จะดีแค่ไหน ถ้าเด็ก ๆ ของเราเติบโตขึ้นไป แล้วสามารถรับมือกับความท้าทายในชีวิตจริงได้แบบนี้
“สงคราม ส่งด่วน” ซีรี่ย์จาก Netflix เล่าถึงเรื่องราวของการทำธุรกิจที่ไม่ใช่ง่าย ๆ เพราะมีการหักเหลี่ยมเฉือนคมทางธุรกิจ
ซึ่งเป็นสิ่งท้าทายที่ “สันติ” เจ้าของ Thunder Express ต้องเผชิญหน้าอยู่ทุกวัน และได้ตัดสินใจเฉียบ ๆ ให้เห็นอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
วันนี้ insKru อยากพาคุณครูมาสำรวจสิ่งที่สันติทำผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่าก่อนที่เขาจะสามารถรับมือปัญหาได้นั้น
เขาต้องมีความรู้ ทักษะ หรือทัศนคติอะไรบ้าง และคุณครูอย่างเราจะสามารถชวนนักเรียน เจอสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิต
ตั้งแต่ในห้องเรียนยังไงได้บ้าง
เรียบเรียง : ทีมงาน insKru, โด้ - เวธน์ มโนจุรีหกุล
ซัพพอร์ตโดย : อ.ดร. กนก จันทรา และ อ.เดนท์ - ผศ.ศราวุธ จอมนำ
คำเตือน : มีสปอยล์หลายฉากในเรื่อง คนที่ยังไม่ได้ดู กด Share ไว้ก่อนได้น้า แล้วค่อยกลับมาอ่านกันจ้าาา
“แล้ววันนี้มีพัสดุปลอมเท่าไหร่แล้ว”
“3000 กว่าชิ้นครับคุณสันติ”
ปัญหาใหญ่ที่ Thunder Express ต้องเจอ แค่โกดังเล็ก ๆ ก็แทบจะเก็บพัสดุลูกค้าไม่พออยู่แล้ว ยังต้องเจอของค้างจากการที่คู่แข่งส่งพัสดุปลอมมาป่วนอีก เจอแบบนี้เข้าไป มีหวังคลังแตกแน่ ๆ ไหนจะไรเดอร์ที่ต้องเทียวไปเทียวมาคนละฝั่งมุมเมืองเพื่อส่งพัสดุให้ครบ 3 ครั้งอีก เสียทั้งเวลา เสียแรง แถมเสียพื้นที่เก็บของอีก
สิ่งที่สันติตัดสินใจทำ คือการให้ทีม Tech ทำการเช็คสถานที่ส่งกับ database บ้านรอการขายของธนาคารต่าง ๆ จากการปิ๊งขึ้นมาระหว่างคุยเรื่องบ้านพ่อเสี่ยวหยู
หากมองตามนิยามของสมรรถนะแล้วล่ะก็. . .
K - Knowledge คือการที่สันติรู้ว่าพัสดุมักถูกตีกลับจากบ้านร้าง และได้ข้อมูลบ้านรอขายของธนาคารต่าง ๆ
S - Skill มีทักษะในการสังเกตของสันติและเชื่อมโยงข้อมูลที่มีอยู่
และ A - Attitude คือทัศนคติของสันติที่อยากจะทำให้ไรเดอร์ไม่ต้องทำงานเหนื่อย ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาบ่อย ๆ
คุณครูลองหยิบเหตุการณ์นี้ไปถามนักเรียนดูได้ว่า ถ้าเจอแบบนี้ นักเรียนจะทำยังไง ? ต้องทำยังไงถึงจะแก้ปัญหานี้กันได้นะ ?
หรือมาช่วยกันโยน K-S-A จากเหตุการณ์นี้กันเพิ่มได้นะ
“Thunder ลูกรักป๊า สายพานบึ้มไปแล้ว”
“ถึงไม่มีเครื่องจักร แต่เรายังมีมือมีตีนเว้ย”
โมเมนต์ชี้เป็นชี้ตาย เมื่อการแข่งขันถูกโหมไฟให้ปะทุกว่าเดิม ด้วยการแย่งชิงตำแหน่งพาร์ทเนอร์กับ Mally แพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ Easy Express จึงส่งหนอนไปจัดการขัดขวางด้วยการทำลายระบบสายพานคัดแยกพัสดุ ด้วยคำสัญญาว่าพัสดุจะถึงมือภายใน 1 วัน ทำให้เวลาบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
สิ่งที่สันติตัดสินใจทำ คือการเรียกให้ทุกคนชักชวนคนรู้จักมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อคัดแยกพัสดุขึ้นหลังรถไปส่งตามพื้นที่ต่าง ๆ ในไทย
หากมองตามนิยามของสมรรถนะแล้วล่ะก็. . .
K - Knowledge คือรู้ความสัมพันธ์ของปริมาณงาน ปริมาณแรงงานที่ทำอยู่ และระยะเวลาที่ใช้ทำ ว่าเพียงพอและทันกับเดดไลน์ในการส่งมั้ย / รู้วิธีการสร้างแรงจูงใจให้คนมาช่วยเหลือมากมาย
S - Skill ทักษะในการพูด ในการโน้มน้าวใจพร้อมหยิบยื่นผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล ให้ชักชวนคนรู้จักมาช่วยในเหตุการณ์คับขันแบบนี้
และ A - Attitude คือทัศนคติของสันติที่สู้ไม่ถอยแม้ว่าจะต้องรับมือกับปัญหาไม่คาดฝัน / มีความมั่นใจ กล้าได้กล้าเสียและพร้อมเป็นอีกหนึ่งคนที่จะเหนื่อยไปด้วยกัน
คุณครูลองหยิบเหตุการณ์นี้ไปถามนักเรียนดูได้ว่าถ้าเจอแบบนี้ นักเรียนจะทำยังไง ? ทำอย่างไร จึงจะนำของไปส่งได้ทันเวลา ?
หรือมาช่วยกันโยน K-S-A จากเหตุการณ์นี้กันเพิ่มได้นะ
“โยกรถภาคใต้ไปส่งของภาคอีสานแทน เราจะส่งของภาคใต้ด้วยเครื่องบิน”
เมื่อรถส่งของสายอีสานที่ Thunder Express ดีลไว้ 200 กว่าคัน ถูก Easy Express แย่งตัดหน้าไปหมด ทำให้สันติต้องแก้เกม ถ่ายโอนของเพื่อส่งทางเครื่องบินแทน
สิ่งที่สันติตัดสินใจทำด้วยความกังวลว่าในบริษัทจะยังมีหนอนบ่อนไส้อยู่อีก จึงแอบไปคุยกับเสี่ยวหยู และบอกให้เธอไม่ต้องบอกกเลขไฟล์ตจริง ๆ ที่จะขนของเพื่อให้การส่งของครั้งนี้ไม่ถูกขัดขวางได้ง่าย ๆ
หากมองตามนิยามของสมรรถนะแล้วล่ะก็. . .
K - Knowledge คือการที่สันติรู้ว่าไว้ใจใครได้บ้าง / รู้ภาษาจีน / รู้การส้รางความปลอดภัยในการรับ-ส่งข้อมูล
S - Skill ทักษะในการพูดภาษาจีนซึ่งทำให้การสื่อสารกับเสี่ยวหยูเป็นไปอย่างลับ ๆ
และ A - Attitude คือทัศนคติของสันติที่มีความรอบคอบในการวางแผนมากขึ้นจากประสบการณ์และบทเรียนที่แล้ว ๆ มา
คุณครูลองหยิบเหตุการณ์นี้ไปถามนักเรียนดูได้ว่าถ้าเจอแบบนี้ นักเรียนจะทำยังไง ?
ทำอย่างไร จึงจะสามารถจัดการปัญหาหนอนบ่อนไส้ในองค์กรได้ ?
