เน้น feedback ที่ทำให้เด็กสัมผัสได้ว่า เราอ่านของเขาทุกบรรทัด และรู้สึกตามไปกับเขา สื่อสารกับเขาด้วยความจริงใจแบบรายบุคคล ไม่ใช่เป็นการตอบแบบรวมๆ
หลายครั้งการที่เด็กคนหนึ่งถูก Bully หรือเป็นผู้ Bully คนอื่น ก็เกิดมาจากความรู้สึกที่พวกเขาขาดความนับถือในตนเอง (Low self-esteem) ไม่รู้สึกมีตัวตนในที่ๆตัวเองอยู่ “ครู” สามารถช่วยพวกเขาได้โดยการออกแบบกิจกรรมง่ายๆ เช่น การชวนคิด ชวนคุยเกี่ยวกับเรื่องราวของบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจต่างๆในสังคม ทั้งในและต่างประเทศ ให้เห็นถึงที่มา ที่ไป วิธีคิดของคนเหล่านั้น ผ่านการร่วมคิด ร่วมคุยกัน จากนั้นก็ให้โจทย์คำถามเกี่ยวกับชีวิต ความฝัน ความตั้งใจ ของพวกเขา เช่น “งานอดิเรก และความชอบของพวกเขาในปัจจุบัน มีอะไรบ้าง ลองเล่าให้ครูฟังหน่อย” และเมื่อพวกเขาส่งมา ครูก็ทำหน้าที่ feedback พวกเขาในรูปแบบเสริมพลัง (empower) แบบรายบุคคล เพื่อให้พวกเขาได้สัมผัสถึงความมีตัวตน ในสายตาของครู แบบที่เขาคือเขา ไม่ใช่เพียงนักเรียนคนหนึ่งในชั้นเรียน
👉ตัวอย่างเรื่องราวสร้างคุณค่าและแรงบันดาลใจที่น่าเล่าให้เด็กๆฟัง
กิจกรรม "เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง"
ดาวน์โหลดแผนการสอนฉบับเต็ม
👉https://inskru.com/idea/-LQIfumqxqVESD3LwNCb?showThanksModal=true
เกมสิ่งที่ทำให้เพื่อนเป็นผู้พ่ายแพ้
👉https://inskru.com/idea/-LQIhnKFfuZsq89PwsFg
พัฒนากระบวนการโดย
ป้ามล ทิชา ณ นคร
ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก
กระบวนการที่ชวนให้เด็กได้ ฝึกคิด ฝึกมอง ในเหตุการณ์และผลกระทบของการ Bully ที่เกิดขึ้นจริง ด้วยภาษาและคำถามที่ดึงความรู้สึกเข้าอกเข้าใจผู้อื่น (empathy) ของเด็กออกมา และสร้างประสบการณ์จำลองทางความคิด ร่วมกับกลุ่มเพื่อนก่อน
เมื่อวันหนึ่งพวกเขาได้เจอกับสถานการณ์จริง สถานการณ์ที่เต็มไปด้วยปัจจัยที่เอื้อต่อการรังแกกัน ความทรงจำได้เคยฝึกคิด ฝึกมองในมุมที่หลากหลายใกล้เคียง จะช่วยให้พวกเขาสามารถย้อนคิด และปรับการตัดสินใจ ยุติการแกล้งกัน รังแกกัน ด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้ไม่ยากเลย...ยิ่งชวนคิดสม่ำเสมอการ reframe ยิ่งมีพลังน้า
ตัวอย่างนิตยสารรณรงค์ลดการกลั่นแกล้ง (Bullying) ภายในโรงเรียนพระวิสุทธิวงส์
cr.ครูมิ้นท์ paradee lerswarit
แท็กที่เกี่ยวข้อง