"ผมไม่กล้าพูดจีน"

"หนูกลัวพูดจีนผิด"

ดิฉันขอแจ้งให้ทราบว่า ในภาคเรียนปีการศึกษา 2567/2 หนึ่งในวิชาที่ดิฉันสอนคือ ภาษาจีนเพื่อธุรกิจท่องเที่ยว (จ32206) ซึ่งเป็นวิชา 1.0 หน่วยกิต มีการเรียนการสอน สัปดาห์ละ 2 คาบ โดยเราจะพบกันทุกวันจันทร์และวันศุกร์ (ถึงแม้วันจันทร์จะจำได้แม่นยำ แต่วันศุกร์อาจต้องทบทวนกันอีกที *คิกค้าก*)

สำหรับวิชานี้ ดิฉันมุ่งเน้นให้ผู้เรียนสามารถ พูดภาษาจีนเพื่ออธิบายประเทศไทย จังหวัด และสถานที่ท่องเที่ยวได้ ดังนั้น การจัดกิจกรรมและการประเมินจะเน้น ทักษะการฟังและการพูด เป็นหลัก

แต่พอแจ้งนักเรียนจบเท่านั้นแหละ นักเรียนหลายคนพากันบอกว่า "ไม่กล้าพูดจีนค่ะ!"

ดิฉันก็ได้แต่ *เหม่อing* และพูดกลับไปว่า "ทำม้ายยยยย ไม่เอาคะแนนกันเร้อออออพ่กแก"

แต่ๆๆๆๆๆ แม้ว่าหลายคนจะบอกว่า "ไม่กล้าพูดจีนค่ะ!" แต่การเรียนการสอนยังต้องดำเนินต่อไป และดิฉันเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ว่า นักเรียนของดิฉันทำได้แน่นอน You can do it! 你们能做到哟！สู้สิหญิง!

ดิฉันมองว่าการพัฒนาตนเอง ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับใคร ขอแค่แข่งกับตัวเองก็พอ เหมือนคำคมที่เคยอ่านเจอว่า:

"The only person you should try to be better than is the person you were yesterday." – Unknown

(คนเดียวที่คุณควรพยายามเอาชนะ คือ ตัวคุณเมื่อวาน)

แต่สำหรับคลาสนี้ ดิฉันขอปรับให้เข้ากับตารางเรียนของเราเป็น:

"The only person you should try to be better than is the person you were Mondays."

(คนเดียวที่คุณควรพยายามเอาชนะ คือ ตัวคุณเมื่อวันจันทร์)

เป้าหมายของเรา: นักเรียนในวันศุกร์ ต้องเก่งกว่านักเรียนในวันจันทร์ 🔥

คำถาม: แล้วจะทำอย่างไรให้นักเรียนรู้ว่าตัวเองพูดได้ดีกว่าวันจันทร์ล่ะ

ดิฉันแจ้งให้นักเรียนทราบว่า เราจะทำรายการ "泰有趣 (Tài Yǒuqù) – Thailand is Fun!" โดยแบ่งเป็น พาร์ทของแต่ละคน เพื่อติดตามพัฒนาการด้านการพูดภาษาจีนของนักเรียนในแต่ละคาบเรียน

เกี่ยวกับรายการ

"泰有趣 (Tài Yǒuqù)" เป็นการเล่นคำจาก "太有趣" (Tài Yǒuqù) ที่แปลว่า "สนุกมาก" ซึ่งสื่อถึงเสน่ห์และความสนุกของการท่องเที่ยวไทยในมุมมองใหม่ๆ

คอนเซ็ปต์รายการ:

"เที่ยวไทยให้สนุก พร้อมฝึกพูดจีน!"



⭐️ เริ่มต้นการเดินทาง: เลือกจังหวัดที่ใช่

สัปดาห์แรก ดิฉันให้นักเรียนเลือกจังหวัดในประเทศไทยที่ชอบ บางคนเลือกเชียงใหม่ บางคนเลือกภูเก็ต บางคนเลือกจังหวัดบ้านเกิด

"ครูคะ หนูเลือกสุโขทัย หนูอยากเล่าประวัติศาสตร์"

แค่นั้นแหละ คลาสเรียนของเรากลายเป็นเวทีสนทนา นักเรียนช่วยกันหาคำศัพท์ วางโครงสร้างประโยค และฝึกพูดแนะนำจังหวัดของตัวเองเป็นภาษาจีน

⭐️ ฝึกหนัก แต่สนุก

สัปดาห์ถัดมา ดิฉันสอนนักเรียนเกี่ยวกับการออกเสียง พินอิน น้ำเสียง และที่สำคัญคือ การใช้ภาษากาย ให้เหมือนพิธีกรจริง ๆ นักเรียนต้องเรียนรู้ว่าแค่พูดเก่งยังไม่พอ แต่ต้องทำให้คนดูรู้สึกสนุกไปกับเราด้วย

"大家好！欢迎大家来到微笑之国——泰国“

(สวัสดีค่ะ/ครับ! ยินดีต้อนรับสู่ประเทศแห่งรอยยิ้ม ‘ประเทศไทย’)

เสียงนักเรียนที่ตะกุกตะกักค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเสียงที่มั่นใจมากขึ้น (เก่งมากจ้า)

⭐️ จากฝึกแรก สู่ความมั่นใจเต็มร้อย

กลางเทอม ดิฉันและนักเรียนเริ่มอัดคลิปแบบจริงจังขึ้น ดิฉันให้นักเรียนลองพูดแบบไม่มีสคริปต์ ใช้คำพูดที่เป็นธรรมชาติที่สุด บางคนยังติดขัด แต่ก็ไม่ยอมแพ้

