“3 ไอเดียสอนนักเรียน ใช้ AI แค่ไหนพอดี?”
ครูทำยังไงได้บ้าง เมื่อนักเรียนใช้ AI ในการเรียน
ปัจจุบันเด็กๆ ใช้ AI ในการเรียนกันเป็นปกติแล้ว ผู้ใช้ย่อมพัฒนาและเติบโตไปกับเทคโนโลยีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และมันอาจไม่ใช่เรื่อง “ต้องห้าม” หรือ “ห้ามได้” อีกต่อไป แต่คุณครูจะสอนเด็กๆ ยังไงได้บ้าง ว่าใช้ยังไงให้เทคโนโลยีเป็น “ผู้ช่วย” ในการเรียน โดยที่ไม่ทำลายกระบวนการคิดและการเรียนรู้ของเด็กๆ
insKru รวมไอเดียสร้างความตระหนักและกระบวนการคิดให้เด็กๆ มีสติและตั้งคำถามกับการใช้ AI ของตัวเองอยู่เสมอ ว่าใช้แค่ไหน แบบไหน ถึงจะพอดี และตัวคุณครูเองจะตั้งคำถามและตอบโจทย์การสอนร่วมกับ AI ต่อไปได้อย่างไร
“อย่ากลัว AI เพราะมันเข้ามาในห้องเรียนตั้งนานแล้ว”
ตอนนี้เด็กๆ เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยตอบคำถาม ช่วยเสนอไอเดีย ช่วยหาข้อมูล ช่วยสร้างสื่อ และบางกรณีให้ช่วยทำการบ้านหรือช่วยเขียนงานด้วย บางอย่างช่วยเด็ก ๆ หาความรู้ได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่การใช้งานบางอย่างอาจทำให้ครูกังวลว่า AI จะทำลายกระบวนการเรียนรู้ของเด็กๆ หรือเปล่า
แน่นอนว่าการที่เด็กๆ ใช้ AI เข้ามาช่วยมีทั้งข้อดี แต่ก็มีสิ่งที่ต้องตั้งคำถามและถกกัน รวมถึงหาวิธีสร้างความตะหนักร่วมกับเด็กๆ ต่อไปว่า
“เส้นแบ่ง” ของการใช้ AI ให้เป็น “ผู้ช่วย” กับ การให้ AI “ช่วยทำให้” อยู่ตรงไหน?
ห้ามไม่ได้ และ อาจจะไม่ต้องห้าม (?)
เพราะต่อให้ครูไม่(ให้)ใช้ เด็กๆ ก็ต้องเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีนี้ แต่ครูอาจจะช่วยชี้ให้เด็กๆ เห็น “เส้นแบ่ง” ของการใช้ AI ในการช่วยหากับช่วยคิด/ช่วยทำ ผ่านการเสนอเส้นหรือเกณฑ์ร่วมกันก่อนเรียน ว่าใช้เพื่อช่วยหาได้แค่ไหน เพื่อให้มั่นใจว่า AI จะไม่ทำลายกระบวนการคิด วิเคราะห์และเรียนรู้ด้วยตนเองของเด็กๆ
จากบทความ “เมื่อเด็กๆ ใช้ AI ในทางที่ไม่ควรใช้ (When Students Used AI in a way They Shouldn’t” ของคุณครู Jen Roberts ที่ดูบทสำรวจและถามเด็กๆ ถึงการใช้ AI บอกว่าเด็กๆ หลายๆ คน ไม่ได้ใช้เพื่อ “โกง” แต่มองเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนยุคใหม่จริงๆ เด็กๆ ก็อยากให้เราเชื่อใจเขา ว่าเขาจะใช้ AI ในการเรียนเช่นกัน
แต่ว่าครูจะทำให้เด็กๆ มีวิจารณญาณกับ “เส้นแบ่ง” การใช้ AI ได้ยังไงบ้างนะ?
