แนวคิดการสอนครั้งนี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะอธิบายองค์ประกอบสำคัญของศาสนา ให้นักเรียนประถมปลาย เข้าใจได้ง่ายและเห็นภาพชัดเจนให้มากขึ้น โดยใช้อุปมาอุปไมยที่ใกล้ตัว นั่นคือ “ต้นไม้” ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เรียนทุกระดับ สามารถจินตนาการและเข้าถึงได้อย่างเป็นรูปธรรม จึงครุ่นคิดได้ว่าต้นไม้นั้นมีองค์ประกอบหลายส่วนที่มีความสัมพันธ์และเกื้อกูลกัน ทั้ง ราก แก่นไม้ เปลือก ก้านไม้ กิ่งไม้ ผลไม้ และใบไม้ เช่น เดียวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งมีทั้งศาสดา คัมภีร์ พิธีกรรม นักบวช สาวก และเป้าหมายสูงสุด อันเชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ จึงนำแนวคิดเปรียบเทียบส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้กับองค์ประกอบของพระพุทธศาสนาผสมรวมกัน เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในความสัมพันธ์เชิงเปรียบเทียบ
ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้
1) เกริ่นนำและกระตุ้นความสนใจ
2) อธิบายความเปรียบเทียบแบบลำดับขั้น
1. รากไม้ เปรียบได้กับ “ศาสดา”
รากไม้ทำหน้าที่ดูดซึมธาตุอาหารและน้ำจากดินมาเลี้ยงลำต้น และช่วยยึดเกาะต้นไม้ให้มั่นคง เปรียบเสมือนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาและเป็นต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนา พระองค์ทรงตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณโดยพระองค์เอง และทรงแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ ตัวอย่างเช่น ในครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ทรงวางรากฐานของพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่นคง
2. แก่นไม้ เปรียบได้กับ “คัมภีร์” (พระไตรปิฎก)
แก่นไม้คือส่วนสำคัญภายในที่มั่นคง แข็งแรง และมีคุณค่ามากที่สุด เช่นเดียวกับคัมภีร์พระไตรปิฎก อันเป็นที่รวบรวมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แบ่งออกเป็น 3 หมวด ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก ตัวอย่างเช่น พระสูตรในพระสุตตันตปิฎก อย่าง “มหาปรินิพพานสูตร” ที่แสดงหลักธรรมสำคัญไว้ชัดเจน ถือเป็นแก่นแท้ที่ต้องศึกษาอย่างลึกซึ้ง
3. เปลือกไม้ เปรียบได้กับ “พิธีกรรม”
เปลือกไม้มีหน้าที่ห่อหุ้ม ป้องกันอันตรายจากภายนอก แม้จะมิใช่แก่นแท้ของไม้ แต่ก็ยังมีประโยชน์ในการรักษาส่วนภายใน เปรียบเสมือนพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา เช่น พิธีทำบุญตักบาตร พิธีเวียนเทียน หรือการสวดมนต์ที่แม้ไม่ใช่สาระสำคัญสูงสุด แต่ช่วยส่งเสริมศรัทธา ความเข้าใจเบื้องต้น และความสัมพันธ์ในชุมชน ตัวอย่างเช่น พิธีเวียนเทียนในวันวิสาขบูชา ช่วยเตือนให้ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
4. ก้านไม้ เปรียบได้กับ “นักบวช” (พระสงฆ์)
ก้านไม้เป็นทางผ่านของอาหารจากรากสู่ใบและผล มีบทบาทสำคัญในการหล่อเลี้ยงและเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ของต้นไม้ เปรียบได้กับพระสงฆ์ผู้เป็นพหูสูต ศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัย และทำหน้าที่เผยแผ่พระธรรมคำสอนสู่ประชาชน ตัวอย่างเช่น พระมหาเถระผู้มีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา เช่น พระมหินทเถระ ผู้ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนาในลังกาทวีป
5. กิ่งไม้ เปรียบได้กับ “สาวก”
กิ่งไม้แผ่ขยายออกจากลำต้น เป็นผู้รับและส่งผ่านพลังงานสู่ใบไม้ เปรียบได้กับพุทธศาสนิกชนหรืออุบาสกอุบาสิกาผู้ประพฤติตามธรรมคำสอน และช่วยสนับสนุนกิจการพระศาสนา ตัวอย่างเช่น คหบดีผู้มีศรัทธาอย่างท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้สร้างพระเชตวันมหาวิหารถวายเป็นสังฆาราม
6. ผลไม้ เปรียบได้กับ “หลักธรรมคำสอน”
ผลไม้เป็นสิ่งที่ต้นไม้ผลิตขึ้นมาเพื่อสืบเผ่าพันธุ์และเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค เปรียบได้กับหลักธรรมคำสอนที่เกิดจากพระปัญญาของพระพุทธเจ้า เพื่อยังประโยชน์แก่สัตว์โลก เช่น อริยสัจ 4 ไตรลักษณ์ หรือหลักอิทธิบาท 4 ซึ่งเมื่อนำไปปฏิบัติย่อมเกิดผลคือความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม
7. ใบไม้ เปรียบได้กับ “เป้าหมายสูงสุด” (พระนิพพาน)
ใบไม้เป็นส่วนที่ช่วยสังเคราะห์แสงเพื่อหล่อเลี้ยงต้นไม้ทั้งต้น และอยู่ส่วนปลายสุดของกิ่งก้าน เปรียบเสมือนพระนิพพาน อันเป็นจุดหมายสูงสุดของผู้ปฏิบัติธรรม เป็นภาวะที่สงบเย็น ปราศจากกิเลสทั้งปวง ตัวอย่างเช่น พระอรหันตสาวก เช่น พระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ซึ่งบรรลุพระนิพพานด้วยอำนาจแห่งการปฏิบัติตามคำสอน
ต้นไม้ที่เติบโตสมบูรณ์นั้นต้องอาศัยราก แก่น เปลือก ก้าน กิ่ง ใบ และผล ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สัมพันธ์กัน เช่นเดียวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งประกอบด้วยศาสดา คัมภีร์ พิธีกรรม นักบวช สาวก หลักธรรมคำสอน และพระนิพพาน เป็นระบบที่เกื้อหนุนกัน เพื่อหล่อเลี้ยงจิตใจของสรรพสัตว์ให้เจริญงอกงามในทางธรรม
3) ยกตัวอย่างประกอบเพื่อความเข้าใจลึกซึ้ง
4) เชื่อมโยงองค์ประกอบทั้งหมดเข้าด้วยกัน
5) สรุปบทเรียน
รอติดตาม ผลงานนักเรียน และการเปรียบเทียบของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู คริสต์ อิสลาม
ได้ที่เพจ ครูฮาซัน ปั่นการสอน https://web.facebook.com/profile.php?id=100083556491539
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!