ในการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาตามแนวทางการประเมินสมรรถนะผู้เรียน

(PISA)             เพื่อให้นักเรียนได้รับการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะด้านการอ่านตามแนวทาง

PISA ยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน

ตามนโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘–๒๕๖๙

จุดเน้นที่ ๔ ส่งเสริมการอ่าน

เพื่อเป็นวิถีในการค้นหาความรู้และต่อยอดองค์ความรู้ที่สูงขึ้น ข้อ ๔.๒

พัฒนาความสามารถด้านการอ่านตามแนวทาง PISA โรงเรียนบันนังสตาวิทยา

ได้ออกแบบนวัตกรรม YILAPAN Model เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาตามแนวทางการประเมินสมรรถนะผู้เรียน

โดยอธิบายความหมายของ YILAPAN Model ตามกิจกรรม ดังนี้

(๑) Y: Yield Mapping (กำหนดทิศทางผลลัพธ์)

การสร้างความตระหนักรู้ร่วมกันภายในโรงเรียนเกี่ยวกับความสำคัญของส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านตามแนวทาง

PISAและปัญหาผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนที่ต่ำกว่าค่าเป้าหมาย เป็นสิ่งสำคัญที่สุดเพราะเป็นดังจุดหมายปลายทางให้ครูผู้สอนได้เดินไปในทิศทางเดียวกันโดยผู้บริหารจัดการประชุม สร้างการรับรู้ความสำคัญและสร้างแรงบันดาลใจให้ครูผู้สอน ได้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะด้านการอ่านตามแนวทาง PISA ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและบริบทของแต่ละวิชาผ่านชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อนในการจัดการเรียนรู้ในปีการศึกษาที่ผ่านมาตามบริบทของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ร่วมกันกำหนดเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียนครอบคลุมทุกมิติมุ่งส่งเสริมการอ่านเพื่อเป็นวิถีการหาความรู้และต่อยอดองค์ความรู้ที่สูงขึ้น โดยเฉพาะด้านการอ่านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ โดยแต่งตั้งคณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA) มีการกำหนดปฏิทินการดำเนินงาน PISA ที่ชัดเจน

(๒) I: Instruction Development (พัฒนาการจัดการเรียนการสอน)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA)นำผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนมาวิเคราะห์ปัญหาและข้อเสนอแนะ ผ่านการแลกเปลี่ยนทางการเรียนรู้(PLC) ในระดับผู้บริหาร กลุ่มงานวิชาการ และระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อร่วมกันโดยปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนเน้นการส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นอาทิ การออกแบบกิจกรรม การจัดการเรียนการสอนเชิงรุก การวัดและประเมินผลที่หลากหลาย บูรณาการรูปแบบข้อสอบ PISA Style ในการจัดการเรียนรู้และประเมินผลทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ นอกจากนี้โรงเรียนส่งเสริมสนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาตนเอง อาทิ อบรมพัฒนาการสร้างข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่านวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ระดับมัธยมต้นในรูปแบบ On demand  การศึกษาดูงาน และเป็นวิทยากรแกนนำ PISA โรงเรียนสนับสนุนจัดหาสื่อและอุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้ครูได้แสดงศักยภาพในการจัดการเรียนรู้อย่างเต็มความสามารถ

(๓) L: Literacy Promotion (ส่งเสริมความฉลาดรู้)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA)ส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านตามแนวทาง PISA โดยจัดการเรียนการสอนโดยบูรณาการข้อสอบวัดความฉลาดรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ส่งเสริมนักเรียนทำข้อสอบออนไลน์ (PISA Style) เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ความคุ้นชิน ส่งเสริมนักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง (AnywhereAnytime) ผ่านกิจกรรมเพิ่มพูนสมรรถนะความฉลาดรู้ ทางช่อง OBECChannel นำแบบทดสอบจากชุดแบบฝึกทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาวัดสมรรถนะความฉลาดรู้ในระดับสถานศึกษามาใช้ทดสอบความก้าวหน้าของนักเรียนนอกจากนี้ยังส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านตามแนวทาง PISA  ผ่านการลงมือปฏิบัติถอดบทเรียนในการจัดกิจกรรมโครงการ/กิจกรรม ต่าง ๆ ดังนี้

