inskru
insKru Selected

สอบให้สุข : กรณีศึกษาเรื่องคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย

2
2
ภาพประกอบไอเดีย สอบให้สุข : กรณีศึกษาเรื่องคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทย

ที่มาของไอเดีย หรือ จุดประสงค์การสอน

เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมว่าเราสอบเพื่ออะไร ?

การสอบเป็นกระบวนการหนึ่งของการวัดและประเมินผลผู้เรียน (และกระบวนการจัดการเรียนรู้) เราประเมิน (Assessment) เพื่อ

  • สรุปผลการเรียนรู้ (Assessment of Learning) เป็นการประเมินที่เกิดขึ้น ณ จุดสิ้นสุดของการเรียนรู้/ กระบวนการเรียนรู้
  • ประเมินการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) เป็นกระบวนการเกิดขึ้นขณะที่ผู้เรียนกำลังเรียนรู้เพื่อนำผลการประเมินมาพัฒนาผู้เรียน ปรับการสอน ปรับสื่อการเรียนรุ้ ฯลฯ
  • ผู้เรียนประเมินตนเอง (Assessment as Learning) เป็นกระบวนการที่ให้นักเรียนตระหนักรู้ถึงความสามารถ ความรู้ เจตคติของตนเองตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

การสอบแบบกากบาทเป็นแค่ส่วนหนึ่งของการประเมินการเรียนรู้เท่านั้น... "การสอบแบบกากบาทอาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดของครูแต่อาจไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดของการประเมินผู้เรียน" เมื่อพิจารณาตามบริบทของรายวิชา สาระการเรียนรู้ ธรรมชาติของผู้เรียน ความต้องการของผู้เรียน ฯลฯ


อย่าจำกัดคำว่าสอบแค่การกากบาท

ยิ่งกากบาทเด็กยิ่งทุจริต เพราะเราหลาย ๆ คนก็เริ่มทุจริตจากการสอบในห้องเรียน ทำไมเราจึงเลือกทุจริตการสอนทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่ดี ? เพราะส่วนใหญ่ทุกคนคุ้นเคยกับประเมินแล้วตัดสินเลย ผู้เรียนไม่มีโอกาสได้ปรับปรุง แก้ไขความผิดพลาดของตนเอง ไม่มีโอกาสแม้จะตรวจสอบและยืนยันความคิดของตัวเอง....ทำให้ทุ่วงเวลาในการสอบมักพรากความมั่นใจไปจากนักเรียนของเรา

ยิ่งสอน ยิ่งเห็นครูหลาย ๆ ท่านแชร์ความคิดการสอน เราก็ยิ่งเกิดคำถามกับตัวเองว่า...เราวัด ประเมินผลแบบเดี่ยว คู่ กลุ่ม แบบห้องเรียนได้ไหม ? ...ได้สิ ! เราสามารถให้นักเรียนสอบแบบเปิดหนังสือได้เพราะคนเราไม่จำเป็น/ ไม่สามารถจำทุกอย่างบนโลกได้ สิ่งนี้จึงทำให้โลกเรามีตำรา หนังสือ และห้องสมุดไว้ศึกษา ค้นคว้า และอ้างอิง และสุดท้ายเรามีเครื่องมือวัดมากกว่าแค่เฉพาะแบบทดสอบ

เราจึงเริ่มเปลี่ยนการสอบเรื่องคำยืมภาษาต่างประเทศในภาษาไทยใหม่จากเดิมเป็นข้อสอบแบบกากบาทให้เป็นการสอบแบบกลุ่ม เพราะตัวชี้วัดนี้เน้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยได้....ซึ่งเหตุผลส่วนหนึ่งที่ปรับเปลี่ยนก็มาจากการสอบถามผู้เรียนตั้งแต่ต้นคาบเรียนและระหว่างเรียนแล้วว่าต้องการให้ชั่วโมงนี้วัดผล/ สอบอย่างไร.....มาดูกันว่าผลจะโอเคไหม

ขั้นตอน

เราเริ่มด้วยการแบ่งกลุ่มผู้เรียนก่อนเรียน ชี้แจงจุดประสงค์ของการแบ่งกลุ่ม จุดประสงค์การเรียนรู้ และวิธี/ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ รวมถึงเกณฑ์การให้คะแนนของหน่วยการเรียนรู้นี้ หลังจากนี้นักเรียนจะรู้ว่าทุกการเรียนรู้ในแต่บะชั่วโมงจะส่งผลต่อกลุ่มของตนเอง

