1.เด็กสามารถอธิบายความหมายของการแบ่งปันได้
2.เด็กสามารถแสดงพฤติกรรมการแบ่งปันผ่านกิจกรรมต่างๆได้
3.เด็กมีความสุขและเต็มใจที่จะแบ่งปันสิ่งของหรือช่วยเหลือเพื่อน
1.ขั้นนำ
-ครูร้องเพลง “แบ่งปันกันนะ” พร้อมกับทำท่าทางให้เด็ก ๆ ทำตาม
-สนทนากับเด็ก ๆ ว่า "เคยแบ่งของเล่นหรือขนมให้เพื่อนไหม? แล้วรู้สึกอย่างไร?"
2.ขั้นสอน
-ครูอธิบายการเล่นเกม "แบ่งปันกันเถอะ"
-ครูแจกของเล่นหรือขนมให้เด็ก ๆ เป็นคู่ และให้พวกเขาฝึกแบ่งกัน
-ให้เด็กแต่ละคนแสดงท่าทางหรือพูดคำว่า "นี่จ้ะ / นี่ครับ เอาไปแบ่งกันนะ"
3.สรุปและสะท้อนคิด
-ครูถามเด็ก ๆ ว่า "เรารู้สึกอย่างไรเมื่อแบ่งปันให้เพื่อน?"
-ให้เด็ก ๆ สลับกันพูดประโยค "ฉันชอบแบ่งปัน เพราะฉันใจดี"
1. ด้านพฤติกรรม
-เด็กส่วนใหญ่เริ่มแสดงพฤติกรรมการแบ่งปันมากขึ้น เช่น แบ่งขนม แบ่งของเล่นให้เพื่อนโดยไม่ต้องบอก
-มีบางคนที่ยังรู้สึกลังเลหรือไม่คุ้นเคยกับการแบ่งปัน แต่หลังจากเห็นเพื่อนทำ ก็เริ่มทำตาม
-เด็ก ๆ สนุกกับการเล่นบทบาทสมมติและเกมเกี่ยวกับการแบ่งปัน
2. ด้านอารมณ์และความรู้สึก
-เด็ก ๆ รู้สึกดีและภูมิใจเมื่อแบ่งของให้เพื่อน โดยบางคนพูดว่า “เพื่อนยิ้ม เราก็ดีใจ”
-มีเด็กบางคนที่เคยไม่ค่อยแบ่งของเล่น เริ่มพูดว่า “ครูครับ/ค่ะ หนูอยากแบ่งให้เพื่อนด้วย”
-เด็กบางคนที่ได้รับของจากเพื่อนรู้สึกมีความสุขและขอบคุณกลับ
3. ด้านการเรียนรู้และความเข้าใจ
-เด็กสามารถบอกความหมายของการแบ่งปันได้ เช่น “แบ่งของให้เพื่อนแล้วเพื่อนก็มีความสุข”
-เด็กบางคนเริ่มใช้คำพูดที่สุภาพขึ้น เช่น “นี่จ้ะ เอาไปเล่นด้วยกันนะ” หรือ “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
-เด็กเข้าใจว่าการแบ่งปันไม่ได้หมายถึงแค่ของเล่นหรือขนม แต่รวมถึงการช่วยเหลือกันด้วย
กิจกรรมนี้ช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้เรื่องการแบ่งปันผ่านประสบการณ์จริง เด็ก ๆ มีพฤติกรรมที่ดีขึ้นทั้งในด้านการกระทำและคำพูด และสามารถเข้าใจความสำคัญของการแบ่งปันได้อย่างเป็นธรรมชาติ หากต้องการปรับปรุงกิจกรรมเพิ่มเติม อาจเพิ่มการทำซ้ำในชีวิตประจำวัน เช่น การจัด "วันแบ่งปัน" ทุกสัปดาห์ หรือให้เด็กช่วยกันคิดไอเดียแบ่งปันในห้องเรียนและสามารถใช้รางวัลเชิงบวก เช่น การให้ดาวหรือสติกเกอร์สำหรับเด็กที่แสดงพฤติกรรมแบ่งปันจริง ๆ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!