พลิกโฉมห้องเรียน: เมื่อ AI จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ใน "โครงการห้องเรียนโดนใจ AI เติมพลัง"

จากประสบการณ์อันล้ำค่าที่ได้รับจาก "โครงการห้องเรียนโดนใจ AI เติมพลัง" ฉันได้จุดประกายความคิดที่น่าทึ่งเกี่ยวกับการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามามีบทบาทสำคัญในการพลิกโฉมการเรียนการสอน จากแนวคิดตั้งต้นนี้เองที่ทำให้เกิดการต่อยอดและพัฒนาไปสู่การสร้างสรรค์กิจกรรมในห้องเรียนได้อย่างไม่รู้จบ

เดิมที กิจกรรมในห้องเรียนอาจดูเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อได้ผสานรวมกับพลังของ AI ความรู้สึกกระตือรือร้นและแรงบันดาลใจในการออกแบบการเรียนรู้ของครูก็พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเสริม แต่เป็นเหมือนเพื่อนคู่คิดที่ช่วยให้ครูสามารถสร้างสรรค์วิธีการสอนใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว

ตัวอย่าง PROMPT ที่ใช้ในการออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้

วัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge)

ฉันเป็นครูผู้สอนวิชาคณิตศาสตร์ ม.2 ซึ่งจะต้องสอนตามมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๖๐) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ จำนวน 6 หน่วยการเรียนรู้ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ประกอบไปด้วยหน่วยการเรียนรู้ต่อไปนี้

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ทฤษฎีบทพีทาโกรัส จำนวน 10 คาบ

สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด จำนวนจริงและความสัมพันธของจำนวนจริงและใช้สมบัติของจำนวนจริง ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 จำนวนจริง จำนวน 8 คาบ

สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด จำนวนจริงและความสัมพันธของจำนวนจริง และใช้สมบัติของจำนวนจริง ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 ปริซึมและทรงกระบอก จำนวนจริง จำนวน 12 คาบ

สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.1 เขาใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ตองการวัด และนำไปใช้ ตัวชี้วัด ประยุกต์ใช้ความรู้เรื่องปริมาตรของปริซึม และทรงกระบอกในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์ และปัญหาในชีวิตจริง

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การแปลงทางเรขาคณิต 12 คาบ

สาระที่ 2 การวัดและเรขาคณิต มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหวางรูปเรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้ ตัวชี้วัด เข้าใจและใชความรู้เกี่ยวกับการแปลงทางเรขาคณิต ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจริง

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 สมบัติเลขยกกำลัง 8 คาบ

สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของจำนวน ผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้ ตัวชี้วัด เข้าใจและใช้สมบัติของเลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลัง เป็นจำนวนเต็ม ในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และ ปัญหาในชีวิตจริง

- หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 พหุนาม จำนวนจริง จำนวน 10 คาบ

สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต มาตรฐาน ค ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และนำไปใช้ ตัวชี้วัด การดำเนินการของพหุนาม และใช้พหุนามในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์

เพื่อให้ฉันสามารถสอนรายวิชานี้ได้สอดคล้องตามมาตรฐานและตัวชี้วัดที่กำหนด ช่วยวิเคราะห์ มาตรฐานและตัวชี้วัดดังกล่าว แล้วออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) สำหรับหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวนทั้งหมด 60 คาบเรียน เรียนคาบละ 40 นาที โดยในคาบเรียนที่ 1 ของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ฉันอยากให้คุณช่วยออกแบบวัตถุประสงค์ที่ต่อจากหน่วยการเรียนรู้ก่อนหน้า และทบทวนพื้นฐานนักเรียนสำหรับบางคนพื้นฐานทางด้านวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยดี และวิชาภาษาไทยมีนักเรียนบางคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียน ส่วนในคาบเรียนถัดไปของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ฉันอยากให้คุณออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) ที่ได้ทบทวนพื้นฐานให้นักเรียนในคาบเรียนที่ 1 มาแล้วและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของแต่ละคาบเรียนควรมีความเชื่อมโยงกัน เนื้อหาของแต่ละคาบควรมีความน่าสนใจ เหมาะสำหรับการสอนนักเรียนจำนวน 31 คน สามารถวัดและประเมินผลนักเรียนได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ควรออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้นในคำนึงถึงนักเรียนที่มีความสามารถในการเรียนรู้แตกต่างกัน เน้นเนื้อหาที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน พบเห็นได้ง่าย ทั่วไป เป็นรูปธรรม จับต้องได้ในปี 2025 อย่างละเอียดและสามารถนำไปใช้สอนในห้องเรียนได้จริง นำเสนอข้อมูลเป็นตาราง แยกหน่วยการเรียนรู้ 1-6 อย่างชัดเจนและละเอียด โดยคอลัมน์ของตารางมี |คาบ| |ชื่อเรื่อง| |วัตถุประสงค์การเรียนรู้| เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ สวยงาม

วัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice)

จากวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 ก่อนหน้านี้ ให้ช่วยออกแบบวัตถุประสงค์ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) โดยใช้ข้อมูลอ้างอิงข้อมูลและใช้หัวข้อเดียวกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) สำหรับหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวนทั้งหมด 60 คาบเรียน เรียนคาบละ 40 นาที โดยในคาบเรียนที่ 1 ของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ฉันอยากให้คุณช่วยออกแบบวัตถุประสงค์ที่ต่อจากหน่วยการเรียนรู้ก่อนหน้า และทบทวนพื้นฐานนักเรียนสำหรับบางคนพื้นฐานทางด้านวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยดี และวิชาภาษาไทยมีนักเรียนบางคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียน ส่วนในคาบเรียนถัดไปของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ฉันอยากให้คุณออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) ที่ได้ทบทวนพื้นฐานให้นักเรียนในคาบเรียนที่ 1 มาแล้วและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของแต่ละคาบเรียนควรมีความเชื่อมโยงกัน เนื้อหาของแต่ละคาบควรมีความน่าสนใจ เหมาะสำหรับการสอนนักเรียนจำนวน 31 คน สามารถวัดและประเมินผลนักเรียนได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ควรออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้นในคำนึงถึงนักเรียนที่มีความสามารถในการเรียนรู้แตกต่างกัน เน้นเนื้อหาที่เป็นสถานการณ์จำลองในใบงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันในปี 2025 ให้ตรงตามบริบทของโรงเรียนและนักเรียนดังนี้ 

- บริบทของโรงเรียน ได้แก่ มีอินเทอร์เน็ตทั่วโรงเรียน, อยู่ใกล้กับชุมชน วัด และสถานที่ราชการใน ตำบล, ทุกคนในโรงเรียนรู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี, ทุกคนมีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน 

- บริบทของห้องเรียน ได้แก่ ห้องเรียนมี Smart TV, นักเรียนทุกคนมีมือถือ, มีกระดาษปรู๊ฟ, กระดาษ A4, สมุด, ปากกา, ดินสอ, เก้าอี้นั่งเรียน 

- บริบทของนักเรียน ได้แก่ มีนิสัยชอบชวนเพื่อนคุย สมาธิสั้น ไม่ตั้งใจเรียน มีเด็กที่เรียนทั้ง เก่ง พอใช้ วิชาภาษาไทยไมม่ค่อยได้ เขียนไม่คล่อง ตัวเลขไม่ค่อยได้ และเรียนรู้ช้า รวมถึงมีนักเรียนภาวะการเรียนรู้บกพร่อง (Learning Disability: LD) เรียนร่วมด้วย 

นำเสนอข้อมูลเป็นตาราง แยกหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 อย่างชัดเจนและละเอียด โดยคอลัมน์ของตารางมี |คาบ| |ชื่อเรื่อง| |วัตถุประสงค์การเรียนรู้| เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ สวยงาม

วิเคราะห์ข้อมูล ESCS

ฉันเป็นครูและฉันจะต้องทำการเก็บข้อมูลของนักเรียนของ Essential Skills (ES)ทักษะที่จำเป็น และCharacter Strength (CS) คุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยที่ ES/CS Survey จะดูการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติ และการประเมินตนเองของนักเรียนเท่านั้น แม้ว่าทัศนคติจะเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่พฤติกรรม (เช่น นักเรียนที่เชื่อว่าความฉลาดเปลี่ยนแปลงได้ถ้าพยายาม อาจจะกล้าทำสิ่งที่ยากมากขึ้น) แต่มันไม่ได้เป็นตัวการันตีว่านักเรียนจะแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ตามที่เราคาดหวังมากขึ้นเสมอไป เนื่องจากพฤติกรรมเหล่านั้นได้รับผลกระทบจากสิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากความคิดของนักเรียนด้วย เช่น สภาวะทางกายและใจของนักเรียนในวันนั้น ความสัมพันธ์ที่มีต่อครู (เช่น ถ้านักเรียนโกรธครูอยู่ อาจเป็นเหตุผลที่ไม่ส่งการบ้าน ทั้งที่เค้าคิดว่าการส่งการบ้านเป็นสิ่งที่สำคัญก็ได้) โดยภาพรวมแล้ว นักเรียนที่ฉันสอนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีระดับทัศนคติเฉลี่ยที่เกี่ยวข้องกับ ESCS ซึ่งมีคะแนนนเต็มอยู่ที่ 5 มีดังนี้ Grir = 3.28, Growth Mindset = 3.16, Agency = 3.68, Critical Thinking = 3.44, Collaboration = 3.16, Awareness = 3.18

จากข้อมูลที่ให้ไปทั้งหมดช่วยอ่านและวิเคราะห์ให้หน่อยว่าควรจะพัฒนานักเรียนแต่ละด้านให้คะแนนเฉลี่ยทั้งสองห้องให้มากกว่า 4 หรือให้ถึงระดับ 5 ได้ยังไง

วัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านทักษะที่จำเป็น (Essential Skills : ES) และด้านคุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ (Character Strength : CS)

จากวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) และวัตถุประสงค์ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) ให้ช่วยออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้อย่างเหมาะสมในด้านทักษะที่จำเป็น (Essential Skills : ES) ประกอบไปด้วย Critical Thinking, Awareness, Collaboration และด้านคุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ (Character Strength : CS) ประกอบไปด้วย Grit, Agency, Growth Mindset โดยใช้ข้อมูลอ้างอิงข้อมูลและใช้หัวข้อเดียวกับวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) และวัตถุประสงค์ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) ซึ่งในทุก ๆ คาบจะต้องมีการพัฒนาด้านทักษะที่จำเป็น (Essential Skills : ES) 1 อย่างและด้านคุณลักษณะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ (Character Strength : CS) 1 อย่างไปพร้อม ๆ กัน อย่างเหมาะสมมากที่สุดสำหรับกิจกรรมในแต่ละคาบที่จะต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่องกัน และใช้ข้อมูล ES/CS Survey ทั้งหมด 6 อย่าง ที่ให้ไปในการนำมาออกแบบวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักเรียนได้อย่างตรงจุดมากที่สุด และให้บอกด้วยว่าใช้ตัวไหนในการพัฒนานักเรียนไว้ด้านหน้าของวัตถุประสงค์ สำหรับหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวนทั้งหมด 60 คาบเรียน เรียนคาบละ 40 นาที โดยในคาบเรียนที่ 1 ของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ฉันอยากให้คุณช่วยออกแบบวัตถุประสงค์ที่ต่อจากหน่วยการเรียนรู้ก่อนหน้า และทบทวนพื้นฐานนักเรียนสำหรับบางคนพื้นฐานทางด้านวิชาคณิตศาสตร์ไม่ค่อยดี และวิชาภาษาไทยมีนักเรียนบางคนอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียน ส่วนในคาบเรียนถัดไปของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ ฉันอยากให้คุณออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) ที่ได้ทบทวนพื้นฐานให้นักเรียนในคาบเรียนที่ 1 มาแล้วและวัตถุประสงค์การเรียนรู้ของแต่ละคาบเรียนควรมีความเชื่อมโยงกัน เนื้อหาของแต่ละคาบควรมีความน่าสนใจ เหมาะสำหรับการสอนนักเรียนจำนวน 31 คน สามารถวัดและประเมินผลนักเรียนได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ควรออกแบบวัตถุประสงค์การเรียนรู้ตามข้อมูลดังกล่าวข้างต้นในคำนึงถึงนักเรียนที่มีความสามารถในการเรียนรู้แตกต่างกัน เน้นการทำใบงานที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันในปี 2025 ให้ตรงตามบริบทของโรงเรียนและนักเรียนดังนี้ 

- บริบทของโรงเรียน ได้แก่ มีอินเทอร์เน็ตทั่วโรงเรียน, อยู่ใกล้กับชุมชน วัด และสถานที่ราชการใน ตำบล, ทุกคนในโรงเรียนรู้จักซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี, ทุกคนมีความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน 

