วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice ) ผลงานนวัตกรรมของครูผู้สอน
ชื่อผลงาน การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก(Active Learning) โดยใช้เทคนิคการคิดหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน เพื่อส่งเสริมการคิด แก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย
ชื่อผู้นำเสนอผลงาน นางสาวรักษ์สุดา ภาวะบุตร
คามสำคัญของผลงาน นวัตกรรมหรือแนวปฏิบัติที่นำเสนอ
การคิดที่สามารถพัฒนาและส่งเสริมได้ในเด็กเล็กคือ การรู้จักการแก้ปัญหา ซึ่งจะต้องเริ่มกันตั้งแต่แรก การคิดของเด็กเล็กต้องอาศัยการรับรู้เป็นส่วนใหญ่ และการเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก ผู้ปกครองและครูจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการที่จะทำให้เด็กเรียนรู้ในการแก้ปัญหา สิ่งแรกต้องเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ความสำคัญของพัฒนาการเด็ก ตลอดจนการดำเนินชีวิตประจำวันของเด็ก หากได้เข้าใจในความเป็นมาของการคิดของเด็กแล้ว ก็สามารถที่จะส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาได้ตั้งแต่แรก เด็กก็จะมีทักษะในการแก้ปัญหาจนกระทั่งโตเป็นผู้ใหญ่ เด็กพบกับปัญหาก็สามารถที่จะเผชิญต่อปัญหาต่างๆ อย่างไม่กลัว กล้าที่จะเผชิญกับสิ่งที่เป็นปัญหา และดำเนินการไปสู่การแก้ปัญหาได้ในที่สุด
ผู้วิจัย เห็นว่ามีวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้เด็กปฐมวัยเกิดความคิดที่มีประสิทธิภาพในการสร้างสรรค์และคิดรอบด้านมากยิ่งขึ้นคือ การสอนตามแนวคิดหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้พัฒนาการคิดของบุคคลทั่วไปให้สามารถคิดอย่างรอบด้าน ครอบคลุมประเด็นที่ควรนำมาคิดพิจารณา อันจะช่วยให้ได้ความคิดที่รอบคอบขึ้นโดยใช้หมวกเป็นตัวแทนของการคิดหรือการแสดงความคิดและสีของหมวกแสดงแง่มุมของความคิด เทคนิคนี้ช่วยให้บุคคลได้ฝึกการคิดในหลายแง่มุมซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะการอภิปรายกลุ่ม หรือการคิดร่วมกันเป็นกลุ่มจะช่วยให้กลุ่มได้แง่มุมในการคิดที่หลากหลายขึ้น และช่วยให้ผลของการคิดที่ได้มีความรอบคอบขึ้น (ทิศนา แขมมณี, 2551 : 47) ดังนั้นการจัดการเรียนรู้ที่ให้เด็กปฐมวัยได้คิดได้อธิบายความเข้าใจในสิ่งที่ได้เรียนรู้โดยการเรียบเรียงเป็นถ้อยคำของตนเองได้นำความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติและแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆได้ (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. 2552 : 20)
การคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบทางสติปัญญาอันเป็นกระบวนการทำงานของสมองที่ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์เป็นพื้นฐานสำคัญ การเปิดโอกาสให้เด็กได้แสดงออกและใช้ความคิดอย่างเสรีร่วมกับกลุ่มเพื่อนและครู เป็นวิธีการที่สำคัญที่ตอบสนองต่อความต้องการและธรรมชาติของเด็ก โดยเฉพาะการมีปฏิสัมพันธ์และการใช้ภาษาในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความคิดกับกลุ่มเพื่อนดังนั้นการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัยนั้น ครูควรให้ความสำคัญและคำนึงถึงธรรมชาติของเด็กทั้งในด้านพัฒนาการเรียนรู้และความแตกต่างระหว่างบุคคลโดยจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้เด็กพัฒนาทักษะพื้นฐานทุกด้านโดยผ่านรูปแบบกิจกรรมที่เด็กได้ลงมือกระทำและปฏิบัติจริงด้วยตนเองดังที่ ดิวอี้ (Dewey) เพียเจท์ (Piaget) และบรูเนอร์ (Bruner) เห็นสอดคล้องกันว่า กระบวนการพัฒนาทางสติปัญญานั้น ควรให้เด็กได้เรียนรู้โดยการกระทำ และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมและค้นพบองค์ความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการเรียนรู้ดังกล่าว นำไปสู่การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญ ที่จะช่วยให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่านกิจกรรมที่เด็กได้ลงมือปฏิบัติจริงผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 เพื่อให้เด็กได้รับประสบการณ์ตรงที่มีความหมายเกิดการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ภายใต้สภาพแวดล้อมแห่งการเรียนรู้ในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กปฐมวัยได้เรียนรู้ด้วยตนเอง สร้างปฏิสัมพันธ์ในการเรียนรู้ร่วมกันอย่างกระตือรือร้น และสนุกสนานและมีความสุข ผ่านสื่ออุปกรณ์ที่หลากหลาย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ใหม่จนเกิดเป็นทักษะกระบวนการเรียนรู้
จากความสำคัญและสภาพปัญหาระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน พบว่า นักเรียนปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนอุบลวิทยาคม จำนวน 10 คน มีปัญหาด้านการคิดแก้ปัญหาผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้มีพัฒนาการด้านสติปัญญาสูงขึ้นตามมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 ข้อที่ 10 ว่า “มีความสามารถในการคิดที่เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้” ดังนั้น ครูปฐมวัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นให้เด็กได้ส่งเสริมด้านการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย จึงได้จัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคการคิดหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน เพื่อส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาของเด็กปฐมวัย ให้มีคุณภาพตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์และสอดคล้องกับหลักการจัดการศึกษาปฐมวัย และเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้ในระดับต่อไป
จุดประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน
2. เพื่อเปรียบเทียบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก 6 ใบ ของเดอโบโน ก่อนและหลังจัดกิจกรรม
ผลการดำเนินงานและประโยชน์ที่ได้รับ
ผลที่เกิดตามจุดประสงค์
1. การส่งเสริมจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก 6 ใบของเดอโบโน ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ปีการศึกษา 2567 พบว่า นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสูงขึ้น
2. นักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังจาก ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก 6 ใบของเดอโบโน ร้อยละ 80
ประโยชน์ที่ได้รับ
ประโยชน์ต่อบุคคล
1. นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหาดีขึ้น ผ่านจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก 6 ใบ
2. นักเรียนมีความสุข สนุกสนาน และมีความสนใจในการเรียนรู้ สามารถกระตุ้นความสนใจให้เด็กอยากเรียนรู้และลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง
3. นักเรียนมีพัฒนาการทั้ง 4 ด้านเหมาะสมตามวัย เนื่องจากได้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4 ด้านอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ
4. ครูมีความรู้ความเข้าใจ ได้พัฒนาความรู้และทักษะการจัดการเรียนการสอนเพิ่มขึ้นโดยใช้นวัตกรรม ใหม่ๆ และตระหนักในการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง
5.โรงเรียนมีนวัตกรรมใหม่ๆในการต่อยอดเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนเพิ่มขึ้น
ปัจจัยความสำเร็จ
๑. ผู้บริหารตระหนักเห็นความสำคัญของพัฒนาการเด็กปฐมวัยให้เต็มตามวัยและเต็มศักยภาพทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา มีวิสัยทัศน์ มีความรอบรู้ ความสามารถมีภาวะผู้นำและ นิเทศกำกับติดตาม ดูแลให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ส่งเสริมสม่ำเสมอและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
๒. ครูผู้สอนมีความมุ่งมั่นในการจัดกิจกรรมในห้องเรียน โดยใช้รูปแบบการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเชิงรุก (Active Learning) โดยใช้เทคนิคคิดหมวก6 ใบของเดอโบโน เพื่อมุ่งพัฒนาให้เด็กมีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านที่ดีขึ้น
๓. คณะครูให้การสนับสนุนช่วยเหลือให้คำปรึกษาและให้กำลังใจในการทำผลงาน
๔. เด็กมีความสนใจ สนุกสนานและเกิดความกระตือรือร้น ในการเรียน
๕. ผู้ปกครองให้การสนับสนุน ช่วยเหลือดูแลเอาใจใส่ เด็ก ๆ เป็นอย่างมากและให้กำลังใจครูผู้สอน สม่ำเสมอและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
บทเรียนที่ได้รับ
๑. ผลที่เกิดจากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้พร้อมทั้งได้กระบวนการคิด การแสดงออกทางผลงาน และยังช่วยให้พัฒนาการ ทั้ง ๔ ด้าน
ดีขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
๒. เด็ก ๆ นำผลงานของตนเองไปจัดนิทรรศการการนำเสนอผลงานในห้องเรียนและนำเสนอผลงาน ต่อผู้ปกครองและนักเรียนระดับชั้นอื่น ๆ
ข้อเสนอแนะในการนำผลไปประยุกต์ใช้
๑.ควรทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เด็กได้เกิดทักษะการคิดแก้ปัญหาและพัฒนาการมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นและจะทำให้เห็นผลชัดเจนว่า เด็ก ๆ ที่ได้รับการจัดประสบการณ์มีพัฒนาการทั้ง ๔ ด้านที่ดีมากขึ้น อย่างต่อเนื่อง
๒. ครูผู้สอนควรมีอุปกรณ์และสื่อการสอนที่หลากหลาย เน้นสื่อเทคโนโลยีเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการจัดประสบการณ์ ทำให้การสอนมีความหลากหลายเป็นการกระตุ้น ทำให้นักเรียนเกิดการอยากรู้อยากเรียน
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!