inskru

Olympic 2024 ออกแบบสวย ด้วยทฤษฎีสี (Color Theory)

6
2
ภาพประกอบไอเดีย Olympic 2024 ออกแบบสวย ด้วยทฤษฎีสี (Color Theory)

"ทำไมงานโอลิมปิกปีนี้สวยจังเลยอะะ"

เพื่อนคนนึงในเฟสบุ๊คพิมพ์ทิ้งไว้ "เออ จริงด้วยนะ..." หลังจากที่ค่อย ๆ ดูรูปถ่ายที่ทางโอลิมปิกลง คือเรียกได้ว่าติดแกลมสุด ๆ เพราะปีนี้ฝรั่งเศส เจ้าภาพงาน เขาขึ้นชื่อทั้งแฟชั่น ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม แล้วเขาหยิบของพวกนี้มาใช้ได้อย่างเต็มที่ด้วยนะ ไม่ว่าจะออกมาในรูปแบบของเหรียญรางวัลที่ทำจากชิ้นส่วนของหอไอเฟล พอพลิกดูด้านหลังเป็นมุมมองแหงนหน้าขึ้นไปเห็นหอไอเฟล / ชุดผู้เชิญเหรียญรางวัล ที่ได้ Louis Vuitton มาออกแบบ / แข่งกีฬาในพื้นที่สำคัญ ๆ ของเมืองอีก เช่น แข่งว่ายน้ำในแม่น้ำแซน แข่งวอลเลย์บอลชายหาดหน้าหอไอเฟล คือ ทำไมมันเทสดีขนาดนี้อะะ

แต่สิ่งที่ทำให้เราว้าวไม่แพ้กับการใช้ประสิทธิภาพของวัฒนธรรม สังคม หรือดีไซเนอร์แฟชั่นที่เขามีเป็นจุดแข็งแล้ว ก็คือภาพถ่ายสถานที่แข่งขันที่ออกมาแล้วดูป็อป ! ดูหวานเหมือนอยู่ในความฝัน ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีกิมมิคอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเลย เกิดเป็นข้อสงสัยว่า ทำไมเขาถึงเลือกสีออกมาสวย และดูดีขนาดนี้กันนะ ?

ถ้าคุณครูก็คือหนึ่งคนที่กดเข้ามาอ่านด้วยความสงสัยแล้วละก็ นี่แหละ.. คือหนทางในการชวนนักเรียนมาตั้งข้อสงสัย หยิบของรอบตัวที่สวยงามให้เกิดความอยากรู้อยากเรียน ก่อนสอนเนื้อหาเรื่องทฤษฎีสีกัน !

ทฤษฎีสี คือ เนื้อหาความรู้ที่ทำให้เมื่อเลือกใช้สีแล้วจะดูดีมีเทสอย่างเต็มที่ ส่วนตัวที่ตัวเองได้เรียนมาจะใช้วงล้อสีแบบนี้ในการช่วยอธิบายฮะ จะเห็นได้ตั้งแต่ลำดับขั้นของสีที่จะมี 3 ขั้นด้วยกัน ขั้น 1 คือ แม่สี เหลือง น้ำเงิน แดง อย่างที่เรา ๆ รู้จักกันอยู่แล้ว / สีขั้นที่ 2 คือการนำแม่สีเหล่านั้นมาผสมในสัดส่วนที่เท่ากัน เกิดเป็นสีเขียว ส้ม ม่วง ขึ้นมา / สุดท้ายสีขั้นที่ 3 คือการผสมสีขั้นที่ 2 เข้ากับแม่สีอีกทีนึง ในสัดส่วนเท่ากัน ก็จะทำให้ได้สีในหลาย ๆ สีออกมา เช่น เขียว-เหลือง ม่วง-แดง เป็นต้น

สิ่งที่ต้องอธิบายเพิ่ม ซึ่งอาจจะงง ๆ ตอนนี้ แต่จะช่วยอธิบายตอนเลือกคู่สีในพาร์ทเนื้อหาได้ก็คือ แต่ละสีเองสามารถหยอดสีขาว สีเทา สีดำ เพิ่มเข้าไปให้ได้โทนสีใหม่ โดยใช้สีเดิมที่บริสุทธิ์ที่สุด (เรียกว่า Hue) เปลี่ยนสีไปอ่อนลง มืดลง แล้วแต่ที่ต้องการได้ จริง ๆ แล้วก็เหมือนกับวินโดว์ที่ให้เราเลือกสีในโปรแกรมต่าง ๆ เลย

เข้าสู่พาร์ทเนื้อหาหลัก

กิจกรรมแรก :

คุณครูสามารถนำแต่ละรูปที่รู้สึกว่าสวย (เป็นภาพอะไรก็ได้ที่เด็ก ๆ น่าจะสนใจ) มาเปรียบเทียบกับวงล้อสีให้ได้เข้าใจกันว่าที่เราดูภาพนี้แล้วรู้สึกสวย ไม่ขัดตาเป็นเพราะเขาเลือกใช้สียังไง มาดูตัวอย่างไปด้วยกันได้เลยยย

*ข้อจำกัดของกิจกรรมนี้ : ด้วยความที่เป็นภาพถ่าย ทำให้ค่าสีที่ออกมาอาจไม่ได้ตรงเป๊ะ ๆ ในวงล้อสี หากคุณครูลองนำไปสอนจริง อาจต้องหรี่ตาให้สีเข้ากับเนื้อหาคู่สีแบบต่าง ๆ ที่จะสอนดูด้วย

ภาพแรกคือคอร์ต(เดาว่า)แบดมินตัน ซึ่งสีสวยหวานตามสไตล์ เราเลือกจิ้มสีในจุดที่โดนแสงเต็มที่ ไม่เป็นเงามา 2 จุดด้วยกัน ได้แก่เก้าอี้สีม่วง กับฉากกั้นที่เป็นสีม่วงเข้ม นี่คือตัวอย่างของการเลือกใช้สีเดียว แต่เปลี่ยนโทนของมันให้เข้มขึ้นหรืออ่อนลง เรียกว่า Monochromatic

ภาพที่ 2 คือส่วนสแตนด์ที่นั่ง ที่เลือกใช้สีไล่แบบ Gradient เราเลือกจิ้มสีมา 2 จุดด้วยกันที่ฉากกั้น ทำให้เห็นสีฟ้า-เขียว และสีน้ำเงินเข้ม (ซึ่งเป็น Shade) นี่คือตัวอย่างของการเลือกใช้สีที่อยู่ใกล้ ๆ กัน ทำให้เรารู้สึกไม่แตกต่างกันเกินไปนัก เรียกว่า Analogous

ภาพต่อมาคือส่วนคอร์ตเทนนิส ที่เลือกใช้สีออกส้ม ๆ คล้าย ๆ จะเป็นคอร์ตดิน ในขณะที่พื้นหลังเป็นกราฟฟิคงานโอลิมปิกปีนี้ที่เลือกโทนสีน้ำเงิน ที่ภาพนี้ออกมาดูดีก็เพราะว่า เขาเลือกใช้สีคู่ครงข้ามกัน ที่เรียกว่า Complementary นั่นเอง / แต่ถ้าบางคนรู้สึกว่าสีตรงข้าม มันตัดกันเกินไปจริง ๆ ก็มีวิธีแก้อยู่ 2 แบบ คือ 1.เลือกใช้สีตรงข้าม ให้มีความสว่าง หรือความมืดเพิ่มเข้าไป (Shade / Tone) หรือ 2.เลือกใช้สีตรงข้ามที่อยู่ข้างเคียงกัน เป็นวิธี Split Complementary ก็ได้ (ซึ่งไม่เจอรูปโอลิมปิกแนวนี้เลย ขออนุญาตใส่รูปธรรมชาติเข้ามาแทนนะะ)

และภาพนี้ที่สีสวยชวนฝัน เป็นโซนจัดแข่งขันกลางแจ้ง กลางเมือง มีการใช้โทนสีฟ้า-เขียว และ ม่วง-แดง (ซึ่งถูกเติมขาวจนเป็น Tint) พอแมตช์กับเหลือง-ส้ม (ที่ต้องพยายามหรี่ตามาก ๆ ให้เห็นว่าถูกเติมเทาจนเป็น Tone) จะได้ 3 สีประสานกัน เป็นรูปแบบที่เรียกว่า Triadic นั่นเอง

ก่อนไปสู่กิจกรรมต่อไปที่คุณครูสามารถทำได้ในห้องเรียน อาจจะมีคุณครูสงสัยว่า "เอ๊ะ แล้วมันมีวิธีจับคู่สีแบบอื่น ๆ อีกมั้ยนะ" คำตอบคือ มีฮะะ ลองดูได้ตามภาพต่อไปเลย เรารวมมาให้คุณครูลองหยิบไปใช้เรียบร้อยเลย

กิจกรรมนี้จะต่อยอดให้สนุกได้ ถ้าให้เด็ก ๆ ลองเลือกรูปมาเองแล้วระบายสีว่าที่มันสวยเป็นเพราะเลือกใช้สีอย่างไร / หรือทำเป็นการ์ดให้เด็ก ๆ สุ่ม แล้วเดินรอบโรงเรียน ถ่ายรูปที่มีสีตรงตามการ์ดมาก็น่าสนใจเช่นกันนน

กิจกรรมที่ 2 :

ด้วยความที่ชีวิตจริง ผู้ออกแบบอาจจะเลือกมาแค่บางส่วน ไม่ได้ใช้สีครบ 3 สี / 4 สี อย่างที่เราบอกกันไปก่อนหน้านี้ นี่อาจเป็นโอกาสที่ดีที่คุณครูสามารถชวนเด็ก ๆ มาทบทวนการเลือกคู่สีได้ ผ่านการตั้งคำถามง่าย ๆ ว่า "ถ้าอยากให้ภาพนี้ใช้คู่สีแบบ .... ต้องเติมสีอะไรเข้าไปอีกดีนะ ?" ตัวอย่างเช่น ภาพลู่วิ่งโอลิมปิกภาพนี้ ถ้าอยากใช้คู่สีแบบ 3 สีตรงข้าม จะต้องเติมสีอะไรเข้าไปอีกดี ?

คุณครูลองนึกตามก่อนเลื่อนไปดูเฉลยน้าาา

.

.

.

.

.

เฉลยคือสีเขียว-เหลือง ! ถามว่ารู้ได้ไง ? ก็เพราะในภาพตอนนี้มีสีส้ม-แดง และ ม่วง-น้ำเงิน (ที่ถูกผสมขาวจนเป็น Tint) ที่เหลือก็คือวาดสามเหลี่ยมด้านเท่าทาบลงไปกับวงล้อสีดู จะได้แบบนี้เลย / สำหรับนักเรียนที่ยังเด็ก อาจจะงง ๆ อยู่บ้าง เราก็ทำให้เข้าใจง่ายขึ้นโดยการบอกว่า ตัวการ์ตูนไหนที่ลงไปวิ่งลู่นี้ได้ พร้อมจิ้มตัวการ์ตูนที่มีสีตรงตามคำตอบก็อาจจะสนุก ๆ ดีเหมือนกันนะ

สุดท้ายนี้ จริง ๆ การออกแบบที่สวย หรือภาพที่เราเห็นว่าสวยไม่ได้ใช้แค่ความรู้เรื่องทฤษฎีสีอย่างเดียวหรอก คุณครูอาจทำให้ชัดขึ้น โดยการหยิบใช้ตัวอย่างนั้นซ้ำ ๆ เท่าที่ทำได้กับเนื้อหาเรื่องอื่น ๆ ก็ได้นะ เช่น เรื่องการใช้สีด้วยสัดส่วนที่ไม่เท่ากัน / การเบรคสีด้วยสีขาว หรือ สีดำ / การจัดองค์ประกอบ / ภาพ-พื้นหลัง / ความสมมาตร เป็นต้น (หรือจะลองนำกิจกรรมไปใช้ประยุกต์ต่อกับเนื้อหาอื่นก็ได้นะ)

คุณครูคนไหนได้ลองไปใช้สอนแล้วอย่าลืมเขียนไอเดีย แท็กเครดิตไอเดียมาได้นะะ

เดี๋ยวโด้จะรอดูอยู่ค้าบบ เป้นกำลังใจให้คุณครูทุกคนน้า !

ศิลปะทัศนศิลป์หลักการออกแบบทัศนธาตุ

ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

6
ได้แรงบันดาลใจ
2
ลงไอเดียอีกน้า~
avatar-frame
แบ่งปันโดย
insครูโด้ ชินอิจิ
คนเดินถนนคนหนึ่งที่สนใจการเรียนรู้ตลอดชีวิต

อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

please login

แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
credit idea

ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

ไอเดียน่าอ่านต่อ