หลังจากการสอนเรื่องคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยเสร็จแต่ละเรื่อง ครูจะมอบหมายงานให้นักเรียนไปสรุปความรู้ที่ได้ในผังความคิด (ใช้พื้นที่แค่คนละ 1 แผ่น ไม่เน้นสวยแต่เน้นอ่านรู้เรื่องและสรุปเป็นภาษา/ รูปแบบของตนเอง) จนสุดท้ายนักเรียนจะได้ผังความคิดคำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยของนักเรียนเอง

ผังความคิดที่นักเรียนทำครูจะอนุญาตให้นักเรียนนำมาใช้ดูประกอบการสอบได้และการสอบจะใช้กระบวนการกลุ่ม นักเรียนสามารถปรึกษา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในกลุ่มได้ ยืนยันคำตอบกันได้เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกัน ตรงนี้สนุกมากเลย....เพราะเราจะได้เห็นการถกเถียง การยืนยันจากความรู้ แหล่งอ้างอิงที่ตนเองสรุปมา และที่สำคัญเป็นการจับกลุ่มแบบคละสมาชิก ทุกคนกระตือรือร้นที่จะหาคำตอบเพื่อทำให้กลุ่มของตนเองได้คะแนนมากที่สุด ผิดพลาดน้อยที่สุด "ทุกคนอยากมีส่วนร่วมในการสอบ"

คำที่เราให้นักเรียนวิเคราะห์มีทั้งหมด 40 คำ แบ่งเป็นคำไทยแท้ 10 คำ คำยืมจากภาษาเขมร 10 คำ คำยืมจากภาษาบาลี 10 คำ และคำยืมจากภาษาสันสกฤต 10 คำ รวมทั้งหมด 40 คำ โดยให้เวลาทำทั้งหมด 20 นาที (ตรงส่วนนี้ครูสามารถปรับตามบริบทของเราเองได้เลย การสอนเป็นของเรา ห้องเรียนเป็นของเรา เราออกแบบได้ เพื่อการเรียนรู้ที่ดีที่สุด)

จากนั้นจึงแลกเปลี่ยนกันเฉลยโดยให้แต่ละกลุ่มมีส่วนร่วม คำถามแรกที่เราใช้ไม่ใช่ "คำใดถูก" แต่เป็น "คำไหนที่ไม่มั่นใจ" แล้วให้แต่ละกลุ่มช่วยกันอธิบายว่าจริง ๆ แล้วคำนี้เป็นคำยืมจากภาษาใด สังเกตจากอะไร เพราะอะไร

ตัวอย่างคำถามที่ใช้ในห้องเรียน

  • มีคำไหนบ้างที่นักเรียนไม่มั้นใจ
  • ทำไมจึงคิดว่าคำนี้เป็นคำยืมจากภาษานี้
  • นักเรียนสังเกตคำนี้จากอะไร
  • ถ้าคำนี้ไม่ใช่คำยืมจากภาษานี้ นักเรียนคิดว่าจะเป็นคำยืมจากภาษาอะไร

ผลสะท้อนจากนักเรียน หรือ ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น

  • เราไม่พบการทุจริตใด ๆ เลย เป็นการสอบที่ครูสบายใจมาก ๆ ไม่ต้องกังวลว่านักเรียนจะลอกกัน นักเรียนก็ไม่ต้องกังวลว่าคำตอบของตนเองนั้นจะถูกจริงไหม จะผิดจริงไหม จะแน่ใจไหม
  • เป็นการสอบที่ได้เรียนรู้ ทำไมเราจึงคิดแบบนั้น ปกติถ้าสอบคนเดียวผิดก็คือผิด ไม่มั่นใจข้อไหนก็มั่วข้อนั้น แต่นี่ไม่ใช่...ไม่รู้ก็ขอให้เพื่อนอธิบายได้ ถามเพื่อนได้ ยืนยันคำตอบกันได้ ทุกคำตอบจึงเป็นการเรียนรู้
  • นักเรียนมีความสุข ครูมีความสุข ห้องเรียนมีความสุข ชั่วโมงนี้จึงเป็นการสอบสร้างสุข


มาดูดีกว่าว่านักเรียนคิดเหมือนครูไหม ? เสียงสะท้อนจากนักเรียน (อ่านฉบับเต็มจาก Padlet คลิก)

