inskru

การสะท้อนคิดแบบ 5 C’s of Reflection โดย Eyler and Giles

2
2
ภาพประกอบไอเดีย การสะท้อนคิดแบบ 5 C’s of Reflection โดย Eyler and Giles

หากใครต้องการหาไอเดียใหม่ ๆ สำหรับการสะท้อนคิด วันนี้ผมขอเสนอแนวทาง 5 ข้อสำหรับการสะท้อนคิด แบบ 5 C’s of Reflection โดย Eyler and Giles ซึ่งเป็นหลักการง่าย ๆ ที่ครูสามารถประยุกต์ใช้ได้ทุกเรื่องและทุกวิชา


5 C’s of Reflection คืออะไร ?

ปี 1996 Eyler, Giles และ Schmiede ได้เสนอหลัก 4 ข้อสำหรับการสะท้อนคิดที่นำมาใช้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้เรียกว่า 4 C’s of Reflection โดยระบุว่าการสะท้อนคิดที่มีประสิทธิภาพต้อง 1. ต่อเนื่อง (Continuous) 2. เชื่อมโยง (Connected) 3. ท้าทาย (Challenging) และ 4. บริบท (Contextualized) ต่อมาในปี 1999 Eyler และ Giles ได้เพิ่ม C ที่ 5 มาอีก 1 ตัว เพื่อให้การสะท้อนคิดมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั้นก่อคือการโค้ช (Coaching)

การสะท้อนคิดแบบ 5 C’s of Reflection

  1. มีความต่อเนื่อง (Continuous) การสะท้อนคิดควรเกิดขึ้นก่อน ระหว่าง และหลังการจัดกิจกรรม โดย 1) ก่อนการสะท้อน (Pre-reflection) ควรเตรียมผู้เรียนให้เข้าถึงและมีส่วนร่วมกับเรื่องที่จะเรียนรู้ั 2) การสะท้อนระหว่างการจัดกิจกรรม (Reflection during) เกิดขึ้นผ่านการสังเกต การรับรู้และการตั้งสมมติฐาน ความน่าจะเป็นในการหาคำตอบของตนเอง และ 3) การสะท้อนหลังกิจกรมการเรียนรู้ (Post reflection) เป็นการวิเคราะห์ประสบการณ์ใหม่ ๆ ตามความความรู้ ความเช่อที่มีอยู่เพื่อสร้างแนวคิดใหม่ของตนเอง
  2. มีความเชื่อมโยง (Connected) การสะท้อนคิดต้องเชื่อมโยงประสบการณ์การเรียนรู้กับเนื้อหาทางวิชาการ/ ทฤษฎีในแต่ละรายวิชาซึ่งจะสร้างความท้าทายให้ผู้เรียนนำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้ในบริบทที่แตกต่างจากเดิม
  3. มีความท้าทาย (Challenging) การสะท้อนคิดควรกระตุ้นให้ผู้เรียนคิดด้วยวิธีที่ซับซ้อนมากขึ้น ควรท้าทายสมมติฐาน (ความเชื่อของผู้เรียน) และตั้งคำถามกับสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง
  4. มีบริบท (Contextualized) การสะท้อนคิดควรเหมาะสมกับบริบทและเนื้อหาของหลักสูตร/ รายวิชา ตลอดจนลักษณะของการเรียนรู้ของผู้เรียน ครูควรเลือกรูปแบบของกระบวนการสะท้อนว่าจะสะท้อนและสํารวจประเด็นการเรียนรู้ใด หัวข้อการสะท้อนคิดบางประการอาจเกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการก็ได้ หรือเกิดขึ้นแบบมีโครงสร้าง มีกระบวนการ ผ่านการสะท้อนคิดแบบบุคคล กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ และอาจสะท้อนคิดร่วมกันครูกับผู้เรียนหรือเฉพาะผู้เรียนกับผู้เรียนก็ได้
  5. มีการโค้ช (Coaching) การสะท้อนคิดจำเป็นต้องช่วยโค้ชให้ผู้เรียนอย่างต่อเนื่องตลอดกิจกรรมสะท้อนคิดเพื่อให้ผู้เรียนได้เห็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง ผ่านการแนะนำ การให้ข้อเสนอแนะ (ซึ่งไม่ใช่การบงการหรือชี้นำความคิดผู้เรียน) เป็นการเข้าถึงผู้เรียนให้พร้อมสะท้อนความคิดออกมาอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ


อย่าลืมว่าการสะท้อนคิดแบบ 5 C’s of Reflection เป็นเพียงแนวทางให้การสะท้อนคิดมีประสิทธิภาพแต่ยังไม่ใช่วิธีการสะท้อนคิด ครูควรนำเทคนิค/ วิธีการสะท้อนคิดมาใช้ร่วมกับแนวทางนี้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และบริบทห้องเรียนของตนเอง โดยยึดหลักการ มีความต่อเนื่อง (Continuous) มีความเชื่อมโยง (Connected) มีความท้าทาย (Challenging) มีบริบท (Contextualized) และมีการโค้ช (Coaching) เพราะ "การสะท้อนคิดช่วยเพิ่มการโต้ตอบระหว่างครูและผู้เรียนตลอดจนระหว่างผู้เรียนกับผู้เรียนในระหว่างกระบวนการเรียนรู้ การฝึกสะท้อนคิดนี้ยังสนับสนุนการพัฒนาทักษะความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมการมีส่วนร่วมในกระบวนการทำงาน หัวใจหลักของการสะท้อนคิดคือการขับเคลื่อนกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) ได้ "


แหล่งอ้างอิง


สุรพงษ์ กล่ำบุตร : เขียน

การจัดการชั้นเรียนโฮมรูมทักษะการคิดวิเคราะห์ทักษะการตระหนักรู้ในตนเอง

ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

2
ได้แรงบันดาลใจ
2
ลงไอเดียอีกน้า~
แบ่งปันโดย
สุรพงษ์ กล่ำบุตร
Ph.D. student, Faculty of Education, Silpakorn University

อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

please login

แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
credit idea

ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

ไอเดียน่าอ่านต่อ