การจัดการเรียนการสอนวิชาทัศนศิลป์ โดยเฉพาะเรื่องสีคู่ตรงข้ามในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดสองห้อง พบปัญหาสำคัญคือ ครูผู้สอนไม่ได้จบเอกทัศนศิลป์โดยตรง ทำให้การอธิบายเนื้อหาเชิงลึก หลักการ และเทคนิคต่างๆ ของสีคู่ตรงข้ามอาจไม่ละเอียดและชัดเจนเท่าที่ควร ส่งผลให้นักเรียนขาดความเข้าใจในหลักการผสมสีและการจัดวางสี ซึ่งสะท้อนจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาทัศนศิลป์ที่ยังไม่เป็นที่น่าพอใจและผลงานของนักเรียนขาดมิติ ขาดความน่าสนใจ และไม่สามารถสื่อสารแนวคิดได้อย่างเต็มที่ ด้วยข้อจำกัดนี้ ผู้นำเสนอผลงานจึงเล็งเห็นความจำเป็นอย่างยิ่งในการนำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระบบคลังสื่อ (OBEC Content Center) มาเป็นเครื่องมือหลักในการแก้ปัญหา โดยผู้นำเสนอผลงานเลือกใช้สื่อเทมเพลตมาช่วยเสริมการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น และลดช่องว่างที่เกิดจากข้อจำกัดของครูผู้สอนที่ไม่ตรงเอก โดยผู้นำเสนอผลงานได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้เรื่องสีคู่ตรงข้ามที่นำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ร่วมกับกระบวนการเรียนรู้เชิงรุก ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้มากที่สุด ไม่ใช่แค่ผู้รับข้อมูล (Bonwell & Eison, 1991) แม้ครูผู้สอนจะไม่ตรงเอก แต่การจัดกิจกรรมที่ให้นักเรียนได้สร้างสรรค์ผลงานโดยตัวนักเรียนเองจะช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่ยั่งยืนและพัฒนาทักษะได้ด้วยตนเอง ซึ่งสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระบบคลังสื่อ (OBEC Content Center) ที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้เรื่องสีคู่ตรงข้ามนี้ คือสื่อประเภทเทมเพลตเรื่องทฤษฎีสี ซึ่งสอดคล้องกับตัวชี้วัดและมาตรฐานการเรียนรู้ตาม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาทัศนศิลป์ ดังนี้ มาตรฐาน ศ 1.1 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คุณค่า งานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ตัวชี้วัดระหว่างทาง ศ 1.1 ป.6/1 ระบุสีคู่ตรงข้าม และอภิปรายเกี่ยวกับการใช้สีคู่ตรงข้ามในการ ถ่ายทอดความคิดและอารมณ์ และ ตัวชี้วัดปลายทางทาง ศ 1.1 ป.6/6 สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์โดยใช้สีคู่ตรงข้ามหลักการจัดขนาดสัดส่วนและความสมดุล ผู้นำเสนอผลงานคาดว่าการนำสื่อเทคโนโลยีดิจิทัลระบบคลังสื่อ OBEC Content Center มาใช้อย่างบูรณาการนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มข้อจำกัดของครูผู้สอนที่ไม่ตรงเอก แต่ยังเป็นการส่งเสริมให้การจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ เรื่องสีคู่ตรงข้ามในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนวัดสองห้อง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนให้เป็นไปตามมาตรฐานและตัวชี้วัดของหลักสูตรอย่างยั่งยืนต่อไป