  • การสอบแบบนี้ทำเพื่อน ๆ ในกลุ่มมีความกระตือรือร้นและตั้งใจเพราะเพื่อนจะได้ไม่เดือดร้อน สอบแบบนี้ดีมากค่ะ😸😸
  • ชอบมากค่ะได้ช่วยกันคิดกับเพื่อน ๆ ปรึกษากันไม่ต้องทำคนเดียว
  • ชอบมากที่สุดการที่รวมกันแบบได้ได้ความสามัคคี ช่วยเพือนแบ่งปันความรู้ เพื่อนๆช่วยกันดีมาก รักนะจุ๊บ ๆ
  • การสอบแบบนี้ทำให้หนูกระตุ้นความคิดใสมองตัวเองมากขึ้นและทำให้เองตื่นตัวว่า เอ่อ...เราต้องชวยเพื่อนต้องใช่ความรู้ที่มีต้องใช่ละ แล้วก็ชวยเพื่อนสุดความสามารถทำให้รู้ว่า การทำกิจกรรมแบบนี้กะตุ้นสมองและความสามัคคี 😭😅
  • ส่วนตัวชอบมากค่ะรู้สึกว่าเวลาที่ช่วยกันมันดันคะแนนให้ดีขึ้นกว่านั่งทำคนเดียวทำได้ไวขึ้นไม่เคยสอบแบบนี้มาก่อนรู้สึกว่าดีกว่าทำคนเดียวเหมือนกันค่ะ✨🌟
  • ชอบมาก พอมีเพื่อนเเล้วเเล้วรู้สึกสบายใจบางอย่างที่เราไม่ได้ก็จะมีเพื่อนได้เเล้วคะเเนนเราก็ดีด้วย
  • รู้สึกกระตือรือร้นดีค่ะ เพื่อนๆในกลุ่มช่วยกันดีมากค่ะ เตรียมตัวกันมาดีมากๆ อยากให้มีสอบแบบนี้อีก ได้คะแนนเยอะมาก ๆ เลยค่ะ 😁

บริบท หรือ ข้อเสนอแนะ

  1. ครูควรหมั่นสังเกต สอบถาม หรือให้นักเรียนเขียนสะท้อนคิดด้วยว่านักเรียนคนใดบ้างที่ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบ เพราะกิจกรรมกลุ่มมีข้อจำกัดคือเราไม่คิดคนอื่นก็คิด สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ครูควรหาทางป้องกันให้มากที่สุดเพราะการสอบแบบกลุ่มคือการแชร์กัน ช่วยเหลือกันไม่ใช่การแบกใครคนใดคนหนึ่ง
  2. ไม่จำเป็นต้องให้นักเรียนวิเคราะห์และแยกประเภทของคำตามจำนวนที่ครูกำหนดให้แบบเป๊ะ ๆ เช่น มีคำไทยแท้ 10 คำ แต่อาจให้นักเรียนเลือกที่มั่นใจเพียง 5 คำ หรือ 7 คำ ก็สามารถทำได้
  3. การเลือกบทเพลงที่มีภาษาต่างประเทศตรงตามจุดประสงค์ของการเรียนรู้มาให้นักเรียนวิเคราะห์ก็เป็นแนวคิดที่ดี (และเราคาดว่าจะทำในเร็ว ๆ นี้) โดยให้นักเรียนวิเคราะห์คำภาษาต่างประเทศในภาษาไทยที่ปรากฏในบทเพลงโดยให้นักเรียนเลือกคำที่มั่นใจที่สุดจำนวน...คำ แล้วแยกประเภท เราเสนอว่าให้ครูเลือกสรรหาเพลงมาก่อน 1 เพลงแล้วนำมาใช้ในการสอบเพื่อไม่ใช้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบซึ่งกันและกัน


อย่าลืมว่าเราวัดผลเพื่อหาแนวทางแก้ไข ส่งเสริม พัฒนาผู้เรียนและสะท้อนกระบวนการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่การตัดสินผู้เรียนเพียงอย่างเดียว "การสอบแบบกากบาทอาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดของครูแต่อาจไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดของการประเมินผู้เรียน"


มาสร้างความสุขในการสอบกันครับ

สุรพงษ์ กล่ำบุตร: เขียน


แหล่งอ้างอิง: https://www.educathai.com/knowledge/articles/417

https://www.chonburi.spu.ac.th/journal/booksearch/upload/1545-03-content_104.pdf

ภาษาไทยมัธยมปลายมัธยมต้นการจัดการชั้นเรียนการวัดและการประเมินผลหลักการใช้ภาษาไทย

ไอเดียนี้เป็นไงบ้าง?

2
ได้แรงบันดาลใจ
2
ลงไอเดียอีกน้า~
แบ่งปันโดย
สุรพงษ์ กล่ำบุตร
Ph.D. student, Faculty of Education, Silpakorn University

อยากร่วมแลกเปลี่ยน?

please login

แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru

เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย

icon-please-commentมาเป็นคนแรกที่แลกเปลี่ยนสิ!
credit idea

ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!

ไอเดียน่าอ่านต่อ