ด้วยโรงเรียนแจ้ห่มวิทยาได้จัดการเรียนการสอนวิชาภาษาซีให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ตามแนวทางของ สสวท. เนื้อหาวิชาจะเกี่ยวข้องกับกับการนำเทคโนโลยีมาสร้างเป็นโปรแกรมด้วยภาษาซี
โดยจะเป็นการสอนระบบความคิดให้นักเรียนสามารถลำดับวิธีการแก้ปัญหาในด้านต่าง ๆ อย่างเป็นระบบหรือที่เรียกว่าอัลกอริทึม แล้วใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยี ก็คือ ภาษาซี ในการถ่ายทอดการแก้ปัญหาออกมาในรูปแบบโปรแกรมต่าง ๆ ที่นักเรียนพัฒนาขึ้นมา จากประสบการณ์การสอนมาตลอดระยะเวลา 15 ปี พบว่านักเรียนส่วนใหญ่จะคิดว่าวิชานี้ยาก เนื้อหาซับซ้อน ไม่สามารถเขียนโปรแกรมได้ด้วยตนเอง ครูมักเน้นเนื้อหาเชิงทฤษฎีและการฝึกปฏิบัติโจทย์ปัญหาที่ไม่สอดคล้องกับบริบทท้องถิ่นส่วนใหญ่จะเป็นโจทย์ปัญหาทางคณิตศาสตร์ นักเรียนกลัวการคำนวณ
บางคนไม่ชอบคณิตศาสตร์ คิดว่าคณิตศาสตร์ยาก ส่งผลให้นักเรียนขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้และเกิดการเชื่อมโยงระหว่างทักษะการเขียนโปรแกรมกับชีวิตประจำวัน นอกจากนี้แล้ว การละเลยการบูรณาการอัตลักษณ์วิถีในหลักสูตรยังอาจนำไปสู่การสูญหายของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอันมีค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคเหนือที่มีประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ เช่น เทศกาลปี๋ใหม่เมืองหรือวันสงกรานต์ไทยในเดือนเมษายนของทุกปี จะเห็นว่าในเทศกาลปี๋ใหม่เมืองของคนภาคเหนือจะมีพิธีกรรมขนทรายเข้าวัด พร้อมประดับตกแต่งด้วยตุงไส้หมู หรือแม้แต่ลวดลายในผ้าทอกระติ๊บข้าวเหนียว เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วมีความเชื่อที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันวัฒนธรรมประเพณีและพิธีกรรมดั้งเดิมกำลังจะค่อย ๆ ผิดเพี้ยนไปตามยุคสมัยเรามักจะไม่ค่อยพบพิธีกรรมขนทรายเข้าวัดและประดับไปด้วยตุงรูปแบบต่าง ๆ หรือการทอผ้า ก็มีจำนวนที่ลดน้อยลงเป็นอย่างมาก ไม่เหมือนในสมัยก่อนจึงทำให้ครูผู้สอนคิดหาวิธีแก้ไขปัญหานี้เมื่อครูผู้สอนเก็บข้อมูล บันทึกผลคะแนน สังเกตการทำกิจกรรมในชั้นเรียนทำให้พบว่าต้นตอของการเขียนโปรแกรมไม่ได้ ก็คือ นักเรียนไม่เข้าใจขั้นตอนการแก้ปัญหา หรือ อัลกอริทึม ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร ขั้นตอนถัดไปคืออะไรและจะถ่ายทอดออกไปเป็นโปรแกรมที่สมบูรณ์ได้อย่างไร จึงเริ่มต้นในปีการศึกษา 2565 ได้พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถีเรื่อง ปี๋ใหม่ม่วนงัน ปากั๋นตัดตุง นำไปจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนตามแนวทาง Constructivism หลังจากการนำไปทดสอบประสิทธิภาพ พร้อมปรับปรุงตามข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญและการทดสอบประสิทธิภาพแล้ว
ปีการศึกษา 2566 นำไปทดลองใช้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ผลที่ได้พบว่าทักษะการแก้ปัญหาของนักเรียนดีขึ้นไปผลสัมฤทธิ์ทางเรียนสูงกว่าปีก่อนหน้า นักเรียนมีรอยยิ้ม มีความสุข กล้าพูด กล้าถามครูผู้สอนมากขึ้น นั่นแสดงถึงการเข้าใจและมีส่วนร่วมในเนื้อหาวิชามากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ครูผู้สอนได้ข้อค้นพบว่ายังไม่มีรูปแบบการสอนที่สามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาควบคู่กับการมีส่วนร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีหรืออัตลักษณ์ท้องถิ่นได้โดยตรง จึงทำให้เกิดแนวคิดในการพัฒนารูปแบบการสอนที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น หรืออัตลักษณ์วิถีขึ้น
ดังนั้นผู้สอนจึงคิดว่าเนื้อหาที่มีความซับซ้อนสามารถเรียนรู้ได้ไม่ยากด้วยกระบวนการการเรียนการสอนที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดเป็นทักษะ การแก้ปัญหาที่จะนำไปสู่เป้าหมายของวิชาภาษาซีได้หากครูผู้สอนมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอน ชุดกิจกรรมและเนื้อหาให้มีบริบทที่ใกล้ตัวนักเรียนมากขึ้นแต่ยังคงรูปแบบตามหลักของวิชาก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถทำให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น จึงได้เกิดการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP) และชุดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง