ในขณะที่เด็กได้เล่นอิสระ กลับมีคำพูดๆหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยครั้งว่า "เนี่ยเธอรู้ไหมว่าเราล้างก้นเองได้แล้วนาาาา" ทำให้เราฐานะคนดูแลเด็กเกิดสนใจในถ้อยคำเหล่านี้ที่แสดงให้เห็นถึงความภูมิใจในความสามารถของตนเอง (self esteem) สู่การออกแบบกิจกรรม My self to self esteem
เริ่มต้นสัปดาห์เบาๆ ด้วยกิจกรรมร่างกายของฉัน ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้อวัยวะในร่างกายของตนเอง จากนั้นให้เด็กจับสลากอวัยวะคนละ 2 ชิ้นจากนั้นนำมาติดบนภาพวาดร่างกายที่เตรียมไว้
วันที่ 2 เริ่มด้วยนิทานเรื่อง "ปิงปิงไม่ยอม" จากนั้นเรียนรู้เรื่องพื้นที่ส่วนตัวของร่างกายที่ไม่อนุญาตให้ผู้อื่นจับต้องได้ตามพลการ และสิทธิที่จะปกป้องร่างกายของตนเองด้วยการปฏิเสธว่า "ไม่" *ขอบคุณภาพสื่อจาก inskru
*ฝากบทสัมภาษณ์ เกี่ยวกับการสอนเรื่องสิทธิในร่างกายของเด็กอนุบาลด้วยค่า https://theactive.net/read/respect-childrens-rights/
ต่อด้วย ศิลปะ สีแดงคือพื้นที่ส่วนตัว (ไม่ให้) ใครแตะต้อง สีเหลือง เขียว (ปลอดภัย) ด้วยความเป็นเด็กก็เกิดความกังขา "คุณครูแต่แม่จับได้ใช่ไหม" เราก็บอกไปว่า "ถ้ารู้สึกว่าไม่ชอบก็ให้บอกแม่ตรงๆ ไปเลย ว่า -หนูไม่ชอบ- " ซึ่งการให้เขาได้ปกป้องความรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เหนือสิ่งอื่นใดผู้ใหญ่ก็ควรที่จะเคารพเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่งด้วยเช่นกัน
เนื้อหาเจ้มจ้นมาก 555+ แต่เราอธิบายในมุมที่เด็กเข้าใจง่ายๆ โดยการยกตัวอย่างคลิปวิดีโอให้เด็กๆ ดูว่าถ้าเราเป็นคนในภาพจะรู้สึกอย่างไร หรือแม้กระทั่งผู้ปกครองมาส่งลูกตอนเช้าแล้วถ่ายวิดีโอติดเราไปด้วย จะทำอย่างไร? ซึ่งเด็กเจอในชีวิตจริง เราก็ต้องนำประเด็นมาคุยกันให้เข้าใจมากขึ้น
จากนั้นให้เด็กๆ ทำข้อตกลงในการบันทึกภาพถ่ายว่าอนุญาตให้ครูถ่ายภาพตอนไหนได้บ้าง ซึ่งจริงๆ เรามีฉบับที่ทำกับผู้ปกครองแล้ว 1 ฉบับ แต่อยากฟังในมุมมองของเด็กบ้าง (ลืมถ่ายภาพผลงานเด็กไว้ แต่เราพยามวาดให้ใกล้เคียงมากที่สุดแล้ว)
วันที่ 3 เดินทางเข้าสู่สภาวะทางจิตใจที่มีผลต่อการแสดงออกทางร่างกาย นั่นคือ "ความรู้สึกของตัวฉัน" แต่เรียนแฟลชการ์ดธรรมดามันไม่ตื่นเต้น เราก็เลยหันไปเห็นผ้า อื้มมมมม!!! เป็น pick a card เลยแล้วกัน เด็กบอกคุณครูเหมือนแม่หมอเลย 555
จากนั้นให้เด็กๆ เลือกการ์ดที่ดึงดูดใจแล้วแสดงอารมณ์ตามภาพที่ได้ เด็กแต่ละคนอินเนอร์มาเต็มมาก
เห็นภาพแบบชัดแจ๋ว
How do you feel ? I am happy 💕
ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยกิจกรรม “ดูแลร่างกายของตนเอง” เริ่มด้วยการฟังนิทานเรื่อง “คุณฟองนักแปรงฟัน” จากนั้นเด็กๆ มาทำความสะอาดฟันตามขั้นตอนของคุณฟอง พร้อมร้องเพลงคลอเบาๆ ว่า “ฟันบนต้องแปรงลงล่าง ฟันล่างต้องแปรงขึ้นบน”
ทะแด่มมมม !!! มาแล้วไฮไลท์ของสัปดาห์นี้ เริ่มด้วยให้เด็กๆ นั่งเก้าอี้ตามสัญลักษณ์ หญิง|ชาย🚻🚽 แทนการนั่งชักโครก
ห้องน้ำชาย ตอนนั้นเราทำเสียง ฉี่ๆๆๆๆๆๆๆ แบบสมมติว่ากำลังฉี่นะ มีเด็กคนหนึ่งพูดขึ้นมาว่า “โอ๊ะ คุณครูเริ่มจะปวดฉี่จริงๆ แล้ว ” พร้อมกับวิ่งปรู้ดดดดไปเข้าห้องน้ำก่อน ”อย่าลืมราดน้ำ ล้างมือให้สะอาดนาาา“
Poo! poo! เสร็จ หยิบสายฉีดชำระให้สะอาด โดยเราใช้ไม้หนีบให้เด็กบีบ เด็กจะได้ฟีลมากขึ้น
*ไอเดียนี้ไปเจอใน Pinterest เจ๋งดี
ล้างเสร็จต้องเช็ดให้แห้ง ก่อนเข้าห้องต้องอย่าลืมล้างมือให้สะอาดก่อน 🧴💦🤚
สัปดาห์ต่อมาเราได้ feedback จากเด็กว่า “คุณครูวันนี้หนู poo poo! ที่โรงเรียนด้วย และหนูล้างก้นเองด้วยนาคุณครู“ เราปรบมือให้พร้อมชมว่าเก่งจังเลย และ feedback จากผู้ปกครองว่า ” หลังจากที่คุณครูสอนล้างก้นที่โรงเรียนมา เขาขอล้างเองตั้งแต่วันนั้นเลย“
เห็นได้ชัดว่าการที่เราตระหนักและเห็นคุณค่าของพัฒนาการส่งผลต่อ self esteem ของเด็กจริงๆ
จากที่ภาคภูมิใจในตัวเอง 1 คนในวันนั้น สู่ 2 3 คนในวันนี้และเชื่อว่าจะเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคตแน่นอน เราในฐานะคนที่เฝ้าดูพัฒนาการก็รู้สึกภูมิใจในตัวเขามากด้วย
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เขาได้ในวันนี้จะเป็นเกราะป้องกันตัวเองในสังคมนี้ได้อย่างดี และที่สำคัญผู้ใหญ่ควรเคารพสิทธิตัวเขาในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง อย่างน้อยที่สุด ประโยชน์ที่เด็กควรได้รับจากสื่อคือความภาคภูมิใจ ไม่ใช่ความน่าอับอาย…
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!