#1 ใช้ได้ แต่ต้องอธิบายได้
ในห้องเรียนเขียนโค้ด Python ของครูยุทธ์ เด็กๆ ใส่ prompt ให้ AI เขียนโค้ดมาส่งให้ ครูยุทธ์ให้นักเรียนใช้ AI ในการช่วยสร้างโค้ดได้ แต่ว่าปรับขั้นตอนวัดผลให้นักเรียนอธิบายหลักการของโค้ดนั้น แทนการให้ส่งเพียงแค่โค้ด คำสั่งไหนทำอะไร สื่อถึงอะไร หรือถามถึง prompt ที่ใช้
การปรับการวัดผลจากการให้นักเรียนแค่ “ส่งโค้ด” ซึ่งตอนนี้ AI ทำให้ได้ไปเป็นการให้นักเรียนอธิบายหลักการทำงาน ทำให้นักเรียนยังต้องทำความเข้าใจว่าโค้ดไหนทำงานอย่างไร อย่างน้อยจะทำให้นักเรียน “เข้าใจการทำงาน” ของโค้ด และรู้ว่าต้องปรับแก้ตรงไหน หากอยากได้คำสั่งอื่น AI เป็นเพียงเครื่องมือในการช่วยหาข้อมูล ช่วยสร้าง แต่เราเองต้องรักษากระบวนการคิดของเราไว้ด้วยเช่นกัน
#2 AI ไม่ได้ถูกทุกอย่าง อย่าเพิ่งเชื่อ ชวนเด็กตั้งคำถามซ้อนบนคำตอบของ AI
ในเมื่อมนุษย์สร้าง AI และ AI ก็เรียนรู้จากข้อมูลที่มนุษย์สร้าง ถ้ามนุษย์ยังมีอคติ ข้อผิดพลาดในข้อมูลที่ตัวเองผลิต AI ก็ย่อมมีอคติและข้อผิดพลาดเช่นกัน
ในคาบเรียนที่ครูแสนและครูโบ นำ AI มาช่วยตอบคำถามเด็กๆ ในคาบ แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่คำตอบที่ได้จาก AI ครูแสนและครูโบให้เด็กๆ ตั้งคำถามต่อจากคำตอบของ AI ว่า
“เห็นด้วยกับคำตอบที่ AI ให้มาไหม?”
“คิดว่าทำไม AI ถึงตอบแบบนี้? AI ให้ความสำคัญกับอะไรจึงตอบแบบนี้?”
“ลองยกตัวอย่างในชีวิตจริงที่สอดคล้อง หรือ ขัดแย้ง กับคำตอบของ AI หน่อย?”
การให้เด็กๆ ตั้งคำถามต่อจากคำตอบที่ได้จาก AI จะทำให้เด็กๆ ถอยหลังออกมา 1 ก้าว เพื่อวิเคราะห์ วิพากย์ คำตอบของ AI รวมถึงสร้างระยะห่างทางความคิดของเขากับ AI
สิ่งที่ AI ตอบ ไม่ใช่ “ความจริง” หรือ “ถูกต้อง” หรือแม้กระทั่ง “ไร้อคติ” เสมอไป แต่กระบวนการคิดของเด็กๆ เองนี่แหละ ที่จะช่วยสร้างมุมมองที่รอบด้านกว่าให้กับคำตอบที่คุณครูถามตอนแรกสุดได้
#3 ทดสอบ AI และท้าทายความคิดตัวเอง
AI ก็มีหลายตัวให้เลือกใช้ ในห้องเรียนครูโบชวนเด็กๆ ทดสอบและวิเคราะห์คำตอบจาก AI 4 ตัว ด้วยการถามคำถามเดียวกัน แล้วดูความแตกต่างของข้อมูลที่ได้ มีอะไรเหมือน อะไรหายไป
หรือให้นักเรียนถาม prompt คำถามเดิมกับ AI แต่ละตัวอีกครั้งเมื่อผ่านไปหนึ่งอาทิตย์ และดูว่าคำตอบของ AI เปลี่ยนไปยังไงบ้าง หลายครั้งอาจพบ “อาการ AI หลอน” นำข้อมูลที่ไม่มีจริงมาก็มี
การให้เด็กๆ ทดสอบ AI เองก็ทำให้เด็กๆ เท่าทันการใช้ AI มากขึ้น ให้เด็กๆ เห็นว่า AI ก็เรียนรู้มาจากข้อมูลที้มนุษย์สร้างขึ้นใหม่เรื่อยๆ และข้อมูลเหล่านั้น มีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์คำตอบก็อาจเปลี่ยนไป
ถ้าเราพึ่ง AI ล้วนๆ คำตอบของเราอาจไม่ทันโลก แต่ทักษะการค้นหา ตรวจสอบ คำตอบที่นักเรียนได้ จะทำให้เขาไม่ปักใจกับชุดข้อมูลหนึ่งๆ ตลอดไป และเปิดใจรับและขบคิดข้อมูลชุดใหม่ๆ เสมอ
ครูโบแถมว่า ชวนเด็กๆ ท้าทายความคิดตัวเองด้วยว่า เวลาให้ AI หาคำตอบให้ เด็กๆ ลดการใช้ทักษะอะไรของตัวเองลงไป อะไรที่ได้เพิ่มขึ้นมา?