"ครูครับ ขออัดใหม่ได้ไหม"

ผ่านไป 6 สัปดาห์ นักเรียนที่เคยประหม่าเริ่มกล้าพูดมากขึ้น ทุกครั้งที่นักเรียนดูคลิปของตัวเองจากครั้งที่แล้ว ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือนักเรียนภูมิใจในตัวเอง :-)

⭐️ สัปดาห์สุดท้าย: พิธีกรตัวจริง

สุดท้ายก็มาถึงสัปดาห์ที่ 8 วันที่นักเรียนต้องอัดคลิปรายการเต็มรูปแบบ ได้เห็นนักเรียนยืนหน้ากล้องด้วยท่าทางมั่นใจ ไม่มีใครต้องพึ่งกระดาษช่วยจำอีกแล้ว (กรี๊ด ดีจั๊ย >_<)

"谢谢大家！"

(ขอบคุณค่ะ/ครับ)

เมื่อทุกคนจบประโยคสุดท้าย ดิฉันก็ให้นักเรียนดูเปรียบเทียบตัวเองวันจันทร์ กับตัวเองวันศุกร์ถึงความแตกต่าง ซึ่งนักเรียนแต่ละคนมีพัฒนาการที่ดีอย่างเป็นลำดับ ทำให้รู้ว่านักเรียนทำได้ และกลายเป็นพิธีกรตัวจริงงิงงิงงิงงิง

บทเรียนที่มากกว่าภาษาจีน

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากโปรเจกต์นี้ไม่ใช่แค่การสอนภาษาจีน แต่เป็นการเห็นนักเรียนเติบโตและมีความมั่นใจมากขึ้น เห็นนักเรียนกล้าที่จะพูดผิด และเรียนรู้จากมัน เห็นนักเรียนสนุกกับการเรียนรู้ มากกว่าการท่องจำแค่ในหนังสือ

ภาษาจีนไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราเรียนรู้มันอย่างสนุกสนาน และดิฉันหวังว่า นักเรียนของดิฉันจะจำความรู้สึกนี้ไปตลอด

"ครูครับ เมื่อไหร่เราจะได้อัดรายการใหม่อีก"

เสียงถามจากนักเรียนคนหนึ่งทำให้ดิฉันหัวเราะ (ดังมากอย่างเสียสติ) ออกมา

บางที คลาสต่อไป เราอาจจะทำรายการสอนภาษาจีนเที่ยวทั่วโลกก็ได้นะ อิ๊_อิ๊

ผลสะท้อนจากนักเรียน

หลังจากผ่านไป 8 สัปดาห์ นักเรียนหลายคนได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่ชัดเจน ไม่ใช่แค่เรื่องภาษาจีน แต่รวมถึงความมั่นใจ การพูดหน้ากล้อง และการนำเสนอที่เป็นธรรมชาติขึ้น

“ตอนแรกหนูกลัวมากเลยค่ะ กลัวพูดผิด กลัวลืมคำศัพท์ แต่พอฝึกทุกสัปดาห์ หนูรู้สึกว่าตัวเองพูดได้คล่องขึ้นค่ะ”

“ผมไม่คิดว่าตัวเองจะพูดภาษาจีนหน้ากล้องได้ แต่พออัดคลิปไปเรื่อย ๆ ผมเริ่มชิน รู้สึกว่าผมกล้าพูดมากขึ้น”

“สิ่งที่หนูชอบที่สุดคือ การได้ดูคลิปของตัวเองจากสัปดาห์แรกจนถึงสัปดาห์สุดท้าย มันทำให้หนูเห็นว่าหนูเก่งขึ้นจริง ๆ ค่ะ”

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

พัฒนาทักษะการพูดภาษาจีน – นักเรียนสามารถพูดแนะนำจังหวัดของตนเองเป็นภาษาจีนได้อย่างมั่นใจและเป็นธรรมชาติ

เพิ่มความมั่นใจในการพูดต่อหน้ากล้อง – จากความประหม่าในสัปดาห์แรก นักเรียนจะกลายเป็นพิธีกรมืออาชีพในสัปดาห์สุดท้าย

ฝึกการคิดเป็นภาษาจีน – นักเรียนสามารถพูดโดยไม่ต้องพึ่งสคริปต์มากเกินไป และสามารถด้นสดได้หากลืมบางคำ

สร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนภาษาต่างประเทศ – การเรียนผ่านการปฏิบัติจริงช่วยให้นักเรียนเห็นว่าภาษาจีนไม่ใช่เรื่องยากหรือน่าเบื่อ

ทักษะการนำเสนอและการใช้ภาษากาย – นักเรียนสามารถใช้ภาษากาย น้ำเสียง และจังหวะการพูดได้เหมือนพิธีกรจริง

ข้อเสนอแนะ

ให้ฟีดแบ็กเป็นรายบุคคล – นักเรียนแต่ละคนมีระดับความสามารถที่ต่างกัน ครูควรให้คำแนะนำเฉพาะตัวเพื่อช่วยให้นักเรียนพัฒนาได้เร็วขึ้น

สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน – การทำให้ห้องเรียนเป็นเหมือนสตูดิโอรายการทีวีจะช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น

ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย – นักเรียนสามารถตัดต่อคลิปของตัวเอง หรือใช้แอปพลิเคชันที่ช่วยฝึกออกเสียงภาษาจีนเพื่อเสริมการเรียนรู้

จัดกิจกรรมปิดรายวิชา – อาจมีการประกวดคลิปที่ดีที่สุด หรือให้นักเรียนร่วมกันโหวตว่าใครมีพัฒนาการโดดเด่นที่สุด