สืบลายศิลป์ ที่ครูผู้สอนเชื่อว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่งกับนักเรียน นวัตกรรมนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมล้านนา แต่ยังเป็นการสร้างบริบทที่มีความหมายสำหรับการเรียนรู้ในวิชาภาษาซี การนำเอาลวดลายผ้าทอในท้องถิ่น จ. ลำปาง มาเป็นโจทย์ในการพัฒนาโปรแกรมจะช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียน ทำให้เกิดการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริงและสร้างความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาผ่านการวิเคราะห์และออกแบบอัลกอริทึมที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมท้องถิ่น ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้แบบองค์รวมพัฒนาทักษะการคิดเชื่อมโยง และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัลอีกทั้งวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศนี้จะช่วยสร้างพลเมืองที่มีความรู้ทางเทคโนโลยีมีความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นมีทักษะการแก้ปัญหาที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 ตลอดจนนำไปสู่การพัฒนาทักษะอาชีพให้เกิดการสร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนในอนาคตได้
ขั้นตอนการดำเนินงาน ได้นำเอา วงจร ADDIE Model มาใช้ ดังต่อไปนี้
1. ขั้นการวิเคราะห์ Analysis
1. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุง พ.ศ.2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนแจ้ห่มวิทยา(ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนตัวชี้วัด คำอธิบายรายวิชา โครงสร้างรายวิชาภาษาซีชั้น ม.4
2. ศึกษาเนื้อหาวิชา หน่วยการเรียนรู้ เรื่องอัลกอริทึม
3. ศึกษาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับลวดลายต่าง ๆ ในวัฒนธรรมล้านนา
4. วิเคราะห์ผลการเรียนรู้ของนักเรียน ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมบูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่องปี๋ใหม่ม่วนงัน ปากั๋นตัดตุง ปีการศึกษา 2567 เพื่อนำผลและข้อค้นพบมาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาในปีการศึกษาถัดไป
2. ขั้นการออกแบบ Design
1. ออกแบบขั้นการสอนของรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP)
2. ออกแบบชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่อง สืบลายศิลป์
3. ออกแบบแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง สืบลายศิลป์ ใบกิจกรรม แบบประเมินทักษะการแก้ปัญหา แบบประเมินชิ้นงาน ข้อสอบก่อนเรียน-หลังเรียน
4. ออกแบบข้อคำถามแบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP)
3. ขั้นการพัฒนา Development
1. ปีการศึกษา 2566 นำรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP) แผนการจัดการเรียนรู้ ใบกิจกรรม แบบประเมินทักษะการแก้ปัญหา แบบประเมินชิ้นงาน ข้อสอบก่อนเรียน-หลังเรียน นำไปให้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์ IOC และทำการปรับปรุงแก้ไขตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ ได้ประเมิน 4 ส่วน ดังนี้
3. ประสิทธิภาพของแบบทดสอบ ได้ดำเนินการ ดังนี้
- หาความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับผลการเรียนรู้หน่วยที่ 1 เรื่อง อัลกอริทึม (IOC)
- หาค่าความยากง่าย ค่าอำนาจจำแนก และค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.91
4. ประสิทธิภาพของแบบประเมินทักษะการแก้ปัญหาและแบบประเมินชิ้นงานได้ค่าประสิทธิภาพ เท่ากับ 4.63
นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี
(AIP) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่อง สืบลายศิลป์ ไปทดสอบประสิทธิภาพกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเคยเรียนเนื้อหานี้มาแล้วปรับปรุงข้อบกพร่องในระหว่างการจัดกิจกรรมการสอนและการวัดประเมินผลให้มีความเหมาะสมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
4. ขั้นดำเนินการ Implement
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่ใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่อง สืบลายศิลป์ ชั้น ม.4 ไปทดลองใช้จริงกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งมีขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้