- กิจจกรรมซ่อมเสริมพัฒนาการอ่าน การเขียน

-กิจกรรมวันสุนทรภู่ สู่วันภาษาไทย

- กิจกรรมสัปดาห์วันวิทยาศาสตร์

-กิจกรรมอบรมคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน

-กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้สะเต็มสิ่งแวดล้อมที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ

-กิจกรรมพัฒนาทักษะสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

-กิจกรรมพัฒนาทักษะสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาศาสนา และวัฒนธรรม

- โครงการห้องสมุดมีชีวิตเพื่อสร้างนิสัยรักการอ่าน

(๔) A: Assessment (การประเมินเพื่อพัฒนา)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA)นำผลการบูรณาการรูปแบบข้อสอบ PISA Style ในการจัดการเรียนรู้และประเมินผลทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้นำผลการทดสอบมาวิเคราะห์ร่วมกับครูและนักเรียน สะท้อนผลการประเมินและร่วมกันวางแผนแก้ไขเพื่อเป็น   การยกระดับคุณภาพนักเรียนอย่างต่อเนื่องใช้ผลการประเมินเพื่อค้นหาจุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียน

เพื่อให้สามารถปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมและความต้องการในการแก้ปัญหาของนักเรียนโดยเฉพาะในด้านการอ่านตามแนวทาง PISA และเป็นข้อมูลประกอบการประชุมPLC ของครู เพื่อถอดบทเรียนและพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

(๕) P: Professional Learning Community (PLC) (ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA)ใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยน พูดคุยปัญหา โดยนำผลการวัดและประเมินผลมาวิเคราะห์ปัญหาหาจุดเด่น จุดด้อย เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาต่อยอดซึ่งกระบวนการ PLC คือกระบวนการสำคัญในการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของครูอย่างต่อเนื่องโดยยึดหลักการทำงานร่วมกันของครูในโรงเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในทุกระดับ อาทิระดับผู้บริหาร ระดับฝ่ายวิชาการ ระดับสาระการเรียนรู้ เพื่อถอดบทเรียนร่วมกันและสร้างนวัตกรรมทางการเรียนรู้เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนอย่างแท้จริง ในการร่วมมือส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านตามแนวทางPISA เตรียมความพร้อมสำหรับการประเมิน PISA  และยกระดับคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนบันนังสตาวิทยาอย่างยั่งยืน

(๖) A: Active Supervision (นิเทศติดตามเชิงรุก)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA)ร่วมกับคณะกรรมการการนิเทศการจัดการเรียนการสอน ในการนิเทศ กำกับ ติดตามการจัดการเรียนการสอนของครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยใช้นวัตกรรมการนิเทศ MAPRANGModel ในการกำกับ ติดตามการนิเทศผู้บริหารและผู้รับผิดชอบร่วมกันนิเทศการจัดการเรียนการสอนให้คำแนะนำเพื่อไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน โดยเน้นการส่งเสริมและพัฒนาสมรรถนะด้านการอ่านตามแนวทางPISA มีระบบนักเรียนประเมินครูผู้สอนเพื่อให้ครูได้นำผลการประเมินไปปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน นอกจากนี้ฝ่ายวัดและประเมินผลยังมีการติดตามการนำใช้ข้อสอบวัดความฉลาดรู้ด้านการอ่านโดยให้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้นำไปใช้ในการวัดและประเมินผลในการสอบวัดผลปลายภาคเรียนที่๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๗

(๗) N: Networking & Reflection (สะท้อนผลและเครือข่ายแห่งความร่วมมือ)

คณะกรรมการเตรียมความพร้อมการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล(PISA) สะท้อนผลการดำเนินงานของการนิเทศติดตาม ผ่านชุมชนการเรียนรู้ (PLC)ของครู ผู้บริหาร คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำเสนอผลการดำเนินงานปัญหา อุปสรรค และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง พร้อมทั้งวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา แล้วสะท้อนกลับอย่างสร้างสรรค์โดยครูและผู้บริหารร่วมกันให้ข้อเสนอแนะ คำปรึกษา และแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นไปได้เพื่อให้ครูสามารถปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล การใช้สื่อการบริหารจัดการชั้นเรียน ในภาคเรียนถัดไปให้ดียิ่งขึ้น เพื่อนักเรียนๆได้รับส่งเสริมและพัฒนาด้านการอ่านตามแนวทางPISA พร้อมรองรับกาการประเมินสมรรถนะนักเรียนตามมาตรฐานสากล ได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน