สวัสดีครับ เป็นไอเดียแรกที่อยากมาแชร์
นักเรียนในยุคสมัยนี้ ต้องการมากกว่าคำสั่ง ต้องการมากกว่าการสอน แต่ในกระบวนการเรียนรู้ของเขานั้น จำเป็นที่จะต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวผู้สอน โดยเฉพาะเป็นผู้สอนที่มีประสบการณ์ลงมือทำจริงในเนื้อหาวิชาที่สอนด้วย
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเขียนนิยายขนาดยาว (และยังไม่จบ) ของผมครับ
------------------------------------
เหตุเกิดจากผมเปิดสอนในรายวิชาวรรณกรรมแปลและเทอมต่อมาก็เปิดสอนในรายวิชาการเขียนเรื่องสั้น ทั้งสองวิชาเป็นวิชาเลือกเสรี
จากคำถามหนึ่งในห้องเรียนว่า "อาจารย์เคยแปลงานไหม?" "อาจารย์เคยเขียนเรื่องสั้นไหม?" ที่สะท้อนให้เห็นว่า นักเรียนต้องการมากกว่าทฤษฎี ตัวอย่างงานเขียนของนักเขียนชื่อดัง หรือเนื้อหาที่ผู้สอนบรรจงคัดสรรมาให้ผู้เรียน
แต่สิ่งที่ผู้เรียนต้องการก็คือ "ผู้ที่ลงมือทำและมีประสบการณ์จริงในเนื้อหาที่สอน"
-------------------------------------
แน่นอนว่าด้วยภาระงานสอนและด้วยช่วงวัยที่ล่วงเลย ทำให้นึกไม่ออกแล้วว่า เรื่องสั้นเรื่องสุดท้ายที่เขียนคือเมื่อไร อาจจะเคย (ช่วย) เขียนบทละครเวทีบ้าง หรือเขียนเรื่องสั้นเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง แต่เมื่อได้รับคำถามจากผู้เรียน ก็เป็นหน้าที่ของผู้สอนที่ต้องแสดงความสามารถเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์ รวมถึงเป็นกระบวนการ Relearn เรียนรู้ใหม่ของตัวผมเองด้วย
สิ่งที่ตื่นเต้นมากคือ ในห้องเรียนนั้น ตลอดเวลาผมอยู่ในบานะของผู้จัดกระบวนการเรียนรู้แต่เมื่อต้องการลงมือทำเอง เผมก็เป็นหนึ่งในนักเรียนของรายวิชานี้เช่นกัน
-------------------------------------
การเขียนเรื่องสั้นกับวรรณกรรมแปลจึงถูกตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า แล้วเราจะเอาสองสิ่งนี้มาเขียนได้หรือไม่ คำตอบที่ได้คือการสำรวจเนื้อหา สิ่งที่เราชอบและสนใจจะกลายมาเป็นผลงานที่เรารักและภูมิใจนำเสนอได้หรือไม่ ก็พบว่าในความชอบเรื่องสั้นของ Howard Philips Lovecraft หรือ H.P. Lovecraft ที่เป็นแนว Cosmic Horror หยิบมา"แปล" และ "แต่ง" ใหม่ในรูปแบบของเรา มันจะเป็นไปได้หรือไม่ จากนั้นก็เข้าสู่กระบวนการเขียนเรื่องสั้น ที่ใช้ทักษะของวรรณกรรมแปล เกิดเป็น
"บันทึกเรื่องสยองแห่งอาร์คัม" โดยภารโรงแห่งมหาวิทยาลัยมิสคาโทนิค ซึ่งเป็นนามปากกาของผมเอง
-------------------------------------
ไม่แน่ใจว่าจะเรียกได้ว่าาประสบความสำเร็จหรือไม่ หากวัดจากจำนวนผู้อ่านหรือจากรางวัลที่ยังไม่มีใครมอบให้ก็อาจมองได้ว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ แต่สำหรือในห้องเรียน ผมพิสูจน์ให้ตนเองและนักเรียนได้เห็นว่า ในกระบวนการเรียนรู้ ครูผู้สอนเองก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ เป็นผู้ที่ลงมือทำจริง ไม่ใช่เพียงผู้สั่งและตรวจเท่านั้น ผมเชื่อว่าจุดนี้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเรียนได้มากมายจริงๆ
และสุดท้าย....หากมีนักเรียนมาให้คำแนะนำหรือพูดคุยหลังจากที่ได้อ่านงานเขียนของผมแล้ว ผมคงดีใจมาก ๆ เพราะนั่นหมายความว่า ผลการเรียนรู้ที่คาดหวังในรายวิชานั้นประสบความสำเร็จแล้วจริง ๆ
ขอบพระคุณครับผม
--------------------------------------------
หมายเหตุ หากท่านใดที่สนใจ สามารถอ่านนิยายที่ผมเขียนได้ที่ https://www.readawrite.com/a/6a9d77065da7a3790a366339df17a906
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
หากได้แรงบันดาลใจจากไอเดียนี้เหมือนกัน
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!