หรือมาช่วยกันโยน K-S-A จากเหตุการณ์นี้กันเพิ่มได้นะ
“โหพี่ บัตรมันถ่ายมานานแล้ว”
เมื่อนักลงทุนบุญทุ่มของ Thunder Express กำลังนั่งรอที่เลาจ์เพื่อบินไปเชียงใหม่ สันติและเพื่อน ๆ เลยรีบรุดหน้าไปที่สนามบินแต่ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็ไม่ให้เข้าไปข้างในเพราะรูปในบัตรไม่ตรงกับตัวจริง
สิ่งที่สันติตัดสินใจทำด้วยคือการรีบคว้ากรรไกรจากโซนทิ้งของมีคมแถวนั้น มาตัดหน้าม้าด้วยความไม่ห่วงหล่ออะไร
หากมองตามนิยามของสมรรถนะแล้วล่ะก็. . .
K - Knowledge คือการรู้ว่าเจ้าหน้าที่จะพิจารณารูปถ่ายในบัตรประชาชนกับตัวจริง / รู้ว่าแค่ตัดหน้าม้าก็จะเหมือนกับในรูปบนบัตรแล้ว
S - Skill ทักษะในการตัดผมเป็นเส้นตรง (แต่แหว่ง หยอก ๆ) และทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
และ A - Attitude คือ ความกล้า ไม่ห่วงหล่อ จะได้รีบเข้าไปคว้าโอกาสที่อยู่ข้างหน้า
คุณครูลองหยิบเหตุการณ์นี้ไปถามนักเรียนดูได้ว่าถ้าเจอแบบนี้ นักเรียนจะทำยังไง ?
หรือมาช่วยกันโยน K-S-A จากเหตุการณ์นี้กันเพิ่มได้นะ
จากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราหยิบยกขึ้นมา สงสัยมั้ยว่า ทำไมเราถึงแยก K-S-A ออกจากกันได้ยากเหลือเกิน ?
เพราะว่าในสถานการณ์จริงเราใช้ K-S-A ร่วมกันเลยโดยไม่ได้แยกส่วน การแยกออกมาให้ชัดมันช่วยเวลาให้เด็ก ๆ ฝึกฝนเฉย ๆ ครูอย่างเราจะได้ตรวจสอบได้ว่าเขาได้ฝึกครบทุกด้านหรือยัง
แต่ต้องอย่าลืมว่าเวลาเอาไปใช้จริง เขาต้องใช้รวมกันเพราะฉะนั้นอย่าลืมเช็กด้วยว่าเขาเอาทั้งสามด้านนี้ไปใช้ได้มั้ย
จะเห็นได้ว่าสมรรถนะการตัดสินใจในชีวิตจริง อาศัยการประกอบกันของ K - Knowledge ข้อมูล องค์ความรู้ S - Skill ทักษะต่าง ๆ ในชีวิต และ A - Attitude คุณลักษณะที่ดี ที่มีในตัวมากมาย ยิ่งถ้าเราได้ผ่านสถานการณ์ต่าง ๆ เรายิ่งมีชั่วโมงบินรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
และพื้นที่ในห้องเรียนของคุณครูนี่เเหละ ที่ช่วยเสริมประสบการณ์เหล่านี้ ให้เด็ก ๆ ได้ทำการซ้อมใหญ่ ก่อนต้องไปตัดสินใจเรื่องใหญ่ ๆ ในชีวิตของพวกเขาได้จริง ๆ คุณครูลองไปทำดูได้น้าาา
หากอยากสอนให้เด็ก ๆ เรียนไปพร้อมใช้ชีวิต insKru เคยทำบทความไว้แล้ว
เข้าไปอ่านได้เลยที่ https://inskru.com/idea/-O4oAUioaweRQf395IVo
คุณครูคนไหนที่ลองไปออกแบบการสอนแล้ว ได้ผลเป็นไง อย่าลืมกลับมาเล่าให้ฟังกันด้วยน้าาา
แสดงความเห็นกับสมาชิกใน insKru
เก็บไอเดียไว้อ่าน และอีกมากมาย
ได้แรงบันดาลใจเต็มๆ เลยใช่มั้ย?
บันทึกแรงบันดาลใจที่ได้รับเก็บไว้ไม่มีลืมผ่านการเขียนไอเดียเลย!