ขั้นที่ 1สร้างความตระหนักในอัตลักษณ์วิถี (Awareness of IdentityPaths: A) เป็นขั้นตอน
ขั้นที่ 2 สำรวจและวิเคราะห์ปัญหา (Investigation and ProblemAnalysis: I) เป็นขั้นตอน
ขั้นที่ 3 วางแผนแก้ปัญหา (Planning for Problem Solving: P1) เ
ขั้นที่ 4 ปฏิบัติการแก้ปัญหา (Practicing Problem Solving: P2)
ขั้นที่ 5 สะท้อนคิดและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Reflection and Sharing: S)
5. ขั้นการประเมินผล Evaluation
1. เมื่อทำการจัดการเรียนรู้แล้ว ทำการวัดประเมินผลด้วยเครื่องมือที่ผ่านการหาคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญ
2. บันทึกผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการกิจกรรมการเรียนรู้และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นสารสนเทศผู้เรียนผ่านทางเว็บไซต์ https://www.binaryprogramming.net/ ให้ผู้เรียนทราบ สำหรับผู้เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ ได้ทำการสอบซ่อมและได้รับการพัฒนาจนกว่าจะผ่านเกณฑ์ของโรงเรียน
ผลของการดำเนินงานในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2568 ที่เกิดจากการนำไปใช้ คุณค่าของนวัตกรรม/วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศที่ส่งผลการพัฒนาผู้เรียน
1. ได้รูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP) ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 เท่ากับ 87.97/85.22
2. ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถีเรื่อง สืบลายศิลป์ ที่มีประสิทธิภาพเท่ากับ 4.63
3. นักเรียนชั้น ม.4 ที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี (AIP) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่อง สืบลายศิลป์ มีทักษะการแก้ปัญหาในระดับคุณภาพ 3 ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 100
4. นักเรียน ชั้น ม.4 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี
(AIP) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถีเรื่อง สืบลายศิลป์ ในระดับคุณภาพ 4 ขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 92.17
1. ข้อสรุป
1. การบูรณาการอัตลักษณ์วิถีท้องถิ่นเข้ากับการสอนวิชาภาษาซีสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้และพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิผล
2. รูปแบบการเรียนรู้ที่ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาอย่างมีส่วนร่วมบนฐานอัตลักษณ์วิถี(AIP) ร่วมกับชุดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการอัตลักษณ์วิถี เรื่อง สืบลายศิลป์ ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาให้สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่กับวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างเหมาะสม
3. การจัดการเรียนการสอนในลักษณะนี้ส่งเสริมการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ทั้งด้านเทคโนโลยี การคิดวิเคราะห์
และความเข้าใจในวัฒนธรรม
4. หลักสูตรการบูรณาการอัตลักษณ์วิถีนี้ช่วยเสริมสร้างทักษะชีวิตและทักษะอาชีพให้สามารถสร้างรายได้ให้กับนักเรียนและชุมชน
2. ข้อสังเกต
1. ครูผู้สอนอาจต้องพัฒนาความรู้เพิ่มเติมด้านวัฒนธรรมท้องถิ่น
2. อาจมีการเรียนรู้นอกสถานที่หรือเชิญปราชญ์ชาวบ้านเข้ามาร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้
3. ข้อเสนอแนะ
1. ควรมีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการสำหรับครูผู้สอนเพื่อเตรียมความพร้อมในการใช้นวัตกรรมนี้
2. ควรสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับปราชญ์ชาวบ้านและผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้อง
3. ควรมีการประเมินผลและปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องโดยรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน ครู และชุมชน
4. ควรขยายแนวคิดนี้ไปสู่วิชาอื่น ๆ และระดับชั้นอื่น ๆ เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการบูรณาการอัตลักษณ์ท้องถิ่น
5. ควรส่งเสริมให้นักเรียนนำเสนอผลงานในเวทีระดับชาติหรือนานาชาติเพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!