“ทำไมเราอยากให้เด็กๆ รักการอ่าน”
ครูก้าเริ่มต้นกิจกรรมเวิร์กช็อป Power of Question ด้วยคำถามสั้นๆ ที่ชวนให้ผู้ใหญ่ทั้งห้องต้องนิ่งคิด ว่าที่ผ่านมาผู้ใหญ่อย่างเราต่างทุ่มเทตั้งใจเต็มที่ พยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้เด็กๆ ได้รักการอ่าน แล้วอะไรล่ะคือเหตุผลเบื้องหลังความต้องการนั้น
คุณครูหลายคนช่วยกันแลกเปลี่ยนมุมมองในแบบของตัวเอง บ้างก็ว่าการอ่านช่วยเปิดโลกให้เด็กๆ การอ่านเป็นพื้นฐานการสื่อสาร การอ่านทำให้เด็กๆ เข้าใจคนอื่นๆ ที่แตกต่างบนโลกใบเดียวกัน แม้ไม่เคยพบกันมาก่อน
ครูก้ายิ้มรับทุกคำตอบ ไม่มีคำตอบไหนผิด และเสริมว่า การอ่าน ไม่ใช่เพียงแค่ให้เด็กๆ อ่านหนังสือออก หรือป้อนความรู้ให้กับเด็กๆ เท่านั้น แต่คือโอกาสในการคิดและการเผยตัวตนของเด็กๆ ด้วย
กิจกรรมวิเคราะห์ภาพ
ครูก้าเล่าว่าที่โรงเรียนจิตตเมตต์ มีกิจกรรมน่ารักๆ ที่ทำให้นักเรียนได้มองภาพอย่างพินิจพิเคราะห์ ฝึกอ่านภาพ ฝึกอ่านโลกไปพร้อมกัน เด็กๆ จะได้นำประสบการณ์เดิมที่เคยมี มาใช้สังเกตบริบทในภาพ และคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เป็นการฝึก Working Memory ความจำใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับหลัก EF นั่นเอง โดยคุณครูจะให้นักเรียนนั่งล้อมวงด้วยกัน ทุกคนดูภาพที่คุณครูเลือกมา แล้วให้นักเรียนได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกัน เช่น
เด็กๆ คิดว่าคนที่อยู่ในภาพเขาเป็นใคร และกำลังทำอะไรกันอยู่
นักเรียน: ผู้ชายกับผู้หญิงกำลังวิ่งไปเจอสายรุ้ง
เด็กๆ คิดว่าก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
นักเรียน: ทั้งสองคนหาทางกลับบ้านไม่เจอ เขาก็เลยหลงทางมาที่นี่
เด็กๆ คิดว่าอีก 5 นาทีต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
นักเรียน: ต่อจากนี้เขาก็จะนั่งพักให้หายเหนื่อย แล้วก็หาทางกลับบ้านจนได้กลับถึงบ้าน
เด็กๆ คิดว่าคนที่อยู่ในภาพเขาเป็นใครและกำลังทำอะไรอยู่
นักเรียน: เป็นปู่ แม่ ลูก กำลังนั่งอยู่ในบ้าน ปู่กับหลานกำลังนั่งเล่นกัน แม่ก็นั่งกินชาร้อนๆ อยู่
เด็กๆ คิดว่าก่อนหน้านี้เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น
นักเรียน: ปู่ ลูก แม่ กำลังวิ่งเล่นในสวนหญ้าจนมืด
และอีก 5 นาทีต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
นักเรียน: ปู่กับแม่ลูกจะไปนอนเพราะต้องตื่นเช้า ลูกต้องไปโรงเรียนเช้า แม่ต้องไปทำงานเช้าเหมือนปู่
บทบาทของครูในกิจกรรมนี้ คือการรับฟังความเห็นของนักเรียน คอยจดคำตอบ เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ กล้าเปิดเผยความคิด เปิดเผยตัวตนของตัวเอง สีหน้าท่าทางของคุณครูก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ตัวตนของเด็กๆ ไม่หดหาย เมื่อคุณครูทำให้เด็กๆ รู้สึกปลอดภัย ไม่ถูกตัดสิน บางครั้งที่มีโอกาส คุณครูเองก็สามารถเผยตัวตนของตัวเองร่วมในวงได้ด้วยเช่นกัน
กิจกรรม What’s inside the bag
ชวนนักเรียนคิดต่อเนื่องจากหนังสือภาพ ว่าหากเรามีกระเป๋าหนึ่งใบ จะเอากระเป๋าไปนั้นไปที่ไหน และมีอะไรอยู่ข้างในกระเป๋าบ้าง ให้นักเรียนตกแต่งกระเป๋า และวาดสิ่งที่จะนำใส่เข้าไปในกระเป๋า พร้อมกับเขียนคำอธิบายสิ่งของเหล่านั้นด้วยตัวเอง
ครูก้าเล่าว่า หลายคนอาจจะกังวลว่าถ้าไม่รีบสอนให้เขียน ก.ไก่ ข.ไข่ ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วเด็กๆ จะเขียนได้ได้ยังไง ที่โรงเรียนจิตตเมตต์ใช้วิธีให้เด็กบอกคำที่ต้องการจะเขียน ให้คุณครูเขียนเป็นต้นแบบ แล้วให้เด็กๆ เขียนตาม เหมือนกับวาดรูปตามแบบ มองว่า การเขียนมีไว้เพื่อให้เด็กๆ ใช้สื่อสารสิ่งที่คิด สิ่งที่อยากบอกก่อน เพราะหากใจไม่มา สมองก็ไม่อยากทำตาม
โจทย์ของผู้ใหญ่อย่างเราคือ เราจะทำยังไงได้อีกบ้างที่จะทำให้เด็กๆ ของเรา “รักที่จะอ่าน ก่อนที่จะอ่านได้ รักที่จะเขียน ก่อนที่จะเขียนได้”
การออกแบบกิจกรรมแต่ละครั้ง จึงมักคำนึงถึงสิ่งที่เด็ก ๆ สนใจ เพื่อเป็นพลังหล่อเลี้ยงความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆ ครูก้าเล่าว่าที่โรงเรียนจิตตเมตต์ ทุกคนเป็น ผอ. ซึ่งย่อมาจาก ผู้อำนวยโอกาสให้เด็ก อำนวยโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง เพื่อรับมือกับโลกที่ไม่แน่นอนได้
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!