นเรื่องตลก ไม่สบายใจเลย”

ถ้าคิดว่านักเรียนมีมุมมองแบบนี้กับเราอยู่

เราอาจลองพูดคุยกับนักเรียนใหม่ สร้างบรรยากาศ

ให้นักเรียนได้เห็นว่าเราเคารพความคิดเห็นต่าง ๆ

ของทุกคน ผ่านการพูดคุยกับพวกเขา และเป็น

ตัวอย่างที่ดีในการสื่อสารกับเพื่อนครู ผู้ปกครอง

พี่ยาม พี่พนักงานทำความสะอาดในโรงเรียน

รวมถึงการพยายามจดจำจุดเด่น ความสนใจ

หรือสิ่งที่นักเรียนอยากให้ช่วยเหลืออยู่เรื่อย ๆ

ก็ช่วยให้เห็นถึงความใส่ใจ และเป็นห่วงเป็นใย

ที่เกิดจากการพูดคุยกัน ส่งผลให้บรรยากาศดีขึ้น

ความไม่สบายใจของนักเรียนก็อาจค่อย ๆ คลาย

ออกไป และกล้าพูดคุยกับเราเพิ่มขึ้นก็เป็นได้นะ


🌟จะเห็นได้ว่าทั้ง 3 มุมมองที่ยกขึ้นมา

อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักเรียนเลี่ยงในการคุย

กับเรา จนทำให้เราเกิดอาการนอยด์ก็เป็นได้

แน่นอนว่าบางห้องเรียนอาจเจอที่มีดีกรีความเข้มข้น

มาก น้อย ไม่เหมือนกัน หรืออาจเจอหลาย ๆ สาเหตุ

ผสมกันก็เป็นได้ หากคุณครูเริ่มเอะใจว่านักเรียน

คิดตามฉากทัศน์ที่เรายกขึ้นมาแล้วละก็ อย่ารอช้า

ลองปรับเปลี่ยนวิธีการสื่อสารกับนักเรียนดูน้า

เป็นกำลังใจให้ครูทุกคนเลย


เนื้อหาในโพสต์นี้ได้ดัดแปลงมาจากหนังสือ

"How to Talk So Kids Will Listen & Listen

So Kids Will Talk" โดย Adele Faber

และ Elaine Mazlish

ที่มีเนื้อหาว่า ถึงแนวทางการสื่อสาร

สร้างการสนทนาที่สบายใจทั้งสองฝ่าย

เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นผู้ปกครอง

คุณครู และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเด็ก ๆ


insKruinsThoughtfulพื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอน

ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

1
ได้แรงบันดาลใจ
0
ลงไอเดียอีกน้า~
avatar-frame
แบ่งปันโดย
insinsKru
insKru Official Account เราจะคอยผลักดันและเชิญชวนคุณครูมาร่วมสร้างสรรค์ไอเดียการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาการศึกษาไทยต่อไป

อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

please login

แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
credit idea

ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

ไอเดียน่าอ่านต่อ