เรียนรู้ เข้าใจ จดจำเรื่องราวบุคคลสำคัญ พุทธสาวก/สาวิกา ชาวพุทธตัวอย่าง ผ่านคำใบ้ !!

https://www.facebook.com/share/p/1AwUHgEZT2/

เนื้อหา

พุทธสาวก พุทธสาวิกา และชาวพุทธตัวอย่าง ในระดับชั้น ม.6 แบ่งเป็น

• พุทธสาวก/สาวิกา 4 คน ได้แก่ พระอานนท์ พระปฏาจาราเถรี นางจุฬสุภัททา และนายสุมนมาลาการ
• ชาวพุทธตัวอย่าง 4 คน ได้แก่ รัชกาลที่ 5 พระโพธิญาณเถระ ประยุทธ์ ปยุตฺโต และอนาคาริก ธรรมปาละ

แนวคิดที่นำมาใช้

เกมคุณสมบัติของสิ่งนั้น ๆ เป็นการใช้คำใบ้ ที่สื่อถึงเรื่องราวของบุคคลสำคัญที่ปรากฎในแบบเรียน คำใบ้จะเป็นคำใบ้อ้อม ๆ และคำใบ้ที่อาจแปลได้โดยตรง กระบวนการค้นหาคำใบ้ที่ให้ไปกับเนื้อหาในแบบเรียน ผู้เรียนจะได้ใช้ทักษะการคิด การแปลความ การเชื่อมโยง(คำใบ้สู่เนื้อหา) การสื่อสารทำความเข้าใจ การระบุเรื่องราวซึ่งเป็นสาระสำคัญของบุคคลนั้น ๆ จากคำใบ้ที่ได้ไปให้ได้

ระยะเวลา

2 คาบ แบ่งเป็น

-คาบที่ 1 พุทธสาวก/สาวิก 4 คน

-คาบที่ 2 ชาวพุทธตัวอย่าง 4 คน

กติกา

-บุคคลสำคัญมี 4 คน ต่อคาบ โดยบุคคลสำคัญ 1 คนจะประกอบด้วย 10 คำใบ้ (รวม 40 คำใบ้)

-แจกคำใบ้ให้ให้นักเรียนคนละ 1 คำใบ้ (กรณีนักเรียนเกิน 40 คน ก็ให้นักเรียนจับคู่กัน) โดยจากคำใบ้นักเรียนจะต้องวิเคราะห์ว่า “คำใบ้นั้นบ่งชี้ไปที่บุคคลใด?”

-โดยสืบหาจากหนังสือเรียนของนักเรียน โดยในขั้นนี้นักเรียนจะเกิดกระบวนการตั้งคำถาม เพื่อฝึกการคิดวิเคราะห์ (Analytic Thinking) ซึ่งถือเป็นการบังคับไปในตัวให้ผู้เรียนต้องทบทวนและวิเคราะห์คำใบ้ กับเนื้อหา เกิดการประมวลความรู้อย่างเป็นระบบ [ใช้เวลา 10-15 นาที]

-กำหนดให้นำคำใบ้ ไปยังกลุ่ม(บ้าน)ให้ถูกต้อง (กลุ่มในที่นี้เราเรียกว่า บ้าน เช่น บ้านพระอานนท์ บ้านสุมนมาลาการ บ้านอนาคาริกธรรมปาละ เป็นต้น) กลุ่ม หรือบ้านนึง จะต้องมีแค่ 10 คำใบ้เท่านั้น หากเกิน แปลว่า นักเรียนวิเคราะห์มาผิด ต้องไปหากลุ่มสังกัดให้ได้ในรอบการเดินแต่ละรอบ ถือเป็นการสะท้อนความเข้าใจผิด (misconception check) ที่นักเรียนเรียนรู้จากความผิดพลาดได้

• รอบที่ 1 หาบ้านของคำใบ้นั้น ๆ (1 บ้าน ที 10 คำใบ้) ครูจะเข้าไปตรวจสอบคำใบ้ทุกกลุ่ม คำใบ้ใครมาอยู่ถูกบ้าน(กลุ่ม) แล้ว ก็ไม่ต้องเดินต่อ ปักหลักบ้านนั้นได้เลย ส่วนคนที่ผิด จับให้ไปยืนรอหน้าห้อง เพื่อรอเดินหาบ้านรอบต่อไป

• รอบที่ 2 ถึง 4 (ถ้ามีคนยังหาบ้านไม่ได้) ให้คนที่ยังผิดบ้าน ผิดกลุ่มอยู่เดินหา (1 รอบการเดิน เลือกอยู่ได้ 1 บ้านเท่านั้น) ดังนั้น นักเรียนจะเดินมากที่สุด 4 รอบ เท่านั้น เพราะมีบุคคล แค่ 4 คน (แต่ก็ไม่ค่อยมีคนเดินถึง 4 รอบ ส่วนมาก 2 รอบก็หาบ้านเจอแล้ว)

-นักเรียนทำการรวมกลุ่มคำใบ้ให้ได้ กลุ่มละ 10 ใบ = บุคคลสำคัญ 1 คน ประกอบด้วยคุณสมบัติ(คำใบ้ 10 ใบ) ขั้นนี้นักเรียนจะเกิดการแยกข้อมูล (Categorization) คำมใบ้ของเพื่อนคนไหนที่ไม่ใช่บ้านนั้น ๆ จะถูกคัดออก

ในสถานการณ์จริง นักเรียนก็จะเกิดการยกเหตุผล อธิบาย ว่าทำไมคำใบ้นี้ จึงไม่ใช่บ้าน(กลุ่ม)นี้ ทำให้นักเรียนเข้าใจ และวิเคราะห์ได้ดียิ่งขึ้นถึงความเข้าใจในเรื่องราวของบุคคลสำคัญ ผ่านการซักถามกับเพื่อน ๆ (ฝ่ายนึง คือ คนที่คำใบ้ถูกบ้านแล้ว อีกฝ่ายคือ คนที่ถือคำใบ้มา จะอยู่บ้านนี้แต่ถูกเพื่อนช่วยแนะนำ)

-เมื่อครูตรวจสอบคำใบ้ของแต่ละกลุ่ม ที่ถูกต้องแล้ว ให้นักเรียน ติดคำใบ้นั้นลงในกระดาษแผ่นใหญ่ (หากคำใบ้ไหนยังไม่ใช่ ให้วิเคราะห์ใหม่ และรอการเดินหาบ้านในรอบการเดินต่อไป อาจเป็นรอบที่ 2 3 4 5 ขึ้นกับว่า นักเรียนจะวิเคราะห์ได้ หรือ งงไปเองก่อน555

-เขียนวิเคราะห์ใต้คำใบ้ที่ติดลงกระดาษแผ่นใหญ่แล้ว ดังนี้ 1) ทำไมคำใบ้นี้จึงใช่สำหรับบุคคลคนนี้ 2) คำใบ้นี้บอกเล่าเกี่ยวกับอะไร เหตุการณ์ไหนของบุคคคนนี้จากในหนังสือเรียน

เช่น คำใบ้………………………………………………………………………………

วิเคราะห์ คำใบ้นี้สื่อเชถึงเหตุการณ์ช่วงที่……กำลังจะ……………

ข้อสังเกต/พฤติกรรมที่ค้นพบ

• ในระหว่างการค้นหาคำใบของนักเรียน สังเกตุเห็นกระบวนการตั้งคำถาม เพื่อนำไปสู่คำตอบของนักเรียน การร่วมมือกันวิเคราะห์ การแยกข้อมูลที่ใช่ และไม่ใช่ การอธิบายเหตุผลว่าทำไมคำใบ้นี้ถึงใช่ และไม่ใช่
• นักเรียนมีความกระตือรือร้น ให้ความสนใจ และตั้งใจในการนำคำใบ้ที่ได้ อ่านแบบสแกนหาข้อมูลในเนื้อหาที่ตรงกับคำใบ้
• ครูผู้สอน มีส่วนในการกระตุ้นบรรยากาศให้มีความน่าสนใจ ตื่นเต้น เช่น การจับนักเรียนคนที่หากลุ่ม(บ้าน)ให้คำใบ้ของตัวเองไม่เจอในแต่ละรอบให้ไปยืนหน้าห้องรอก่อน ทำให้บรรยากาศตื่นเต้น และท้าทายมากยิ่งขึ้น หรือ การทำให้นักเรียนไขว้เขวกับคำใบ้ เช่น บอกว่า "คำนี้จะใช่คนนี้ไหมน๊าา..."
• รีวิว จากนักเรียน นางสาว ธ. 6/1 "ดีนะคะอาจารย์ เหมือนเป็นการอ่านเนื้อหาทั้งหมดแบบไม่รู้ตัวค่ะ5555 แบบว่าพยายามหาคีย์เวิร์ดแต่สายตาก็กวาดอ่านหมด พอเข้าใจคร่าวๆ ค่ะ"

ผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้...