แล้วครูไทย VS AI ไปยังไงต่อ? (ในสเกลห้องเรียน)
สร้างความตระนักเรื่องจริยธรรมและการละเมิดลิขสิทธิ์จากการใช้ AI ให้ทำงานสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ แต่เนิ่นๆ เพราะมีประเด็นว่า AI ก็รวบรวมผลงานของมนุษย์มาสร้างต่อโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ฉะนั้นถ้าหากนักเรียนใช้ AI ให้ “สร้างสรรค์” งาน งานนั้นอาจละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นโดยที่ไม่รู้ตัว
ครูต้องคุยและสร้างเกณฑ์ตั้งแต่ก่อนเรียนกับเด็กๆ ว่า AI ช่วยแค่ค้นหาได้ แต่ให้เด็กๆ ทำกระบวนการสร้างเอง เพราะนอกจากจะมั่นใจได้ว่าไม่ละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่นแล้ว งานนั้นจะมาจากตัวตนที่มีเอกลักษณ์ของนักเรียนแต่ละคนเอง และความคิด มุมมองที่แตกต่างกันจากประสบการณ์ของเด็กๆ แต่ละคนคือลักษณะที่แยกมนุษย์ออกจาก AI นั่นเอง
แล้วครูไทย VS AI ไปยังไงต่อ? (ในภาพใหญ่ - โรงเรียน / ภาครัฐ)
ในภาพใหญ่ ครูในโรงเรียน กระทรวงศึกษา ภาครัฐ ฯลฯ อาจต้องมีแผนการส่งเสริม สร้างความตระหนัก สำหรับครูด้วย และร่วมกันหาเกณฑ์ที่ครูจะให้ AI เข้ามาร่วมในการเรียนของเด็กๆ ด้วย บางประเทศเริ่มมีการตั้งคณะกรรมการ AI แห่งชาติ เพื่ออบรมครูในฐานะผู้ใช้ด้วย การใช้ AI ในการทำงาน routine เพื่อลดภาระงานเอกสาร จะเพิ่มเวลาให้ครูได้มีสมาธิกับการสร้างสรรค์การสอนได้มากขึ้น
แน่นอนว่าต้องหาวิธีการสร้างความตระหนักในรูปแบบที่ได้ผล ไม่กินเวลา ทำได้จริง เพื่อเลี่ยงการสร้างภาระงานเพิ่ม และทำให้ผลลัพธ์ดีๆ ส่งถึงนักเรียนได้จริง
อาจไม่มีไอเดียหรือทางออกที่แก้ไขเรื่องนี้ได้จบ เพราะเทคโนโลยียังคงพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ แต่มนุษย์ในฐานะผู้ใช้ ต้องคอยตั้งคำถามไปพร้อมๆ กับการพัฒนานี้ อีก 5 ปี 1 ปี หรืออาจจะแค่ 6 เดือนหลังจากนี้ ไอเดียนี้ โพสต์นี้ ก็อาจจะตามไม่ทันแล้วก็ได้
การให้เด็กใช้ AI ในการเรียน ก็ต้องสอนการคิดวิเคราะห์อีกขั้นถึงผลของการใช้ AI ด้วย และการที่เราต้องทำการสอนร่วมกับ AI เราเองก็ต้องมีสติ สร้างระยะห่างทางความคิดของเรากับ AI เพื่อรักษากระบวนการคิด ประสบการณ์ ที่จะสร้างสรรค์การสอนที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคนไว้ด้วยเช่นกัน
คุณครูคิดเห็นว่ายังไงกันบ้าง มาเสนอกันได้น้า
เพิ่มเติม:
20 เรื่องจากวงเม้าท์ “ปังหรือพัง เมื่อ AI บุกเด็กและครู”
https://www.facebook.com/share/p/1BnyjdeYBm/
บทความ “ทำอย่างไรเมื่อเด็กๆ ใช้ AI ในแบบที่ไม่ควร” When Students Used AI in a way They Shouldn’t” ของคุณครู Jen Roberts
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!