- บริบทของห้องเรียน ได้แก่ ห้องเรียนมี Smart TV, นักเรียนทุกคนมีมือถือ, มีกระดาษปรู๊ฟ, กระดาษ A4, สมุด, ปากกา, ดินสอ, เก้าอี้นั่งเรียน 

- บริบทของนักเรียน ได้แก่ มีนิสัยชอบชวนเพื่อนคุย สมาธิสั้น ไม่ตั้งใจเรียน มีเด็กที่เรียนทั้ง เก่ง พอใช้ วิชาภาษาไทยไมม่ค่อยได้ เขียนไม่คล่อง ตัวเลขไม่ค่อยได้ และเรียนรู้ช้า รวมถึงมีนักเรียนภาวะการเรียนรู้บกพร่อง (Learning Disability: LD) เรียนร่วมด้วย 

นำเสนอข้อมูลเป็นตาราง แยกหน่วยการเรียนรู้ 1-6 อย่างชัดเจนและละเอียด ช่วยบอกจำนวนข้อหรือคะแนนของการนำไปวัดและประเมินผลที่อ้างอิงการเรียนจากวัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านความรู้ (Knowledge) และวัตถุประสงค์ด้านการปฏิบัติจริงที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ได้ (Practice) โดยคอลัมน์ของตารางมี |คาบ| |หัวข้อ| |วัตถุประสงค์ด้าน ES (ให้มีคำว่า “นักเรียน” ขึ้นต้นตลอด)| |วัตถุประสงค์ด้าน CS (ให้มีคำว่า “นักเรียน” ขึ้นต้นตลอด)| เขียนเป็นภาษาไทยที่ถูกต้องอย่างเป็นทางการ สวยงาม

วัตถุประสงค์การเรียนรู้ทุกด้าน

คุณเป็น AI ที่เก่ง ฉลาดมากที่สุดในโลกใบนี้เลย และยังวิเคราะห์ข้อมูลได้ดีเยี่ยม อยากให้คุณช่วยนำข้อมูลวัตถุประสงค์ทุก ๆ ด้าน และทุกหน่อวยการเรียนรู้รวมเข้าด้วยกัน แยกเป็นหน่วยการเรียนรู้ที่ 1-6 ให้ถูกต้อง ครบถ้วนทุกคำที่ได้ออกแบบไว้จากด้านบน เป็นตารางแยกของแต่ละหน่วยการเรียนรู้ที่มีองค์ประกอบของคอลัมน์คือ |คาบ| |หัวข้อ| |วัตถุประสงค์ด้านความรู้| |วัตถุประสงค์การเรียนรู้ด้านการปฏิบัติจริง| |วัตถุประสงค์ด้าน ES| |วัตถุประสงค์ด้าน CS| เขียนเป็นภาษาไทยให้ถูกต้องอย่างเป็นทางการ สวยงาม แต่ควรใช้ภาษาที่เป็นของมนุษย์

บรรยากาศการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ที่เคยถูกมองว่าเป็นเรื่องยากและน่าเบื่อ ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นักเรียนต่างรู้สึกสนุกสนาน ตื่นเต้น และมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้มากขึ้น เพราะ AI ได้เข้ามาช่วยเปิดมิติใหม่ ๆ ในการนำเสนอเนื้อหา ทำให้บทเรียนมีความน่าสนใจ ท้าทาย และเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น การเรียนรู้จึงไม่ใช่แค่การท่องจำ แต่เป็นการผจญภัยที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง

AI สามารถทำหน้าที่เป็น "ผู้ช่วยสอน" ที่มีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระงานครูในการจัดทำเอกสารเบื้องต้น ทำให้ครูมีเวลาไปเน้นการปรับแผนให้เข้ากับผู้เรียนได้มากขึ้น การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด หากต้องการให้ AI สร้างแผนการสอนที่เฉพาะเจาะจง จะต้องระบุรายละเอียด อีกทั้ง AI สามารถเรียนรู้จากแผนการสอนที่ให้มา เพื่อสร้างแผนการสอนที่สอดคล้องกับรูปแบบที่ต้องการ ยิ่งมีตัวอย่างแผนการสอนที่ดีให้ AI เรียนรู้มากเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็จะยิ่งมีคุณภาพและตรงตามความต้องการมากขึ้นเท่านั้น