ย้อนหลัง Pride month ด้วย Pride week สัปดาห์แห่งความหลากหลาย ความเท่าเทียม ที่ไม่ได้มีแค่ในสัปดาห์เดียว แต่มีได้ทุกวันและตลอดไป
เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ด้วย การถอดบทเรียนจาก นิทาน "โฮเวิร์ด เจ้าตุ๊กแกธรรมที่แสนพิเศษ" ที่ช่วยเด็กยอมรับในความธรรมดาของตัวเองและความธรรดาของผู้อื่น
บอกได้เลยว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ใช้หนังสือจาก สำนักพิมพ์ไอโซพอด ทั้งชุดเลยค่ะ เล่าสั้นๆว่าโฮเวิร์ดคิดว่าตัวเองเป็นสุดยอดนักพรางตัวแห่งป่าแต่สุดท้ายก็ได้อยู่ความจริงว่าสิ่งนั้นเป็นแค่เรื่องธรรมดาของป่าแห่งนี้
และด้วยประสบการณ์ส่วนตัวของคุณครูที่เคยโดนเกี่ยวกับ #AsianHate และ #Blacklivesmatter เลยหยิบประเด็นสีผิว มาเป็นตัวเปิดของสัปดาห์แห่งความหลากหลายนี้ เราทุกคนก็คือคนธรรมในสังคมแห่งความหลากหลายนี้ทั้งนั้น (เครดิตภาพ national geographic espanol)
ขนาดหน่วยสังคมขนาดเล็กที่มีกันแค่ 4 คนอย่างห้องเรียนของเราเอง ยังไม่มีใครที่สีผิวเหมือนกันสักคน (สีเทียน Crayola รุ่น Color of the World)
เมื่อเทียบสีได้แล้ว ก็เริ่ม #selfportraitwithmirror วาดภาพตัวเองที่เห็นในกระจกและระบายด้วสีที่ตรงกับตัวเองไม่ใช่แค่สีเนื้อที่แถมในสีเทียนทั่วไป และกระจกที่สะท้อนทุกอย่างออกมาการวาดตามที่เห็นในกระจกก็อาจจะเป็นประตูบานแรกที่ทำให้เด็กๆยอมรับในตัวเอง เพราะก็คงไม่มีใครอยากวาดตัวเองออกมาไม่ดี การวาดทุกอย่างที่ตาเห็นก็นับว่าท้าทายมาก
เสร็จแล้วผลงานของพวกเรา และมุมนี้ก็กลายเป็น photobooth ของห้องไปเลย
วันที่ 2 ของสัปดาห์ด้วย Julian is a mermaid เรียกได้ว่าการเจอหนังสือเล่มนี้คือการตกหลุมรักก็ว่าได้ คงเพราะฝันในวัยเด็กของเราเองก็คือการได้เป็นนางเงือกเหมือนกัน
ในเนื่อเรื่องตอนจบของ Julian is a mermaid คือการที่จูเลียนได้ไปงานคาร์นิวัล และในวันนั้นพึงผ่าน Bangkok Pride มาได้ไม่นาน จึงได้ให้เด็กทำความรู้จักกับงานไพรด์ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดอะไรเพราะเราจะลงรายละเอียดกันทีหลัง วันนี้ขอแค่รู้ไว้ว่ามีงานที่เรียกว่า Pride
จูเลียนที่แต่งเป็นนางเงือกไปเดินคาร์นิวัล งั้นเราก็มาแต่งตัวไปงาน Pride กัน
เด็กๆเลือกชุดเองไม่มีการบังคับหรือยัดเยียดใดๆ บางคนลองใส่กระโปรง บางคนใส่เกาะอก อีกคนอยากใส่โบว์ เลือกได้เลยไม่มีผิดถูก
และกรุ๊ปชอตมันต้องเด่นกันเป็นทีม ดีใจมากที่เด็กๆเอนจอยกับการเลือกชุด ไม่มีความเขินอายเพราะตัวเองเป็นผู้ชายแต่อย่างใด ไม่ว่าโตขึ้นเขาจะเป็นอะไร ขอให้โตขึ้นแบบที่ Never say sorry for who you are!
day 3 กับสำนักพิมพ์ไอโซพอด อีกแล้ว ชื่อเรื่อง วันที่ฉันใจร้ายยิ่งกว่าหมาป่า เล่าเรื่องการโดนบูลลี่ด้วยคำพูดของชาร์ล็อต จนนำไปสู่ความรุนแรงโดยไม่รู้ตัว
สรุปจากนิทานได้ประโยคสั้นๆว่า
คำพูดไม่ได้มีไว้ทำร้ายกัน
และการบุลลี่บางครั้งก็มาคู่กับการล่วงละเมิดในเด็ก ใช้แผนผังเก่าจากไอเดียก่อนของเรา Consent,ความหลากหลายและการบุลลี่ สำหรับเด็กปฐมวัย - insKru แต่รอบนี้เปลี่ยนนิทานจากปิงปิงเป็นป๋องแป๋ง
และในวันนั้นก็เหมือนฟ้าส่งบททดสอบมาให้เด็กๆ ที่มีคนส่งของเข้ามาในโรงเรียนและแซวเด็กๆ ว่าอยากดูจู๋เด็ก เด็กๆรีบวิ่งมาฟ้องอย่างเร็ว แสดงว่าที่เราคุยกันไปเขาจำได้ และเข้าใจว่าต้องปกป้องตัวเองอย่างไร
และทบทวนเรื่อง จุดต่างๆในร่างกายที่เป็นของสงวน ไม่ให้คนอื่นจับเด็ดขาด
มีประสบการณ์จากกิจกรรมเดิมอยู่แล้ว เรื่องนี้เลยเหมือนแค่ทบทวน
และในช่วงนั้นมีข่าวกราดยิงจากประเทศสหรัฐอเมริกา และผู้เสียชีวิตก็อายุใกล้ๆกับเด็กๆ นับว่าเป็นเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ
วันสุดท้าย คือ ทำไมต้องมี Pride
ย้ำว่าสำนักพิมพ์ไอโซพอดไม่ได้สปอนเซอร์ แต่ใช้เองทุกเล่มจริงๆ ชอบ The Pirate moms มากๆตั้งแต่ยังไม่มีการแปลไทยแล้ว ดีใจมากที่มีสำนักพิมพ์ไทยแปลสักที เพราะบิลลี่ในิทานมีคุณแม่ 2 คน ถ้า #พรบสมรสเท่าเทียม ผ่าน จะมีมีเด็กๆที่มีพ่อพ่อ แม่แม่ หรือแม่ พ่อ เพิ่มอีกหลายคนเลย นี่แหละคือความสำคัญของ Pride
และเด็กๆก็ทำธงสีรุ้งร่วมกันด้วยเทคนิคศิลปะคนละเทคนิค แต่นำมารวมกันเป็นธงสีรุ้ง ถึงจะทำด้วยเทคนิคคนละแบบแตพอเอามารวมกันก็กลายเป็นธงที่สวยงาม
มีทั้งเป่าสี พ่นสี หยดสี ใช้อุปกรณ์อื่นในการลงสีนอกจากพู่กัน และลองใช้แอลกอฮอล์ร่วมกับสีน้ำ มีอีกหลายวิธีเลยค่ะ เด็กได้ลองเทคนิคใหม่ๆ แต่พอเอางานมารวมกันเขาก็ยอมรับที่จะติดงานรวมกันกับเพื่อนโดยไม่ได้เปรียบเทียบอะไรเลย
ย้อนหลังนานหน่อย แต่ #HappyPride นะคะ
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย